อัศจรรย์การปรากฏของบรมครูการแพทย์ "ชีวกโกมารภัจจ์"
รูปภาพนี้เกิดจากการที่หลวงพ่อบ๋าวเอิง อัญเชิญให้มาปรากฏบนนิ้วมือเพราะท่านต้องการปั้นพระพักตร์ของท่านหมอชีวกโกมารภัจจ์ ไว้สำหรับเคารพบูชาในฐานะที่ตัวหลวงพ่อเองท่านเป็นพระที่รักษาโรคแก่คนทั่วไปด้วย
ท่านเล่าว่าได้ติดต่อช่างปั้นคนหนึ่งชื่อว่า “นายโชติ สโมสร” ขณะนั้นนายโชติกำลังรับปั้นรูปหล่อหลวงพ่อคง ของสำนักท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี
นายโชติได้ตกลงรับงานนี้และได้นำดินน้ำมันมาลองปั้นโดยหะแรกเข้าใจว่าท่านหมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นชาวจีน เพราะเห็นว่าหลวงพ่อบ๋าวเอิงท่านเป็นคนญวน รูปปั้นจึงน่าจะออกมาในลักษณะแบบนั้น และด้วยเหตุผลที่เกิดจากการคิดไปเอง นายโชติจึงได้ปั้นพระพักตร์ของท่านหมอชีวกโกมารภัจจ์ออกมาเป็นหน้าตาแบบคนจีน
เมื่อทราบว่าตนเองปั้นผิดเพราะท่านหมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นพราหมณ์ หน้าตาต้องเป็นแบบอินเดีย ครั้นจะเริ่มใหม่...ก็เกิดปัญหา...คือนายโชติจินตนาการไม่ออก
หลวงพ่อบ๋าวเอิง ท่านจึงตัดสินใจที่จะอัญเชิญท่านหมอชีวกโกมารภัจจ์มาปรากฏบนนิ้วมือของท่านเพื่อให้นายโชติได้เห็นอย่างชัดเจน โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น นายโชติได้บันทึกไว้ดังนี้ครับ...
“ผมได้ชวนคุณเฉลิมและคุณจุไรรัตน์ มาเป็นเพื่อนเพื่อพิสูจน์ความจริง เมื่อมาถึงวัดหลวงพ่อได้ให้พวกผมขึ้นไปบนกุฎิพร้อมกับท่าน หลวงพ่อได้ทำพิธีอัญเชิญ ผมได้สนใจเฝ้าดูหลวงพ่อทุกอิริยาบถและรู้สึกว่าการทำพิธีอัญเชิญนั้นง่ายเหลือเกินและแปลกกว่าความคาดหมายของผม..
หลวงพ่อได้จุดธูปและปักตามที่บูชาต่างๆในกุฏิ จากนั้นท่านได้ว่าคาถาเป็นภาษาญวนปนไปกับภาษาบาลี ซึ่งผมเองก็ฟังไม่รู้เรื่อง จิตใจของผมในขณะนั้นอยากจะเห็นภาพและทำการปั้นเพื่อพิสูจน์ความจริง คุณเฉลิมและคุณจุไรรัตน์ ได้ขึ้นมานั่งดูอยู่ด้วย...
หลวงพ่อได้นั่งบนอาสนะ มือถือธูปที่จุดแล้วกำมือและหัวแม่มือชูขึ้น สายตาของผมจ้องจับอยู่ที่หัวแม่มือของหลวงพ่อ ในไม่ช้าก็ปรากฏเห็นเป็นจุดขาวและจุดขาวนั้นได้ขยายตัวโตขึ้นๆ จนเห็นเป็นภาพ แต่ไม่ชัด ผมตอนนั้นจิตใจรู้สึกตื่นเต้นเพราะได้ประจักษ์สิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน...
หลวงพ่อได้เปลี่ยนที่นั่งใหม่ ซึ่งมีแสงสว่างน้อย คราวนี้ภาพที่หัวแม่มือของหลวงพ่อได้ปรากฏแจ่มชัด ผมเริ่มปั้นตามภาพใบหน้าที่เห็นในภาพนั้นทันที ใจผมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ได้ปั้นตามภาพที่ปรากฏให้เห็นนั้น..
ผมใช้เวลาถึงสองชั่วโมงจึงปั้นเสร็จเรียบร้อย คุณเฉลิมและคุณจุไรรัตน์ ที่ผมชวนมาด้วยก็เห็นภาพนั้นเช่นเดียวกับผมและยืนยันว่า ภาพที่ปรากฏที่หัวแม่มือหลวงพ่อเหมือนกับรูปที่ผมปั้นทุกประการ....”
เชื่อกันว่ารูปท่านหมอชีวกโกมารภัจจ์ ที่ถือกำเนิดจากฝีมือของนายโชติ สโมสร และอำนาจพลังจิตของหลวงพ่อบ๋าวเอิง ได้รับการยอมรับจากคนทั่วไปว่าเป็น...
”รูปหมอชีวกโกมารภัจจ์ที่ปรากฏเป็นลักษณะองค์จริงครั้งแรกของโลก...”
หลวงพ่อบ๋าวเอิงได้ขนานนามรูปหล่อท่านชีวกโกมารภัจจ์ว่า
“ บรมคุรุแพทย์ ชีวกโกมารภัจจ์ ”
หมอชีวกโกมารภัจจ์ (อ่านว่า ชี-วะ-กะ-โก-มา-ระ-พัด) บรมครูแห่งการแพทย์แผนโบราณ (แพทย์แผนไทย) เป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา เรื่องราวขีวิตของท่านมีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกและคัมภีร์อรรถกถา
ตลอดชีวิตของหมอชีวกโกมารภัจจ์ ได้บำเพ็ญแต่คุณงามความดี ช่วยเหลือผู้เจ็บไข้โดยไม่เลือกฐานะ จนได้รับยกย่องจากพระพุทธองค์ว่า เป็นเอตทัคคะ ผู้เลิศกว่าอุบาสกทั้งปวงในทาง "เป็นที่รักของปวงชน"
ในวงการแพทย์แผนโบราณในปัจจุบันนี้ ถือว่าหมอชีวกโกมารภัจจ์เป็น บรมครูแห่งการแพทย์แผนโบราณ เป็นที่เคารพของประชาชนทั่วไป
คาถาหมอชีวกโกมารภัจจ์ คาถารักษาโรค
ตั้งนะโม 3 จบ
โอม นะโม ชีวะโก สิระสา อะหัง กะรุณิโก สัพพะสัทธานัง โอสะภะ ทิพพะมันตัง ประภาโส สุริยาจันทัง โกมารภัจจ์โต ประภาเสสิ วันทามิ ปัณฑิโต สุเมทะโส อะโรคา สุมนาโหมิ
ให้สวด คาถารักษาโรค หรือ คาถาหมอชีวกโกมารภัจจ์ 3 จบ
คาถาหมอชีวกโกมารภัจจ์ อีกบทหนึ่ง
นะอะนะวะ โรคา พยาธิ วินาสสันติ
สวด 3 จบ เหมือนกัน