การปฏิบัติเพื่อให้ได้ฌานสมาธิ
การทำสมาธิ ในแต่ละกอง
ก็คือ การหยิบยกเรื่องนั้นๆมาเป็นที่ตั้ง
ในความเป็นจริงแล้ว ทางที่จะเดินสู่พระนิพพานนั้น ไม่ใช่แค่ทางหนึ่งทางใด
สามารถไปได้ด้วย ** ศีล ธรรม สมาธิ และปัญญา **
*** ประโยชน์ของฌานมีรูป ฌานไม่มีรูป ***
การที่เรานั้นฝึกกรรมฐาน ในกองไหนๆก็ดีทั้งนั้น.. ลูกเอ๋ย
ทางใดๆใน 40 กอง นี้-- ก็ไปถึงพระนิพพานทั้งนั้น.. ลูกเอ๋ย
แต่คนที่จะไปไม่ถึงนั้นก็คือ คนที่ไปอย่างไม่จริง ก็คือ ทีทำ ทีเล่น เดี๋ยวก็เล่น ไม่ตั้งใจในการประพฤติ ปฏิบัติ ก็เลยกลับกลายเป็นเด็กที่เล่นๆไป..
วิ่งไป-วิ่งกลับ อยู่อย่างนั้น เดี๋ยวก็ทำ เดี๋ยวก็ไม่ทำอยู่อย่างนั้น เท่านั้น ลูกเอ๋ย.. จึงจะไปไม่ถึง
และบุคคลที่มัวแต่แวะไปดูทางคนอื่น แวะไปทางดูทางโน้น ทางนี้
ไปเพ่งเล็ง เพ่งโทษ หนทางของบุคคลผู้อื่น..คนเหล่านี้แหละลูก ที่จะหลงทาง และไปไม่ถึง..
เพราะตนมัวแต่เอาเวลาที่ตนมีอยู่นั้น ไปวุ่นวายอยู่กับผู้อื่น.. จนทำให้ตนหมดเวลา และติดหนี้กรรมอีกด้วย
คือ กรรมด้วยคำพูด / ด้วยการกระทำ / จิตใจที่ไม่บริสุทธิ์ นั้น ดึงตนเอาไว้ ให้ไปไม่ถึง
ทางใดก็ตามใน 40 ทางนี้ ไปได้ทั้งนั้น ลูกเอ๋ย.. แต่ต้องมีปัญญาประกอบด้วย
มีปัญญาเป็นสิ่งนำพา ให้กระจ่างแจ้ง
** ศีล ธรรม สมาธิ และปัญญานั้น คือ สิ่งที่เกื้อหนุน เกื้อกูลกันให้ไปถึงฝั่ง **
หากขาดตัวใดไปตัวหนึ่ง ก็จะไปไม่ถึง
ศึกษา ทำความเข้าใจให้ดี ก่อนเลือกฝึกกรรมฐาน
- ไปให้รู้แจ้ง
- ไปให้เห็นตามความเป็นจริง
เพื่อให้สิ่งนั้น พาจิตของเรา
- ไปพักผ่อน
เพื่อที่เราจะได้มีจุดยึด ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
การ “ มีรูป ”
การ “ ไม่มีรูป ”
**วัฏสงสาร** ที่ที่มีสิ่งสมมุติมากมาย เวียนเกิด เวียนตาย ไม่รู้จบ
......................................................
ทำสมาธิเข้าสู่โลก การมีรูป ก็อยู่ในรูปแบบของการศึกษา เรียนรู้ ฝึกฝน
ทำความเข้าใจในโลกแห่งการมีรูป
โลกสมมุติ การเวียนวน เวียนว่ายตายเกิด คือ การศึกษา ทำความเข้าใจให้รู้แจ้ง
................................................................
ฉะนั้น.. การทำสมาธิ ในรูปแบบของสมาธิ ในรูปแบบของสมาธิมีรูป - ทุกฌาน
ก็เพื่อให้เราเอากำลังตรงนั้น มาส่องให้สว่าง
ให้รู้ การเวียนว่ายตายเกิด
ให้รู้ กฎแห่งกรรม
ให้รู้ กฎของความไม่เที่ยงแท้
ให้รู้จัก กิเลส และตัณหา คือ ความรัก โลภ โกรธ หลง / ความอยาก และความไม่อยาก
ให้รู้แจ้งในสิ่งต่างๆทั้งหลายเหล่านี้ ลูก
เพื่อเราเอง ก็จะได้เข้าใจตามความเป็นจริง.. ลูกเอ๋ย
..........................................................
เมื่อเราศึกษา บำเพ็ญ จนสำเร็จถึงฌาน 4 ก็ถือว่าเป็นผู้มีกำลังสมาธิ ที่หนักแน่น
... เราจึงเอากลับมาค้นหาความจริง..
โลกแห่งจิตวิญญาณ มีจริงหรือเปล่า ?
การเวียนวน เวียนว่ายตายเกิด ในภพในชาติ มีจริงมั้ย ?
การทำบาป ต้องตกสู่อเวจี จริงหรือเปล่า ?
การสร้างความดี จะได้ขึ้นสวรรค์ จริงหรือเปล่า ?
คนที่เขาสร้างบุญ - ชีวิตเขาจึงดี
คนที่สร้างบาป - ชีวิตเขาจึงไม่ดี
.. จริงหรือเปล่า ?
**พระนิพพาน** คือ ที่ที่ไม่มี ที่ที่ว่างเปล่า
ที่ที่มี ก็แค่สักว่ามี
**มี กับ ไม่มี ก็เสมอเหมือนกัน**
.....................................................................
ส่วนการที่เราจะทำสมาธิ.. เข้าสู่โลกที่ไม่มีรูป
ก็คือ การฝึกฝนตน- เพื่อที่จะไปสู่ สิ่งที่ไม่มี คือ “ความว่างเปล่า”
เราจะทำสมาธิกองที่ 1 / กองที่ 2 แบบที่ 1 หรือ
แบบที่เท่าไรก็ตาม.. ของกองอะไรก็ตาม ใน 120 คลิป..
เราจะทำแบบไหนก็ตาม ให้เราจำเอาไว้ว่า
เราเพียงแต่แค่ใช้สมาธิมาเป็นปัญญา
มาเป็นกำลังของปัญญา เพื่อพิจารณา
และถอดถอนกิเลสเท่านั้น
กรรมฐานหลัก กองที่ 1
(รูปฌาน-ฌานมีรูป)
กองที่ 1 เพื่อให้พิสูจน์ธรรมคำสอน รู้แจ้ง
ตามความเป็นจริงของสรรพสิ่ง ไงลูก
ผู้ที่ฝึกกรรมฐานหลัก กองที่ 1 นี้แล้ว เข้าสมาธิไม่ได้
หรือ ไม่เคยฝึกสมาธิมาก่อน
ให้เลือกฝึกจากกรรมฐาน 40 กอง ข้างล่างนี้
รูปฌาน-ฌานมีรูป มี 36 กอง(108 แบบ)
อรูปฌาน-ฌานไม่มีรูป มี 4 กอง(12 แบบ)
กรรมฐานมี 40 กอง - กองละ 3 แบบ
เลือกปฏิบัติเอา เลือกฝึก 1 กอง
( 1 แบบ จาก 3 แบบ ตามจริต)
อารมณ์แห่งความมี
(ระหัสธรรม )
อารมณ์แห่งความไม่มี
(ระหัสธรรม )
ฝึกทำสมาธิ ให้เข้าถึงความไม่มี
ให้เข้าถึงความว่างเปล่า
** จึงควรเริ่มต้นด้วยการ ประพฤติ ปฏิบัติ รักษาศีล
ด้วยการฝึกฝนในการฟังธรรม
และทำสมาธิในแบบของฌานมีรูป
...ให้ได้ในระดับหนึ่งก็ยังดี ..
หรือถ้าจะให้ดี ก็คือ ให้ได้ทั้ง 4 ฌานเลย
... แล้วก็คล่องในฌานสมาธิต่างๆนั้นได้ -- ก็จะยิ่งดี
...............................................
พระยาธรรมเอย.. ฌานไม่มีรูป ก็ไว้เพื่อสลายไงลูก
สลายทุกสิ่งทุกอย่าง
ก็เมื่อ เราไม่รู้ เราก็ได้ฝึก *ฌานมีรูป* จนเรารู้
เมื่อ เรารู้แล้ว เราก็ฝึก *ฌานไม่มีรูป*
เพื่อที่จะได้ดับความรู้แล้ว..
และดับทุกสิ่งทุกอย่างที่มี ที่สมมุติว่ามีทั้งหลาย ลูก
เพราะบางทีเมื่อเราฝึกแต่สิ่งที่มี
เราอาจเกิด ตัวยึด ตัวเกาะ สำหรับในสิ่งที่มีนั้น..
เห็น - ก็ไปติดอยู่ในสิ่งที่เห็น
รู้ - ก็ไปติดอยู่ในสิ่งที่รู้
เข้าใจ - ก็ไปติดอยู่ในสิ่งที่เข้าใจ
....................
ฉะนั้น.. การไม่มี หรือ *ฌานที่ไม่มีรูป*
จึงเป็นสมาธิ ที่ฝึกให้ทุกคน ละวาง อย่างแท้จริง **
เพื่อจะได้เข้าสู่ “ ความไม่มี ” ได้ลูก
พระยาธรรมเอ๋ย..
ฌานมีรูป ก็เพื่อให้รู้แจ้งตามความเป็นจริง
ฌานไม่มีรูป 4 ฌานนั้น
ก็เพื่อให้ละความเป็นจริงนั้นเสีย.. ก็เท่านั้นแหละลูก
................
4 ฌาน “ มีรูป ”
สอนให้เรารู้แจ้ง เข้าใจ
แต่ 4 ฌาน “ ไม่มีรูป ”
สอนว่า เมื่อเรารู้แจ้ง และเข้าใจแล้ว
ก็ให้วางความรู้ วางความเข้าใจแล้ว
วางทุกสิ่งที่เห็น ที่ได้มาทั้งหมด
เพื่อสลายสู่สิ่งที่ไม่มี
อารมณ์อันสูงสุด
(ระหัสธรรม )
กรรมฐานหลัก กองที่2
ส่วน กองที่ 2 ก็คือ การฝึกว่าง
ว่างทั้งข้างนอก ว่างทั้งข้างใน
ว่างในทุกสิ่งและทุกอย่าง คือ ไม่มีไงลูก
ฝึกวาง วางในสิ่งที่เห็นมา..ทำให้มัน “ ไม่มี ”
เราจะเก่งในกองไหน เท่าไร.. เราก็ต้องมา
ทรงอารมณ์ไว้ในความ มี ก็เหมือน ไม่มี
เราต้องมาทรงอารมณ์ ดับความมีในดี มีในชั่ว
ดับทั้งหมด.. ให้มันหมดจากเราไปอย่างแท้จริง
เราจึงจะเข้าสู่พระนิพพานได้ อย่างแท้จริง
*ฌานไม่มีรูป* คือ สิ่งที่จะนำพาให้จิตของเรา
หลุดออกไปจาก “ความมี” ทั้งหลาย
มีทั้งดี ทั้งไม่ดี - ออกจากโลกสมมุตินี้ไป…
*ฌานไม่มีรูป* - จึงเป็นสิ่งนำพาให้เรา
เข้าสู่พระนิพพาน ดับการเกิดได้ ไงลูก
เพราะว่า เราได้สลายทุกสิ่ง และทุกอย่างแล้ว..
เรียนรู้ เข้าใจในวัฏสงสารนี้ ด้วย *ฌานมีรูป* แล้ว
-- ก็อาศัย *ฌานไม่มีรูป* ออกจากที่นี่ไป !
.. อย่างนั้นละ พระยาธรรมเอย..
..................................
กรรมฐานมี 40 กอง - กองละ 3 แบบ
เมื่อปฏิบัติได้.. ควรจะมายึดเอากองสุดท้ายนี้
เป็นสิ่งที่ทุกคน จะต้องยึดเอา กองสุดท้ายนี้
มาเป็นอารมณ์อันสูงสุด
เพื่อที่จะตัด ดับ ทุกสิ่งและทุกอย่าง..
เข้าสู่พระนิพพาน
..............
กรรมฐานกองสุดท้ายนี้ ก็คือ ให้ลูกทั้งหลายพิจารณาถึง
ความมี ทั้งดี และไม่ดี ทั้งโลก และธรรม
และให้วางสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น..เอาไว้
วางให้ว่าง ให้ลูกอยู่เหนือสิ่งเหล่านั้น
แล้วลูกจึงจะสามารถ “ ดับการเกิด ” อย่างแท้จริงได้ลูก
ลูกเอ๋ย.. เพราะ * ศีล ธรรม สมาธิ *
ที่เป็นขั้นต้นของการฝึกฝนนั้น..
จะเป็นพื้นฐานกำลังของจิต ซึ่งจะทำให้จิตนั้น
สามารถรู้ เห็น เข้าใจในสรรพสิ่งทั้งหลาย
และสามารถที่จะมีปัญญามากพอ
ที่จะมาตรึกตรอง ทบทวน ค้นหาความเป็นจริง