วันที่โพสต์: May 27, 2018 8:37:54 AM
หัวใจหงส์หินคู่
มหัศจรรย์หัวใจแห่งความสำเร็จ
หัวใจหงส์หินคู่ มหัศจรรย์หัวใจแห่งความสำเร็จ
สำหรับผู้ที่ชอบเสี่ยงดวง หรือไม่รู้จะไปพึ่งใครที่ไหนในยามที่ต้องการความสำเร็จ หรือเพื่อจะผ่านพ้นปัญหาต่างๆในชีวิต ทั้งทางธรรมและทางโลก ไม่ว่าจะเป็น..การตั้งความปรารถนาทางด้านธรรมมะเพื่อเข้าสู่กระแสแหละมรรคผลพระนิพพานในที่สุด.. หรือในทางโลก เช่น.. ความรัก ครอบครัว การงาน การเงิน สุขภาพ การเดินทาง.. และอื่นๆ ฯลฯ ..ไม่ไปทำความเดือดร้อนให้สังคม หรือใครๆ ตั้งจิตอธิฐานได้สำเร็จตามความเหมาะสม..
หากท่านมีความรู้สึกว่าท้อแท้ เหนื่อยหน่าย สิ้นหวังในชีวิต.. ทำอะไรก็ไม่สำเร็จสักอย่าง หรือมืดตึ๊บ!.. ไม่รู้จะไปพึ่งใครได้อีก.. ที่นี่อาจช่วยท่านได้.. อาจเป็นความหวังสุดท้ายที่เป็นไปได้ก็ได้ แต่ต้องเป็นเรื่องที่อยู่ในหลักเกณฑ์ของความถูกต้องและสมควรนะครับ ไม่ใช่ว่าผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย ไร้ความเหมาะสม ไม่ใช่สิ่งดีงาม.. อย่างนั้นก็ไม่ได้นะครับ ..ไม่จำเป็นต้องเชื่อ.. แต่จำเป็นต้องรู้!.. ไม่เชื่ออย่าพึ่งลบหลู่.. ฟังหูไว้หู.. ดูให้ดีๆเสียก่อน.. รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม..
นับเป็นข่าวดีอย่างมากมายสำหรับพุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะศิษย์สาย หลวงปู่เสถียร ฐิตสีโล
แห่งสำนักปฏิบัติธรรม (วัด) ภูนกหงส์หินนี้นะครับ รู้แล้วแชร์โพส หรือบอกข่าวต่อๆกันไปด้วยนะครับ ตอนนี้หลวงปู่ท่านกำลังพยายามพัฒนาจัดสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อให้เป็น สำนักปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริงต่อไปครับ
ลองขึ้นไปจุดธูปหอม ๑๖ ดอกบอกความตั้งใจ เสี่ยงดวงดูนะครับ อาจเป็นปาฏิหาริย์ได้อย่างเหลือเชื่อ หรือคาดไม่ถึงก็ได้นะครับ ได้ผลมาแล้วหลายคน.. ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ความรัก ครอบครัว การงาน การเงิน การเดินทาง สุขภาพ โชคเคราะห์ .. อื่นๆ.. ฯลฯ.. รับชมวีดีโอทาง อินเทอร์เน็ต ได้ที่Google/YouTube โดยพิมพ์
หัวใจหงส์หินคู่ หรือพิมพ์ มหัศจรรย์หัวใจแห่งความสำเร็จ
ณ ที่ สำนักปฏิบัติธรรม (วัด)ภูนกหงส์หิน บ้านแก้งอะฮวน ต.ท่าหลวง อ.ตระการพืชผล
จ.อุบลราชธานี ติดต่อสอบถามรายละเอียดก่อนเดินทางได้ที่ หลวงปู่เลี่ยม ๐๙๓ ๐๙๐ ๗๑๘๑
หรือที่คุณฮุด ๐๙๑ ๓๒๙ ๓๓๙๓ .. ขออนุโมทนา สาธุ!..
**
ประวัติความเป็นมา
หัวใจหงส์หินคู่ มหัศจรรย์หัวใจแห่งความสำเร็จ (อย่างคร่าวๆ)
เจดีย์ดอกบัวทอง ภูนกหงส์หิน
หลวงปู่เสถียร ฐิตสีโล
หงส์หินคู่เจ้าของหัวใจ
เมื่อปลายเดือน สิงหาคม ปีพุทธศักราช ๒๕๕๗ ที่ผ่านมานี้เอง หลวงปู่เสถียร ฐิตสีโล ท่านได้เมตตามาสื่อสารบอกกับหลวงปู่เลี่ยมผู้เป็นศิษย์ ที่ปีนี้ได้ออกบวชเป็นภิกษุ มาจำพรรษาที่วัดภูนกหงส์หินแห่งนี้
หลวงปู่เลี่ยม
ท่านได้มาบอกว่าที่ภูนกหงส์นี้ นอกจากสถานศักดิ์สิทธิ์สำคัญๆ เช่น หอพระธาตุดอกบัวคู่ ถ้าปู่ ถ้ำฤๅษี ศาลย่าแพ้ว เจดีย์ดอกบัวทอง นกหงส์หินคู่ และอื่นๆแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่ง ที่นานแสนนานมาแล้วภพภูมิยังไม่เคยได้เปิดเผยมาก่อนเลย แต่บัดนี้ ถึงเวลาแล้ว.. นั่นคือ หัวใจหงส์หินคู่ มหัศจรรย์หัวใจแห่งความสำเร็จ
หัวใจหินคู่ นั้นจะอยู่ใกล้ๆกับนกหงส์หินคู่ จากนกหงส์หินเยื้องออกมาทางด้านขวาของหน้าผานกหงส์นั้นประมาณ ๓๐-๔๐ เมตรโดยประมาณ ดังที่เห็นในภาพด้านล่างนี้
เมื่อก่อนนี้ แม้ผู้ใดใครๆก็ตาม ที่ผ่านไปผ่านมาในหลายชั่วอายุคนแล้ว แม้ดึกดำบรรพ์แต่โบราณเป็นต้นมาจนป่านนี้ ก็ยังไม่มีใครเลยที่ปรากฏว่าจะเห็น หรือทักท้วงอะไรกันขึ้นมาบ้างเพราะสะดุดตาสะดุดใจจะนับเวลาเนิ่นนานเพียงใดนั้นมิอาจจะทราบได้ แม้คนในยุคปัจจุบันนี้เองซึ่งเป็นยุคเจริญรุ่งเรืองก็ตาม ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะภพภูมิสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญที่อยู่ในภูนกและในพระพุทธศาสนาผู้เฝ้าดูแลอยู่ ด้วยเหตุผลเพื่อรอเวลาทำนุบำรุงเชื่อมต่ออายุพระพุทธศาสนาในกึ่งพุทธกาลนั่นเอง .. และบัดนี้นั้น ได้ถึงเวลาอันสมควรแล้ว
การเปิดเผยนี้ จะทำให้ได้ช่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับพวกเราชาวพุทธที่ต้องประสพกับปัญหาหลายๆด้านที่หาทางออกลำบากหรือยากต่อการที่จะหาทางออกได้ เปิดโอกาสให้ศรัทธาธรรมทั้งหลายที่มีความปรารถนาในทางที่ถูกที่ควร ได้ขึ้นไปไหว้บูชาอธิฐานบนบานศาลกล่าวตามความปรารถนาที่ถูกที่ควรดังที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จ หรือผ่านพ้นปัญหาต่างๆได้มากกว่าปรกติ หรือเรียกได้ว่าอัศจรรย์ ปาฏิหาริย์ เหลือเชื่อเป็นไปได้ยังไง? .. อะไรทำนองนี้..
แต่ก็ต้องเสี่ยงดวงกันหน่อย ว่าใครจะมีวาสนาบารมีที่สั่งสมมากน้อยเพียงใดกับหัวใจหงส์หินคู่นี้ ดั่งที่พระพุทธองค์ท่านได้กล่าวไว้ว่า “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมสนอง ธรรมดาหมู่สัตว์มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย มีกรรมเป็นผู้ให้ผล ผู้ใดทำกรรมใดไว้ ผู้นั้นย่อมได้รับผลของกรรมนั้นๆสืบไป..
ประวัติความเป็นมาของหัวใจหงส์หินคู่นี้นั้น ค่อนข้างจะอัศจรรย์เหลือเชื่อ อันนี้ข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่าในใบลานเก่าแก่ของภูนกหงส์นั้นได้มีกล่าวไว้หรือไม่? เนื่องจากข้าพเจ้ามิได้อ่านที่ท่านแปลออกมาเป็นหนังสือภาษาไทยปัจจุบันนั้นโดยละเอียด แต่ก็พอจะจับใจความสำคัญได้บ้าง
จำเป็นต้องย้อนกล่าวไปยังอดีตกาลนานแสนนานมาแล้ว ตามคัมภีร์ใบลานเก่าแก่บันทึกไว้ว่า ภูนกหงส์แห่งนี้ เคยเป็นเมืองเก่าของพระมหาโพธิสัตว์ สุวรรณหงส์ เป็นพระชาติหนึ่งของพระสมณโคดมพุทธเจ้าของเราในปัจจุบัน กาลสมัยนั้นก่อนที่พระองค์จะเข้าสู่การเกิดในพระเจ้าสิบชาติ
อันมี ๑ พระเตมีย์ใบ้ บำเพ็ญเนกขัมมะปะระมัตถะปารมี ๒ พระมหาชนก บำเพ็ญวิริยะปะระมัตถะปารมี ๓ พระสุวรรณสาม บำเพ็ญเมตตาปะระมัตถะปารมี ๔ พระเนมิราช บำเพ็ญอธิษฐานะปะระมัตถะปารมี ๕ พระมโหสถ บำเพ็ญปัญญาปะระมัตถะปารมี ๖ พระภูริทัต บำเพ็ญศีละปะระมัตถะปารมี ๗ พระจันทกุมาร บำเพ็ญขันติปะระมัตถะปารมี ๘ พระนาระทะ บำเพ็ญอุเปกขาปะระมัตถะปารมี ๙ พระวิธูรบัณฑิต บำเพ็ญสัจจะปะระมัตถะปารมี และ ๑๐ พระเวสสันดร บำเพ็ญทานะปะระมัตถะปารมี
ในกาลนั้นมนุษย์อายุ ๑,๐๐๐ (หนึ่งพัน)ปี เมืองนี้ชื่อมิถิลานคร ปกครองสืบต่อกันมายาวนานจนถึงกาลที่พระมหาโพธิสัตว์ลงมาเกิดเป็นท้าวสุวรรณหงส์ พระองค์ได้รับพระราชทานหงส์หินคู่จากองค์อิทราธิราช ให้มาเป็นยานพาหนะ ในการเสด็จไปในที่ต่างๆตามพระประสงค์ พญาหงส์คู่นั้นมีลักษณะพิเศษ คือ เมื่อท้าวสุวรรณหงส์ต้องการไปที่ไหน หงส์คู่ก็จะกลายเป็นหงส์ที่มีเลือดเนื้อชีวิตบินได้นำพาเสด็จไปในทันที แต่เมื่อใดที่หยั่งลงสู่พื้นเพื่อหยุดยั้ง ก็จะกลายเป็นหงส์หินอยู่อย่างนั้นทันทีเช่นกัน สามารถพูดคุยสื่อสารกับผู้เป็นนายได้
ในกาลนั้นพระองค์ได้ไปหลงรักใคร่พระนางจันทราเทวีราชธิดาแห่งเมืองอื่น แต่พระนางไม่รักใคร่ด้วย ไม่ว่าจะทำอย่างไรพระนางก็ไม่รักด้วยอยู่อย่างนั้น เป็นเหตุให้ท้าวสุวรรณหงส์เป็นทุกข์เพราะความรักยิ่งนัก เฝ้าหาวิธีอย่างไรๆพระนางก็เมินหมาง ยิ่งหาวิธีให้รักก็ยิ่งเหมือนจะสิ้นหวังลงทุกที ..
แต่ก็ใช่ว่าจะหมดหนทางไปเลยเสียที่เดียว เมื่อพญาหงส์คู่ทั้งสองนั้นเป็นผู้รู้ความลัพธ์อยู่ ว่าจะทำอย่างไรพระนางจันทราเทวีจึงจะยอมมีใจรักใคร่กับท้าวสุวรรณหงส์ด้วย แต่ถ้าบอกความลัพธ์นั้นออกไปตนทั้งสองก็จักต้องมีอันถึงแก่ความตายในทันที จำต้องเฝ้าใคร่ครวญลำบากใจอยู่อย่างยิ่ง ยิ่งเนิ่นนานเมื่ออาการเป็นทุกข์เพราะความรักของท้าวสุวรรณหงส์ผู้เป็นเจ้านายแล้วก็ยิ่งเป็นทุกข์ไม่ต่างจากผู้เป็นนาย ท้าวสุวรรณหงส์เอาแต่ทุกข์ระทมไม่เป็นอันกินอันนอน กินไม่ได้นอนไม่หลับประทับไม่อยู่
นานวันเข้าพญาหงส์ทั้งสองตนนั้น ไม่อาจจะยังเห็นความทุกข์ท้อทรมานของท้าวสุวรรณหงส์ผู้เป็นนายได้ จึงได้ปรึกษากันตกลงกันว่า “เราทั้งสองควรจะยอมสละชีวิตเผยความลัพธ์นั้นแก่ผู้เป็นนายเสีย แม้ตายก็ต้องยอม” ดังนั้น จึงยอมสละตนเองเสีย พอบอกความลัพธ์นั้นออกไปแก่ผู้เป็นนาย (หลวงปู่ท่านมิได้เปิดเผยเอาไว้ว่า ความลัพธ์สวรรค์ที่พญาหงส์คู่ได้เปิดเผยออกมานั้น คืออะไร?)
ในครานั้น เมื่อพญาหงส์สองตน ได้เปิดเผยความลัพธ์สวรรค์ออกมาเท่านั้นเอง “หัวใจ” ทั้งสองดวงของพญาหงส์คู่นั้น ก็เกิดระเบิดตูมตามหลุดออกมาจากหัวออกของตนทั้งสอง หลุดลอยออกไปวางทับซ้อนกันกลายเป็นหัวใจหงส์หินคู่ อยู่บนหลักหินบนหน้าผาใกล้ๆกับร่างพญาหงส์สองตนนั้น ดังที่เห็นในภาพนี้เอง
ร่างทั้งสองของพญาหงส์ ไม่อาจจะกลับกลายคืนสู่การมีเลือดเนื้อและชีวิตได้อีกเลยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนบัดนี้ แม้หัวใจทั้งสองก็เช่นกัน ถ้าจะนับการเวลาแล้ว ยาวนาน นานแสนนานเกินกว่าที่จะคำนวณได้ด้วยประใดๆในทางวิทยาศาสตร์ เพราะตามคัมภีร์ใบลานของภูนกหงส์นั้นได้กล่าวเอาไว้ว่า กาลสมัยนั้นก่อนพระเจ้าสิบชาติของพระมหาโพธิสัตว์มนุษย์อายุกัปอยู่ที่ ๑,๐๐๐(หนึ่งพันปี) แล้วกว่าที่มนุษย์เราจากอายุ ๑,๐๐๐ ปี จะผิดพลาดทางศีลธรรมลดอายุกัปของพวกตนให้น้อยถอยลงมาเรื่อยๆจนถึงทุกวันนี้ต้องใช้เวลานานแสนนานสักเท่าใด สังเกตจากเมื่อสมัยพุทธกาลแรกที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนอยู่นั้น มนุษย์อายุกัปอยู่ที่ ๑๒๐-๑๓๐ ปี ใช้เวลานานมาร่วม ๒,๖๐๐ กว่าปี ค่อยๆลดอายุลงมาจนถึงทุกวันนี้ มนุษย์อายุกัปอยู่ที่ ๗๐-๘๐ปีโดยประมาณ คิดดูนะ ขนาดในยุคมนุษย์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเอาศีลเอาธรรมนี้ยังใช้เวลานานถึง ๒,๖๐๐ กว่าปี จึง เสียอายุกัปไป ๔๐ปี โดยประมาณ (๑๒๐ ลบด้วย ๘๐ เท่ากับ ๔๐ หรือ ๑๓๐ ลบด้วย ๗๐ เท่ากับ ๖๐ ) แล้วถ้ามนุษย์ในยุคที่เอาศีลธรรมเป็นใหญ่ จะต้องใช้กาลเวลานานแสนนานสักเท่าใด ??? ...
ในกาลนั้นท้าวสุวรรณหงส์ได้สูญเสียพญาหงส์คู่ใจไปพร้อมกันถึงสองตน แม้จะทำให้เสียพระหฤทัยยิ่ง แต่ก็สามารถได้พระนางจันทราเทวีมาเป็นพระมเหสีคู่ใจ อย่างปาฏิหาริย์ เป็นเพราะการเสียสละของพญาหงส์ผู้ประเสริฐสองตนนั้นแท้ๆ จึงพูดได้ไม่อายว่าเป็นมหัศจรรย์ เป็นปาฏิหาริย์หัวใจหงส์หิน มหัศจรรย์หัวใจแห่งความสำเร็จ เพราะเป็นต้นแบบแห่งการเสียสละเพื่อความสุขสำเร็จโดยแท้ ไม่ผิดหรอกที่จะเรียกว่า อย่างนี้ แบบนี้ คือ หนึ่งเดียวในโลก ไม่มีในที่อื่นๆใดๆเลย ทั้งยังมีความสมบูรณ์ด้วยรูปลักษณ์แหละตำนานที่ชัดเจนอย่างนี้ ข้าพเจ้าไม่เคยได้ลองวัดดูเสียทีว่าขนาดจำกัดจริงๆนั้นเท่าใด แต่ประเมินด้วยสายตาดูแล้วก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ ๑ วาเป็นแน่แท้ น้ำหนักก็น่าจะอยู่ที่ ๑-๒ ตัน ธรรมดาคงไม่มีใครๆยกไปวางไว้เล่นๆได้อย่างแน่นอน
ด้วยหลักของเหตุและผลที่พญาหงส์สองตน ได้ยอมสละชีวิตตนเองเพื่อความความรก ความสุขสมหวังของท้าวสุวรรณหงส์ จนเป็นผลสำเร็จในชีวิตคู่ดังกล่าวแล้วนั้น จึงถือได้ว่า หัวใจหงส์หินคู่นี้ เป็นหัวใจปาฏิหาริย์มหัศจรรย์หัวใจแห่งความสำเร็จ ตามที่หลวงปู่เสถียร ท่านได้เปิดเผยออกมาดังกล่าวข้างต้น
ไม่จำเป็นต้องเชื่อแต่จำเป็นต้องรู้! ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่! ตำนานนี้ถูกเปิดเผยออกมา ไม่ได้มีประสงค์เพื่อบังคับให้ใครต้องมาเชื่อตาม ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล หรือเฉพาะกลุ่ม ควรใช้วิจารณญาณในการรับรู้รับชม รับข้อมูลข่าวสาร พิจารณากันเอาเอง
แต่โดยส่วนตัวของข้าพเจ้าเองแล้ว ข้าพเจ้าเชื่อ แต่ไม่ได้เชื่อโดยแค่เพราะได้ยินได้ฟังมาเท่านั้น แต่เพราะข้าพเจ้าได้ผ่านประสบการณ์มาบ้างแล้ว ที่สำคัญนั้นพวกเราได้คลุกคลีเทียวขึ้นเทียวลงอยู่บนภูนกนี้มานานหลายปี ส่วนตัวข้าพเจ้าเองนับแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๒ เป็นต้นมา ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ
ภาพตัวอย่าง
รูปชุดนี้ถ่ายเมื่อ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๒
แต่ข้าพเจ้าและเพื่อนๆก็ไม่เคยสังเกตหรือรู้สึกบ้างสักนิดเลยว่ามีหัวใจหินอยู่ตรงนั้น พอหลวงปู่เปิดเผย ว่าตรงนี้
มีหัวใจหินคู่อยู่ จึงได้พยายามค้นไฟล์หารูปเก่าๆย้อนเอากลับมาดูใหม่อีกครั้ง ถึงได้เห็นอย่างนี้
ข้าพเจ้าเองเทียวขึ้นลง ณ สถานที่แห่งนี้บ่อยครั้งไม่น้อย ที่สำคัญไม่ใช่แค่ผ่านๆไปมาเฉยๆเพียงเท่านั้น ยังได้มีการไปแอ็คท่าถ่ายรูปอย่างที่เห็นในภาพนี้ ปีนป่ายขึ้นลงอยู่ซ้ำๆซากๆไม่ใช่เพียงข้าพเจ้าเท่านั้น หลายๆคนก็เช่นกัน เพราะศรัทธาธรรมทั้งหลายไปชมนกหงส์หิน ก็มักจะต้องเดินมาสำรวจดู โน่น นี่ นั่น ตรงหน้าผาแห่งนี้กันแทบทุกคน แต่กลับไม่มีใครเลยจะสังเกตเห็นเป็นหัวใจหินวางเด่นอยู่อย่างนี้ เห็นก็เป็นแค่ก้อนหินธรรมดาๆก้อนหนึ่งเท่านั้นเอง
แต่ก็จำได้ว่าเคยได้ยืนพิจารณาอยู่ว่า คนแต่โบราณเนิ่นนานมานั้น ใครผู้ใดหนอช่างทำได้ ใครหนอช่างมีกำลังยกเอาก้อนหินขนาดใหญ่น้ำหนักเป็นตันๆไปวางไว้บนเสาหินนั้นได้อย่างลงตัว ทำได้ยังไง? ยืนพิจารณาอยู่เพียงนั้น ยังไม่เคยสะดุดความรู้สึกเลยสักนิด แม้ถ่ายรูปมาแล้วดูก็ไม่อีกตามเคย ข้อที่น่าสังเกตอีกอย่างก็คือ ทุกๆคนที่ไปที่นั่นเป็นเหมือนๆกันกับข้าพเจ้า ก็แค่เห็นเป็นก้อนหินที่น่าสนเท่ห์เพียงก้อนหนึ่งเท่านั้น คือไปวางอยู่บนยอดเสาหินอยู่อย่างนั้นได้อย่างไร? ก็เท่านั้นเอง จนกระทั่งหลวงปู่ท่านได้มาเปิดเผย เมื่อปลายเดือนสิงหา ๕๗ ที่ผ่านมานี้เองจึงได้รู้จึงได้เห็น อย่างนี้ถือเป็นอัศจรรย์สำหรับข้าพเจ้ามากเกินพอแล้ว .. ฯลฯ ..
สำหรับการไปไหว้อธิฐาน เพื่อขอความสำเร็จอันใดนั้น ในเบื้องต้นท่านให้ใช้ธูปหอม ๑๖ ดอก เท่านั้นก็ได้ หรือใครจะมีดอกบัวขาวสด(ดอกบัวจริงไม่ปลอม) ๔ ดอก และพวงมาลัยดอกไม้สด ๔ พวง ไปด้วยก็ยิ่งจะดี
จุดธูปหอม ๑๖ ดอก ถือธูปพนมไว้ในมือ ว่านะโม ๓ จบ เพื่อนอบน้อมระลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าขออนุญาตพระบรมครูเสียก่อน แล้วจึงขออนุญาตหรือบอกความตั้งใจที่ต้องการแก่หงส์หินคู่ให้รับทราบ แล้วจึงนำธูป ๑๖ ดอกนั้นไปพนมมือไหว้อธิฐาน หรืออธิฐานซ้ำที่หัวใจหงส์หินคู่ .. เสร็จแล้วจึงปักธูป ๑๖ ดอกลงที่โคนเสาหินนั้น (ตอนนี้ยังไม่มีกระถางธูป ก็หาที่ปักยากหน่อย เนื่องจากพื้นเป็นหินเกือบทั้งหมด ต้องปักตามร่องหินไปก่อน) เป็นอันเสร็จพิธี
หากผู้ใดมีดอกบัวขาวสด ๔ ดอก หรือพวงมาลัยดอกไม้สด ๔ พวง ตอนจุดธูปที่นกหงส์ก็ให้วางที่นกหงส์อย่างละ ๒ (ตัวละดอก ตัวละพวง) จากนั้นที่เหลือให้ถือไปอธิฐานบนบานศาลกล่าวแล้ววางที่บนหัวใจหงส์หินคู่ .. เมื่อได้รับความสำเร็จแล้ว ตอนกลับไปแก้บนนั้น เครื่องบูชา ธูปหอม ๑๖ ดอก ดอกบัวขาวสด ๔ ดอกจะต้อง พวงมาลัยดอกไม้สด ๔ พวง จะต้องครบทุกอย่างอย่าให้ขาด ส่วนใครจะเพิ่มเติมอะไรๆตามสมควรนั้นก็แล้วแต่ เช่น ผ้าขาว ผ้าเขียว ผ้าเหลือง ผ้าแดง เพื่อผูกแต่ง หรือสิ่งของตามที่ตนบนไว้นั้นก็ไม่ว่ากัน แต่อย่าให้เป็นเหล้ายาเครื่องดองของเมา หรือสิ่งของที่เป็นอันตราย ลามก การเบียดเบียนผู้อื่น เช่นชีวิตสัตว์เป็นต้น ไม่ดีไม่งาม ไม่เอา ขอให้เข้าใจนะครับ จะให้ดีก็ต้องบนด้วยการปฏิบัติธรรม การทำบุญทำทาน การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาของเราให้เจริญรุ่งเรืองและถูกต้องครับ ยิ่งตอนนี้สำนักปฏิบัติธรรมภูนกหงส์หินของเรากำลังเริ่มฟื้นฟูพัฒนา เพื่อให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมใหม่ๆ ก็ยิ่งเป็นโอกาสที่จะได้ทำคุณงามความดี สั่งสมบารมีให้ยิ่งๆขึ้นไป มีโอกาสได้สำเร็จตามความปรารถนามากกว่าช่วงอื่นๆครับ
ในการไปไหว้บนบานอธิฐานขอนั้น แม้ท่านจะอนุญาตไว้ให้ไปได้ทุกวันทุกเวลาก็ตามที แต่ก็มีหลักการที่จะให้เกิดความสำเร็จยิ่งๆขึ้นไปกว่าปรกติอยู่คือ ติดต่อสอบถามและเข้าไปกราบไหว้ไถ่ถามที่หลวงปู่เลี่ยมให้ดีเสียก่อน จะได้รู้แน่ว่าตอนเองติดขัดอะไรอื่นๆอยู่บ้าง? เป็นเรื่องที่ต้องบนหรือไม่ต้องบน บางเรื่องที่เป็นอยู่ก็แก้ไขได้ไม่ยากแต่ต้องให้หลวงปู่เสถียรและหลวงปู่เลี่ยมท่านพิจารณาเสียก่อน ว่าที่เป็นอยู่นั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับภพภูมิที่มีกรรมผูกร่วมกันมา จำเป็นต้องได้รับการสื่อสารทำความเข้าใจให้รู้แจ้งเสียก่อน หรือเกิดจากวิบากกรรมมากน้อยเพียงใด มีอะไรต้องเพิ่มเติมหรือไม่? เห็นสมควรต้องบนท่านก็จะบอกให้ไปตามสมควร
จะให้ดียิ่งขึ้นท่านว่าให้เป็นจันทรคติในข้างขึ้น ตั้งแต่ขึ้น ๙ ค่ำ จนถึงขึ้น ๑๕ ค่ำ โดยเฉพาะในวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำได้เป็นยิ่ง .. อีกอย่างยิ่งใครอธิฐานเข้าสู่การปฏิบัติธรรมตามกำลังของตน หรือตามกำหนดวันเวลาของทางสำนักก็ยิ่งจะเป็นการดี หรือ ใครจะไปเฉพาะในวันขึ้น ๑๕ ค่ำก็ดีเช่นกัน หรือมีอะไรที่เราพอจะช่วยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญยิ่งๆ ขึ้น ที่สำนักปฏิบัติธรรมภูนกหงส์หินนี้ได้ ก็จงพิจารณาเอาตามกำลังของตน
นั่นจะเป็นการแลกเปลี่ยนด้วยสิ่งที่ดียิ่ง คือ ศีลธรรมคุณงามความดีที่สมควรยิ่ง จะยิ่งเป็นหนทางทำให้ความปรารถนาของท่านได้สำเร็จเป็นอัศจรรย์ได้มากกว่าธรรมดาที่ไปบนบานศาลกล่าวทั่วๆไป.. ฯลฯ ..
ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ท่านทั้งหลายทุกๆท่านเถิด ขออนุโมทนา สาธุ!
ที่มา : http://mahatammigarach.blogspot.com/2014/10/blog-post_2.html