♥️เคลื่อนไหวกายก็อยู่กับสภาวะรู้ได้
สรรพสิ่งเคลื่อนไหว แปรปรวนแตกดับ
แต่สภาวะรู้ไม่มีอะไรเลย ว่างอยู่ รู้อยู่
ไร้การเคลื่อนไหว ไร้การแปรปรวน
ไร้การเกิดดับ สิ่งๆหนึ่งที่บุคคลพึงรู้แจ้ง
🚩พระมหาวรพรต กิตฺติวโร #เดินจิต
.........................................
จากที่เราจดจ่ออยู่ที่ลม
เราปรับถอยออกมาสบายๆ แบบรู้ทั้งตัว
จะเกิดอาการที่เรียกว่า หายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้
รู้สึกถึงกองลมทั้งปวงได้เอง
นั่นคือการดํารงสติมั่นที่ถูกต้อง
สําหรับผู้ที่มีการดํารงสติมั่นที่ถูกต้อง
จะมีลักษณะเหมือนกัน ลองหลับตาดู
หลับแค่เปลือกตานอก แต่กําลังลืมตาอยู่
เรียกว่าหลับเปลือกตานอกแต่ลืมตาภายใน
นั่นแหละการดํารงสติมั่น
จะเป็นแค่สภาวะรู้เฉยๆ รู้ตื่นอยู่เฉยๆ
เหมือนเรานั่งลืมตาภายในอยู่ นั่งอยู่กับตัวเอง
ไม่มีการจดจ่อ เพ่งเล็งที่จุดใดจุดหนึ่งทั้งสิ้น
เพียงแค่นั่งรู้เฉยๆรู้ซื่อๆ
ก็จะรู้สึกถึงลมเข้าลมออก
รู้สึกถึงกายทั้งกายขึ้นมาได้เอง
นั้นคือการดํารงสติมั่นที่ถูกต้อง
เรียกว่าหลับเปลือกตานอกแต่ลืมตาภายใน
ตาที่ลืมนั่นแหละ คือ ตาสติ ตาปัญญา
ภาษาพระท่านเรียกว่า ธรรมะจักษุ
เป็นตาปัญญาญาณ คือจิตผู้รู้ ก็คือสิ่งเดียวกันตรงนี้
ก็ให้อยู่กับรู้ อยู่กับการดํารงสติมั่นไปเรื่อยๆ
ถ้าดํารงสติมั่นถูกต้องเนี่ย
อานาปานสติ ลมก็รู้ได้เอง
อิริยาบถใหญ่ อิริยาบถย่อย
กายทั้งกายก็รู้ได้เอง
ความรู้สึกทั้งตัวก็รู้ได้เอง
ถ้าละเอียดไปแม้กระทั้งจิตก็รู้ได้เอง
รู้คลุมฐานทั้งสี่ฐานได้เอง
สําหรับผู้ที่มีการดํารงสติมั่นเป็นแล้ว
ก็ให้ทําแบบนั้นไปเรื่อยๆ
เพราะนั่นคือแก่นของการปฏิบัติธรรม
คือหัวใจของ #สติปัฏฐาน 4 ทุกข้อเลย
🚩พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
สําหรับ #อานาปานสติ ที่ถูกต้องตามพุทธวิธี
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
"#ตั้งกายตรง #ดํารงสติมั่น #รู้ธรรมเฉพาะหน้า"
มีสติหายใจเข้า มีสติหายใจออก
หายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้
จะต่างจากการที่เราไปเพ่งจดจ่อดูที่ลมจุดใดจุดหนึ่ง
จะเป็นเพียงแค่รู้ลมเข้า รู้ลมออก
หายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้
♥️ #จิตตสังขาร เป็นความปรุงแต่งละเอียดของจิตใจ
จริงๆ เรียกว่า วจีจิตตสังขาร ความปรุงแต่งออกมาเป็นเสียงพูดในใจ มันจะเหมือนเสียงพูดในใจ พูดปรุงได้ดีบ้าง
ไม่ดีบ้าง ไอ้ตัวนี้เรียกง่าย ๆ มันเป็นตัวพูดมาก
มันพูดของมันไปเรื่อย
เวลาที่เราพัฒนาได้สติละเอียดพอ
เราจะเห็นความปรุงแต่งตรงนี้ได้ ความปรุงแต่งตรงนี้
จะต่างจากความคิด ความฟุ้งซ่านของนิวรณ์
มันจะละเอียดกว่า ที่เรียกว่ารู้จิตตสังขาร
ตัวนี้เป็นอุปสรรคใหญ่ของนักปฏิบัติ
ถ้าเราไปหลงฟังมัน อินกับมันเมื่อไร
มันก็จะพาเราวนไปเรื่อยเลย มันปรุงได้สารพัด
มันเป็นตัวจิตตสังขาร เป็นความปรุงแต่ง
แนะนำว่าให้วางไว้ก่อน มันพูดก็ปล่อยมันพูดไป
เราก็อยู่กับความรู้สึกตัวทั่วพร้อมไปเรื่อย ๆ พัฒนาสติสัมปชัญญะของเราไป มันจะพูดอะไรก็ปล่อยมันพูดไป
มันก็ปรุงของมันไป มันก็ทำหน้าที่ของมันไป
ที่เรียกว่า จิตปรุงแต่งของมันไป
🚩พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
♥ชีวิตของเราอยู่กับโลกของ
ความคิดปรุงแต่งมาตลอดทั้งชีวิต
อยู่ๆ คิดจะวางจากสิ่งเหล่านี้
กลับมามีสติรู้ตื่นอยู่ภายใน
ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้โดยง่าย
ต้องค่อยเป็นค่อยไป
ก็อาศัยการฝึกฝนปฏิบัติ
หมั่นเจริญสติทำความรู้สึกตัวอยู่เสมอ ๆ
ในเบื้องต้นวิธีปฏิบัติมีเยอะ
ญาติโยมมีความชำนาญในวิธีใด
ก็สามารถใช้เป็นเครื่องอยู่ได้ในเบื้องต้น
ก็เลือกใช้ที่เราถนัด
แต่สำหรับที่ยังไม่มีวิธีที่มีความชำนิชำนาญ
ก็จะแนะนำวิธีในเบื้องต้น
ที่ทำให้เรากลับมารู้สึกตัวได้ง่าย ๆ
ญาติโยมก็ลองทำดู
♥เริ่มจากผ่อนคลายสบาย ๆไว้
สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ท้องพองขึ้น
กลั้นลมหายใจสักเล็กน้อย
ค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกสบาย ๆ
สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ท้องพองขึ้น
กลั้นลมหายใจสักเล็กน้อย
ค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกสบาย ๆ
สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ท้องพองขึ้น
กลั้นลมหายใจสักเล็กน้อย
ค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกสบาย ๆ
ลองทำไปเรื่อย ๆ สบาย ๆ ด้วยความผ่อนคลาย
พอสบาย ๆไม่อึดอัด
#ก็จะเกิดการทวนกระแสกลับมารู้สึกตัวขึ้นมา
จากใจที่มันไหลไปในอารมณ์ต่าง ๆ
จะเกิดความรู้สึกตัวขึ้นมา
ก็เป็นอุปกรณ์หนึ่ง ที่เราสามารถเลือกใช้ได้
ก็ทำความรู้สึกตัวไปเรื่อย ๆ
ด้วยความผ่อนคลาย
♥หัวใจของการปฏิบัติก็คือ
ทำให้มันสบาย ๆไว้ ผ่อนคลาย
ปรับให้สบายผ่อนคลาย
นั่งก็สบาย ๆ ยืน เดิน นอนก็สบาย ๆไว้
ทำความรู้เนื้อรู้ตัว ตื่นตัวตื่นใจอยู่เสมอ ๆ
ใหม่ ๆ ก็มีสติชั่วครั้งชั่วคราว
เดี๋ยวจิตใจมันก็เผลอไป ไหลไป
ส่งออกไปในอารมณ์ต่าง ๆ
เผลอไปกับคิดปรุงแต่งบ้าง
เพลิดเพลินไปในอารมณ์ต่าง ๆ ภายนอกบ้าง
ขาดความรู้สึกตัว
ก็หมั่นที่จะทวนกระแส
กลับมารู้สึกตัวอยู่เสมอ ๆ
เรียกว่าละความเพลินในอารมณ์ต่าง ๆ
วางสิ่งต่าง ๆ ภายนอก
มีสติรู้ตื่นอยู่ภายใน
อันนี้คือหัวใจของการปฏิบัติ
#อันนี้เป็นหัวใจของการเจริญสติปัฏฐาน
.................................
#พระมหาวรพรต กิตติวโร— รู้สึกได้รับพร
💻ช่องทาง Social Media ของ เดินจิต DUENJIT
📘Facebook: facebook.com/duenjitpage
📗Line@ : http://line.me/ti/p/%40ejp1764v
📗Lineกลุ่ม: https://line.me/R/ti/g/xsMhFwbkv8
📙Instagram: instagram.com/duen_jit
🎬YouTube: www.youtube.com/c/DUENJIT
📚website: https://www.duenjit.com
♥️ประโยชน์เบื้องต้นของการฝึกสติทำความรู้สึกตัว
“สัมปชัญญะ” ความรู้สึกตัว
ประโยชน์ของความรู้สึกตัวมีมากจริงๆ
เป็นประโยชน์เกื้อกูลกับทุกๆเรื่องในชีวิตของเรา
ทั้งทางโลกและทางธรรม
♥️ธาตุรู้(สภาวะรู้) กับ วิญญาณขันธ์(จิต) เป็นคนละสิ่งกัน
สภาวะของอสังขตธรรมหรืออมตะธรรม
หรือธรรมธาตุจะเป็นแค่สภาวะรู้ที่ไร้ตัวตนไร้ขอบเขต
ที่เรียกว่าสุญญตาและเป็นความว่างที่บริสุทธิ์อยู่
ทุกคนมีส่วนหนึ่งของธาตุรู้อันนี้อยู่
ถ้าไม่มีส่วนนี้จะพ้นจากกองทุกข์ไม่ได้เลย
แต่เพราะความไม่รู้จึงถูกอวิชชาเข้าครอบงำ
ถูกความหลงเข้าครอบงำ
จากนั้นก็หลงวกวนอยู่ในวัฏสงสาร
โลกแห่งสมมุติมายา
เกิดแก่เจ็บตายวนเวียนอยู่ร่ำไป
ไม่รู้จักจบจักสิ้น
♥️การปฏิบัติธรรมทั้งหมดก็เพื่อเข้าสู่ สภาวะรู้
โดยอาศัยความรู้สึกตัวทั่วพร้อมเป็นบาทฐาน
เพื่อปลุกสภาวะรู้ที่ขึ้นมา
ไม่สำคัญตน
♥ทีนี้เวลาปฏิบัติเข้าไปก็ไปเจอเอาอย่างนั้น
จิตประภัสสรนี่คือจิตอวิชชา
ตาหูจมูกลิ้นกายถูกตัดไปหมดแล้ว
ตาก็สักแต่ว่าเห็นเท่านั้น หูก็สักแต่ว่าได้ยิน
ไม่สามารถที่จะซึมซาบเอาความดี
ความชั่วความรักความชังเข้าไปฝังในจิตใจได้
เหมือนอย่างแต่ก่อนเลยนั่น
นี่ละทางเดินของอวิชชา
♥มันออกไม่ได้พูดง่ายๆ เพราะถูกตัดไปหมดแล้ว
... รูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณ
กับ จิต ก็ขาดจากกันให้เห็นชัด ๆ
... ปล่อยของมันเอง
ไม่ยึดโดยหลักธรรมชาติรู้อยู่เห็นอยู่อย่างนั้น
... แต่จิตกับอวิชชานี้มันประสานกัน