เผยแพร่เมื่อ 14 เม.ย. 2016
พระยาธรรมรับคำสอนจากพุทธองค์ ตอนที่ ๓๕ รักษาศีลไปเพื่ออะไร
เผยแผ่ธรรมเช้าวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๙
ขอกราบนอบน้อมต่อองค์พระพุทธบิดา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และกราบนมัสการพระคุณเจ้า ทุกๆ รูป
รวมถึง เจริญธรรมญาติบุญทั้งหลาย ผู้ที่มีความตั้งใจดี จะฟังธรรมทุก ๆ ท่าน
ในเช้าของวันนี้ เมื่อข้าพระพุทธเจ้าได้เข้าเฝ้านอบน้อมต่อองค์พระพุทธบิดาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ท่านแล้วนั้น
พระองค์ท่านได้ทรงเมตตา แสดงธรรมแก่ข้าพระพุทธเจ้า ดังนี้ว่า
พระยาธรรมเอ๋ย.. ลูกรู้หรือเปล่าว่า ศีลนั้นช่วยอะไรกับบุคคลที่รักษาศีล ?
พระยาธรรม :: ศีลนั้น.. เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เรา ไม่สร้างกรรมไม่ดี เพิ่มหนี้กรรมให้แก่ตนเอง
ทำให้เราไม่ต้องกลับไปชดใช้กรรมที่เราก่อเอาไว้ จะไม่เป็นหนี้อีกต่อไป
และศีล ก็ยังช่วยชำระล้างกิเลสตัณหา ในจิตใจของบุคคลผู้รักษาศีลอีกด้วย เจ้าค่ะ
ซึ่งจะทำให้เรานั้นอยู่ห่างจากกิเลสตัณหาไปเรื่อยๆ ตามระดับศีลที่เรารักษา.. จนกว่าเรานั้นจะสามารถ เข้าถึงพระนิพพาน
หลุดจากกิเลสและตัณหา ไม่ปนเปื้อนกับมันอีก เจ้าค่ะ
*ศีล* จึงเป็นสิ่งที่นำพาให้เราไปถึงพระนิพพาน
*ศีล* จึงเป็นสิ่งที่ไม่ให้เราสร้างหนี้กรรม ให้เราติดอยู่ในวัฏสงสารนี้
ลูกเข้าใจว่า *ศีล*เป็นเครื่องชำระล้างกิเลส เป็นสิ่งที่ทำให้เราไม่ต้องเป็นหนี้ ไม่ต้องกลับมาชดใช้อีก
เป็นสะพานที่จะนำทางให้เราไปถึงพระนิพพาน
++ หากว่าเรารักษาศีลอย่างมั่นคง รักษาศีลอย่างบริสุทธิ์.. เราก็จะได้มาด้วยสิ่งที่กล่าวมานี้ เจ้าค่ะ ++
พระยาธรรมเอ๋ย.. บุคคลผู้ที่รักษาศีลได้นั้น เขาย่อม "เป็นสุข"
เพราะไม่มีกรรมไม่ดีใดที่เขาทำเอาไว้ และกรรมไม่ดีนั้น จะส่งผลคืนกลับมาหาเขา
บุคคลผู้รักษาศีลได้นั้น เขาย่อมเป็นสุข ถึงแม้ว่ากรรมเก่า สิ่งไม่ดี ที่เขาเคยทำไว้ จะส่งผลมา เขาก็มี *ศีล* ป้องกันไม่ให้เขานั้นสร้างกรรมใหม่เพิ่มขึ้น
กรรมเก่าของเขาก็จะถูกชดใช้ไป จ่ายหนี้กรรมไปเรื่อยๆ กรรมใหม่ที่ไม่ดี ก็ไม่มี กรรมเก่าที่ทำเอาไว้ที่ไม่ดีส่งผลมา ก็ได้ชดใช้
เขาจึงเป็นผู้เป็นอิสระอิสระ ไม่เป็นหนี้กรรมอีกต่อไป
ลูกเอ๋ย.. ดวงจิตที่ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสารนี้ ก็เป็นเพราะว่าตนนั้น ยังติดหนี้กรรมอยู่ คือ กรรมไม่ดี ยังต้องได้กลับมาชดใช้ในเรื่องนั้นบ้าง เรื่องนี้บ้าง
- กรรมด้วยคำพูด
- กรรมด้วยความคิด
- กรรมด้วยการกระทำที่ไม่ดี
ลูกเอ๋ย.. เมื่อเราไม่ติดหนี้กรรมใดๆ ที่ไม่ดี ที่ต้องมาชดใช้อีกต่อไป ภูมิจิตก็จะเลื่อนสภาวธรรม สูงยิ่งๆขึ้นไป
รวมถึงบุคคลผู้รักษาศีลนั้น เขาก็จะถูกการรักษาศีลของเขา "ชำระล้าง" ดวงจิตของบุคคลผู้นั้นเอง
ดวงจิตดวงนั้น ก็จะสะอาดบริสุทธิ์ ด้วยการ** รักษาศีล **
เขาจะรู้ถึงเชื้อถึงกิเลส และตัณหาได้ เพราะกิเลสตัณหาที่ครอบงำเขาอย่างหนาทึบนั้น ถูกชำระด้วย *ศีล* ที่เขามี
เมื่อชำระล้างไปจนเบาบางแล้ว เขาก็จะรู้ จะเข้าใจ
และการรักษาศีลนั้น ก็ยังเป็นเกราะป้องกันไม่ให้กิเลส และตัณหา เข้ามาเคลือบ ครอบงำจิตใจดวงจิตดวงนั้น..ให้ตกเป็นทาสอีก
ลูกเอ๋ย.. การรักษาศีลนั้น ก็เลยเป็นสิ่งที่ชำระล้างกิเลส
หากว่าเรารักษาศีลได้มากข้อเท่าไหร่ ก็จะยิ่งชำระล้างกิเลสตัณหาในใจตนได้มากเท่านั้น
... จนกว่าเรานี้ จะหมดจากกิเลสตัณหา เข้าสู่พระนิพพานได้…
ลูกเอ๋ย.. จงทำความเข้าใจดังนี้เถิดว่า การรักษาศีลนั้น ก็รักษาศีลเพียงเพื่อ…
/ ไม่ให้สร้างกรรมเพิ่ม คือ กรรมไม่ดี
/ ไม่ให้ติดหนี้กรรมอีก
/ ไม่ให้เรานั้น ไปเพิ่มหนี้กรรมที่ไม่ดี.. หากกรรมเก่าส่งผลมา
การรักษาศีลนั้น เพียงเพื่อให้เรานี้อยู่ห่างจากกิเลส และตัณหา
การรักษาศีล เพียงเพื่อให้เราชำละล้างกิเลสในใจตน.. เพื่อเรานั้น จะได้เข้าสู่พระนิพพาน ดับการเกิดของตนได้
เพราะกิเลส และตัณหา คือ ** สาเหตุของการเกิด **
"การเกิด" คือ สาเหตุของความทุกข์ทั้งปวง
หากว่าเราดับกิเลสตัณหาได้ ** การเกิดในเราก็จะไม่มีอีก ความทุกข์ทั้งปวงก็จะดับลงไป **
เรารักษาศีล ก็เพียงแค่หวังเท่านี้ คือ "จุดมุ่งหมาย" ของเรา
บุคคลที่ทำความเข้าใจเช่นนี้ เขาก็จะพบประโยชน์ ในการรักษาศีล เขาก็จะพบความสุข ความสงบในการรักษาศีล
บุคคลที่เข้าใจเช่นนี้ เขาก็จะรู้ว่า เขาได้อะไรบ้าง- จากการรักษาศีล แต่…
เราไม่ได้รักษาศีล เพื่อให้บุคคลผู้อื่นชื่นชม ว่าเราเป็นคนดี
เราไม่ได้รักษาศีล เพื่อให้เราก่อเกิดความร่ำรวย
เราไม่ได้รักษาศีล เพื่อให้เราได้เป็นเจ้าใหญ่นายโต
เราไม่ได้รักษาศีล เพื่อไม่ให้เราเจ็บป่วย
เราไม่ได้รักษาศีล เพื่อให้เราสมหวัง สมปรารถนาทุกอย่าง ที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้
ไม่ได้รักษาศีล เพื่อให้เรานั้นไม่ตาย
ไม่ได้รักษาศีล เพื่อให้คนที่เรารักนั้น ไม่พลัดพรากจาก
ไม่ได้รักษาศีล เพื่อให้เงินทองที่มีอยู่นั้น มีอยู่ตลอดไป.. ไม่เสื่อม /ไม่สลาย /ไม่หายไป
ลูกเอ๋ย.. จงจำไว้เช่นนี้เถิด คนผู้ใดที่รักษาศีลเพื่อสิ่งที่กล่าวมานั้น ย่อมผิดหวัง
... เพราะว่าเรานั้นรักษาศีล เพื่อให้ดับกิเลส ชำระล้างกิเลส และดับการเกิดเท่านั้น !
นั่นคือ ** ธรรมคำสั่งสอน ** ขององค์พระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า ที่ชี้ทาง และบอกทาง
นั่นคือ จุดมุ่งหมายที่องค์พระพุทธเจ้า ชี้ทางให้เดินตาม -- แต่ไม่ใช่ความสุข / ความร่ำรวยในทางโลก / ความสมหวัง / ความไม่เจ็บ-ไม่ป่วย / ความไม่พลัดพรากจาก
ลูกเอ๋ย.. จงพิจารณาให้เข้าใจในการรักษาศีลให้ดีเถิด แล้วจงเดินตามรอยผู้ชี้ทางอย่างเข้าใจ แล้วลูก...
* จะได้ไม่ผิดหวัง
* จะได้หาเจอความสุข ในการรักษาศีล
* จะได้รู้ว่า รักษาศีลแล้วได้ผลเช่นไร
* จะได้เข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของการรักษาศีล
เมื่อบุคคลผู้หนึ่ง ทำสิ่งใดก็ตาม.. หากทำไปแล้ว เข้าใจว่าจะได้สิ่งนั้น.. แต่กลับไม่ได้ตามความเข้าใจของตน
/ ย่อมก่อเกิดความทุกข์ในจิตใจ ผิดหวัง
/ ย่อมก่อเกิดความเดือดร้อน ในจิตใจของตน
... เพราะตนเข้าใจว่า จะต้องได้มาเช่นนั้น …
ลูกเอ๋ย.. จงพิจารณาให้ดี ให้เข้าใจในการรักษาศีล ว่ารักษาศีล.. เพื่อสิ่งใด
แล้วจงทบทวนดูว่าเรา * รักษาศีล 5 * เราได้อะไรจากการรักษาศีล 5 บ้าง
เราได้ความสุข สงบ ในจิตใจ.. เพราะห่างไกลจากกิเลส ตัณหามาบ้างแล้ว เพราะกิเลส และตัณหา เบาบางลงจากตัวเราบ้างแล้ว
- เรารักษาศีล 5 ทำให้จิตใจของเราสว่าง.. เพราะว่าเรานี้ ไม่หมกมุ่นกับกิเลสตัณหาแล้ว
- เราเข้าใจความเป็นจริงของชีวิตแล้ว
- เราเป็นสุข และสงบ เพราะไม่มีกรรมไม่ดีใดส่งผลมาทำให้เราเดือดร้อนแล้ว
- เราเป็นสุข และสงบ เพราะเมื่อบิลหนี้กรรมเก่านั้นส่งผลมา เราก็ไม่ได้สร้างกรรมใหม่เพิ่ม
มีแต่อโหสิกรรม มีแต่ชดใช้มันไปด้วยความยินดี จิตใจเราเลยไม่เป็นทุกข์อีกแล้ว
จงพิจารณาดูดังนี้เถิดลูก.. แล้วลูกก็จะเห็นประโยชน์ เห็นความสุขจากการ ** รักษาศีล **
แล้วจงเพิ่มศีล ข้อห้ามต่างๆขึ้นมาให้กับตนเอง...
เพื่อจะเป็นกรอบ ของการเดินทางเข้าสู่พระนิพพาน
เพื่อจะเป็นกรอบ ของการชำระล้าง ลอกกิเลส และตัณหา.. ออกจากจิตใจของตน
เพื่อจิตใจของลูกนั้น.. จะได้สว่าง สงบ
เพื่อตัวของลูกนั้น.. จะได้เข้า ถึงการดับการเกิด
ลูกเอ๋ย..
รักษาศีล เพื่อไม่ให้เพิ่มหนี้กรรม
รักษาศีล เพื่อชำระกิเลส
รักษาศีล เพื่อดับกิเลสตัณหาในตน ดับการเกิด ดับการเกิด เพื่อดับกองทุกข์ทั้งปวงเท่านั้น ไม่ใช่สิ่งอื่นเลย
+ +
พระยาธรรม :: พระพุทธเจ้าเจ้าขา การที่เรารักษาศีลนั้น มีจุดมุ่งหมายเดียว คือการดับการเกิด เท่านั้นใช่มั้ยเจ้าค่ะ
คือ ตามรอย ตามคำสั่งสอนของพระองค์ที่ถูกต้องอย่างแท้จริง จุดมุ่งหมาย คือ การดับการเกิดเท่านั้น ใช่มั้ยเจ้าคะ ?
พระยาธรรมเอ๋ย.. การดับการเกิดเท่านั้น จึงจะเป็น*หนทางเดียว* ที่จะพ้นทุกข์ได้ !
ทางอื่นๆนั้น จะไม่มีทางพ้นทุกข์ได้เลย เพราะว่าเราจะไม่พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด
ฉะนั้น การรักษาศีล จึงรักษาศีล…
เพื่อชำระกิเลส
เพื่อไม่ให้เพิ่มกิเลส
เพื่อให้เรานั้น เข้าใจตามความเป็นจริง
ชำระล้างกิเลสออกจากใจตน เพื่อดับการเกิดเท่านั้น
พระยาธรรม สาธุ เจ้าค่ะ แล้วลูกจะนำไปเผยแผ่ให้กับญาติบุญทั้งหลายทั้งฟัง ได้ประพฤติ ปฏิบัติ พิจารณาตาม ให้เข้าใจว่า การรักษาศีลนั้น เป็นเช่นไรหน่ะเจ้าค่ะ