[225] นิวรณ์ 5 (สิ่งที่กั้นจิตไม่ให้ก้าวหน้าในคุณธรรม, ธรรมที่กั้นจิตไม่ให้บรรลุคุณความดี, อกุศลธรรมที่ทำจิตให้เศร้าหมองและทำปัญญาให้อ่อนกำลัง — hindrances.)
1. กามฉันทะ (ความพอใจในกาม, ความต้องการกามคุณ — sensual desire)
2. พยาบาท (ความคิดร้าย, ความขัดเคืองแค้นใจ — illwill)
3. ถีนมิทธะ (ความหดหู่และเซื่องซึม — sloth and torpor)
4. อุทธัจจกุกกุจจะ (ความฟุ้งซ่านและร้อนใจ, ความกระวนกระวายกลุ้มกังวล — distraction and remorse; flurry and worry; anxiety)
5. วิจิกิจฉา (ความลังเลสงสัย — doubt; uncertainty)
“จิต” ของเราเหมือนกับลูกโป่ง
“นิวรณ์” แท้จริงมันก็มีอยู่กับตัวเราเสมอ ถึงจะเรียนก็มี
ไม่เรียนก็มี
“นิวรณ์” นี้มันมีอำนาจ อิทธิพลมาก
เพราะ เป็นเครื่องกลบเกลื่อนดวงจิตของเรา
ไม่ให้ก้าวขึ้นสู่ “ความดี” ได้
เส้นทางของนิวรณ์ที่จะไหลมาสู่เรา ก็คือ ..
“สัญญาอดีต” อันได้แก่เรื่องราวต่างๆ
ทั้งดี ทั้งชั่ว ทั้งของเรา ของเขา
ซึ่งเป็นอดีตทั้งหมดเส้นหนึ่ง
อีกเส้นหนึ่ง คือ “สัญญาอนาคต”
นับแต่เรื่องที่คิดไปตั้งแต่วันพรุ่งนี้จนถึงวันตาย
ซึ่งเราอาจเดาอาจคิดไปด้วยความผิดพลาด
ทั้งหมดทั้ง ๒ ทาง
นี้ เป็นเส้นทางที่ไหลมาจากนิวรณ์ทั้งสิ้น
ฉะนั้น ..
เรื่องอดีต อนาคต ก็ต้องวางไว้ก่อน
ยกจิตของเราขึ้นสู่องค์ภาวนา คือ ..นึกถึงลมหายใจของลมอันเป็นส่วนปัจจุบันของรูป ปัจจุบันของนาม
ได้แก่ “ตัวรู้” เมื่อเราทำได้เช่นนี้
จิตของเราก็จะเหมือนกับลูกโป่งที่ลอยอยู่
ในอากาศ เพียงตัดเชือกเส้นเดียวเท่านั้น
เราก็จะหลุดได้ คือ
เมื่อตัดสัญญาขาด จิตของเราก็จะเข้าไปสู่องค์ภาวนาได้ทันที
.. ใจ ก็ไม่มีอาการอึดอัด มีแต่ความโปร่งสบาย
..ใจ ก็สูงเหมือนลูกโป่งที่ถูกตัดเชือกออกจาก
ก้อนหินที่ผูกไว้
สิ่งที่จะตามขึ้นไปทำลายรบกวนก็ยาก
เพราะ ธรรมดาขี้ฝุ่นนั้นก็จะกลบได้แต่เพียงแค่ศีรษะคนเท่านั้น ที่มันจะปลิวขึ้นไปกลบถึงยอดภูเขา หรือยอดไม้สูงๆ นั้นย่อมไม่ได้
ฉะนั้น ..เมื่อจิตของเราสูงขึ้นแล้ว
“นิวรณ์” ทั้งหลาย ก็ไม่สามารถจะกลบจิต
ของเราให้เศร้าหมองได้
... ท่านพ่อลี ธมฺมธโร ...