ลูกหลานทั้งหลายเอ๊ย๚
ธาตุวัตถุทั้งหลายแห่งสากลจักรวาล-อนันตจักรวาล มีทั้งความเสริมส่งกันแลขัดแย้งกันอยู่ในที
ฉะนั้น ใครจะว่าโลกนี้วุ่นวายขัดข้องหรือไม่ก็ตามที วัตถุธาตุทั้งหลายก็เป็นของมันอย่างนี้
พุทธองค์ทรงสวัสดิ์ จึงโปรดสั่งสอนชาวโลกมิให้ตกเป็นทาสของธาตุวัตถุทั้งสิ้น แต่ให้ใช้งานธาตุวัตถุทั้งหลายเพื่อเป็น "#ลาภผล" ก้าวหน้าไปสู่ "#มรรคผล" เท่านั้น มิให้ติดยึด เพราะติดยึดย่อมทำให้ก้าวเดินไปข้างหน้ามิได้. ยิ่งตกเป็นทาสก็ยิ่งย่ำแย่ยิ่งกว่าสิ่งใด เพราะจะยิ่งหน่วงถ่วงเราลงต่ำสู่อบายภูมิ.
ชนบางหมู่เหล่า บุคคลบางราย ปฏิเสธ การมี การได้ ในธาตุวัตถุทั้งสิ้นไปเลย นั่นก็จักเป็นความสุดโต่ง มิเดินสายกลาง มิยอมรับสัทธรรมเบื้องต้น,เบื้องกลาง,เบื้องสูงอันประสานสัมพันธ์กันอยู่ มิเป็นสัมมา มิเป็นมัชฌิมา
๏ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ ขอให้ลูกหลานจงจำเริญภาคธรรมควบคู่กับภาคทิพย์เถิด ความประเสริฐสุขสมจักพึงเกิดขึ้น. เป็นปีติ-ปราโมทย์ เป็นสุข เป็นเอกัคคตา. ก่อเกิดบุญฤทธิ์ประสิทธิพร บวรมงคล ได้มั่นคงยืนนาน เป็นกำลังอานุภาพก้าวหน้าสู่พระนิพพานะปัจจะโย โหตุ เทอญ ๚ะ๛
---------------------
ธรรมเทศนาหลวงปู่เทพโลกอุดร.หลวงปู่เทพโลกอุดร.
หลวงปู่เทพโลกอุดรภาคมหาฤๅษีทรงวิทยาคุณ , หลวงปู่โง่น โสรโย , ครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร ขอประสิทธิให้ลูกหลานทุกคน ภาพนี้ผ่านการอธิษฐานจิตทิพยญาณพิศุทธิ์แล้ว นำไปบูชาได้เลย.. นะลูกหลานเอ๊ย ๚
-------------------------
หลวงปู่เทพโลกอุดร
#หลวงปู่เทพโลกอุดรกับจิตวิญญาณพรหมทิพย์ของเณรคำ
ต้นวงศ์หลวงปู่ใหญ่ คือ พระมหากัสสัปปะเถระ. (ซึ่งท่านเป็นต้นวงศ์พระป่าสายปฏิบัติจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ด้วย นะลูกหลาน)
เมื่อพ.ศ.8 หลวงปู่พระมหากัสสัปปะท่านเดินทางจากชมพูทวีป (อินเดีย) มาสร้างพระธาตุพนม ท่านมีลูกศิษย์องค์หนึ่งเป็นสามเณร ชื่อเณรคำ เป็นผู้ทรงอภิญญา เดินทางจากอินเดียมาด้วยกันกับท่าน.
เมื่อสร้างโถงภายในองค์พระเจดีย์พระธาตุพนมแล้วเสร็จ ทำพิธีประดิษฐานพระบรมธาตุเสร็จแล้ว เณรคำแม้มีอภิญญาสูงแต่ก็ยังซุกซนตามประสาเด็ก ก็ได้แอบเข้าไปในโถงแล้วนั่งสมาธิเข้าฌานสมาบัติจนกระทั่งหายตัวได้
ก่อนมีการปิดโถงจึงไม่มีใครสักคนเห็นเณรคำ เณรคำจึงติดอยู่อยู่ในโถงนั้นมานานแสนนาน.
ตราบจนกระทั่งพ.ศ. 2518 (ลงท้ายด้วย 8 เหมือนกัน.. นะลูกหลานเอ๊ย) พระธาตุพนมล้ม. มีผู้พบเห็นกายของเณรคำออกมาจากองค์พระเจดีย์ที่ล้มนั้น.
สมัยเณรคำท่านอยู่ในองค์พระเจดีย์พระธาตุพนมเมื่อราวพ.ศ.236 นั้น ท่านส่งกระแสญาณติดต่อกับหลวงปู่ใหญ่ซึ่งเป็นหัวหน้าพระสมณทูตที่พระเจ้าอโศกมหาราชส่งมา ได้เรียนรู้วิชชาเพิ่มเติมกับหลวงปู่ใหญ่จนกระทั่งได้บรรลุธรรมสูงขึ้น จนถึงอนาคามี.
ทุกวันนี้มีผู้อ้างตนว่าเป็นเณรคำกันมาก แต่เณรคำที่แท้ท่านเป็น "กายพรหมทิพย์ขั้นอนาคามี" มิได้มาเกิดเป็นกายเนื้อ.
เณรคำแม้เป็นผู้เกิดก่อนและเดินทางมาสุวรรณภูมิก่อนหลวงปู่ใหญ่ ซึ่งหลวงปู่ใหญ่มาถึงสุวรรณภูมิราวพ.ศ.236. แต่อย่างไรเณรคำก็ยังเป็นเณร ในฌาน-ญาณที่ท่านติดค้างอยู่นั้นก็อยู่ในวัยของสามเณรตลอด ไม่ได้เปลี่ยนวัยไปตามเวลา เมื่อได้พบหลวงปู่ใหญ่ เณรคำได้อาราธนาหลวงปู่ใหญ่เป็นอาจารย์สอนธรรมท่านในฌาน-ญาณนั้น
ความเชื่อมโยงระหว่างหลวงปู่พระมหากัสสัปปะกับหลวงปู่ใหญ่ก็บังเกิดอย่างเด่นชัดขึ้นกว่าแต่เดิม ก็เพราะมีเณรคำเป็นผู้เชื่อมโยงนั่นเอง.. นะลูกหลานเอ๊ย๚
--------------------
---------------------------
หลวงปู่พระมหากัสสัปปะ ท่านเป็นต้นวงศ์ของหลวงปู่ใหญ่ และเป็นต้นวงศ์ของพระป่าในทุกแว่นแคว้นทุกยุคสมัยที่ผ่านมา ท่านได้รับยกย่องจากพระพุทธเจ้าเป็นเอตทัคคะด้านธุดงควัตร คือ เป็นผู้ยอดเยี่ยมที่สุดในด้านการเป็นพระผู้อยู่ป่าเป็นนิตย์
เมื่อคราวพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานใหม่ๆ มีภิกษุปุถุชนรูปหนึ่งนาม สุภัททะ บวชเมื่อแก่แล้ว เคยถูกพระพุทธเจ้าตักเตือนความประพฤติอันไม่ควรแก่สมณสารูปหลายครั้ง เอ่ยขึ้นว่า "พระสมณโคดมจากพวกเราไปดังนี้ก็ดีแล้วนี่นา จะได้ไม่ต้องมีผู้ดุด่าว่ากล่าวพวกเราอีก ต่อไปนี้พวกเราคิดอยากจะทำอะไรก็ไม่ต้องมีใครคอยควบคุมให้ต้องอึดอัดแล้ว"
แต่คำพูดนี้กลับทำให้หลวงปู่พระมหากัสสัปปะต้องใคร่ครวญอย่างมาก ว่า "ดูเอาเถิด พระพุทธเจ้าเพิ่งดับขันธปรินิพพานไปเพียง 7 วัน ก็มีผู้คิดดังนี้เสียแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปเป็นร้อยปีพันปี พระพุทธศาสนาจะอยู่ได้อย่างไร ?"
นี่คือความนึกคิดละเอียดลออ อย่างประกอบด้วยเมตตากรุณาเปี่ยมล้นของพระอรหันต์สายโพธิสัตว์ที่มีต่อชนรุ่นหลัง ทั้งที่ท่านเองหลุดพ้นเสร็จกิจเฉพาะตนไปแล้ว ท่านก็ยังเมตตาห่วงใยสรรพสัตว์รุ่นหลัง อย่างไม่ย่นระย่อต่ออุปสรรคขวากหนามที่จะธำรงรักษาพระพุทธศาสนาเพื่ออนุชน.. นะลูกหลานเอ๊ย
หลวงปู่พระมหากัสสัปปะ ท่านจึงได้ขวนขวายแสวงหาความร่วมมือร่วมใจจากพุทธบริษัททุกฝ่ายให้มีการสังคายนาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งนับเป็นกิจที่ต้องอุตสาหะวิริยะอย่างสูงยิ่ง ท่านได้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งแรก ส่วนประธานฝ่ายฆราวาสคือ พระเจ้าอชาตศัตรู เมื่อการสังคายนาสำเร็จกลายเป็น พระไตรปิฎก ครั้งแรกของโลก ส่งผลดีงามทำให้พระพุทธศาสนาธำรงรากฐานสืบทอดมาถึงทุกวันนี้ได้ ถ้าไม่มีพระไตรปิฎกพระพุทธศาสนาคงมลายหายสูญไปนานแล้ว.
เมื่อ ปีพ.ศ. 8 หลวงปู่พระมหากัสสัปปะท่านได้เดินทางมาแถบถิ่นภาคอีสานของไทยปัจจุบันนี้ เพื่ออัญเชิญพระอุรังคธาตุ(กระดูกส่วนหัวอก)ของพระพุทธเจ้ามา แล้วมาสร้างองค์พระธาตุพนมเพื่อประดิษฐานพระธาตุดังกล่าว. ชะรอยท่านมีอนาคตังสญาณเล็งเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าว่าดินแดนสุวรรณภูมิสยามนี้จะเป็นแหล่งสืบทอดพระพุทธศาสนาสำคัญของโลก
กาลต่อมาในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช คณะสมณทูตหลวงปู่ใหญ่จึงได้ดำเนินรอยตามหลวงปู่พระมหากัสสัปปะท่าน โดยได้เดินทางมา ณ แถบถิ่นนี้ เพื่อทำให้พระพุทธศาสนาแผ่ขยายขจายขจรแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น.
-------------------------------
[ทางเพจต้องขอขอบคุณเจ้าของภาพจำลองพระมหากัสสัปปะเถระ เป็นอย่างสูง]
ภพภูมิทั้งหลายเป็นของลึกลับ ยากที่จะจับเอามาอรรถาธิบายได้. การที่หลวงปู่ใหญ่กล่าวถึงพญานาค ก็หมายความว่า พญานาค คือ "ผู้เป็นใหญ่อันประเสริฐ". พญานาคบางเหล่าเป็นเทพยดา บางเหล่าเป็นมนุษย์ในดินแดนบังบด บางเหล่าที่เป็นบริวารพญานาคอยู่ในภูมิสัตว์เดรัจฉาน ก็มี
ในสมัยที่หลวงปู่ใหญ่ มาเผยแพร่พระพุทธศาสนา ในดินแดนสุวรรณภูมินี้ ได้พบกับ "พญาศรีสุทโธนาคราช" ท้าวเธอเป็นผู้นำอันยิ่งใหญ่อยู่ในดินแดนแถบนี้ มีปฏิปทาอันมั่นคงในการปกครอง ที่จะให้ผู้อยู่ใต้การปกครอง มีความร่มเย็นเป็นสุข เจริญรุ่งเรื่อง
อาณาจักรของท้าวเธอมีอาณาเขตครอบคลุมอย่างที่ในปัจจุบันเรียกขานว่า "เอเชียอาคเนย์" ทั้งหมด นั่นเอง. (แต่ดินแดนบางส่วนในยุคนั้นยังคงอยู่ใต้ทะเล)/
กาลต่อมา ด้วยความเคารพศรัทธาต่อหลวงปู่ใหญ่และคณะ พญาสีสุทโธนาคราชจึงได้ปฏิญาณตนนับถือพระพุทธศาสนา ทำให้บ้านเมือง ราชอาณาจักรของท้าวเธอ มีความจำเริญรุ่งเรืองเป็นปึกแผ่นมากยิ่งขึ้น / ต่อมา บรรดามนุษย์ผู้บกพร่องในศีล ได้ขยายขอบเขตเข้ามาปกคลุมพื้นที่แห่งพญาศรีสุทโธนาคราช ท้าวเธอจึงได้นำเหล่านาคานาคีหลบลี้เข้าไปอยู่ในแดนบังบด เพราะไม่ประสงค์จะจองเวรกับเหล่ามนุษย์ ซึ่งนับว่าท้าวเธอและเหล่าบริษัทบริวารเป็นผู้เสียสละอย่างยิ่งใหญ่ ท่านเหล่านี้จึงได้กลายเป็นเทวะ มีภาวะอันเป็นทิพย์ เพราะมีจิตใจเสียสละไม่จองเวรต่อผู้มาเบียดเบียน นั่นเอง.
โอกาสเบื้องหน้า หลวงปู่ใหญ่จะได้เล่าเรื่องพญานาคให้ลูกหลานฟังอีกนะ....... / #มาร่วมบุญสืบอายุพระพุทธศาสนา สร้างสถานปฏิบัติธรรม #ศรีสุธรรมา กันนะ ลูกหลานเอ๊ย / แชร์ต่อๆกันไปได้บุญบารมีมหาศาลนะลูกหลานทุกคน
-------------------------
#หลวงปู่เทพโลกอุดร.
หลวงปู่ใหญ่จะเล่าเรื่องพญานาคราชให้ลูกหลานฟังนะ. ต่อไปนี้เป็นตอนที่ 2 / กาลบัดนี้ ภพภูมิพญานาคแห่งเมืองบังบดเองก็มีความยุ่งยากไม่ต่างจากโลกมนุษย์. มนุษย์ทุกวันนี้ที่ไปขอพรพญานาคนี่เท่ากับเป็นการรุกรานการจำศีลภาวนาของพญานาคบางเหล่าอยู่เหมือนกัน แต่บางเหล่าก็พึงพอใจที่มนุษย์ไปบูชาเขา / พญาศรีสุทโธนาคราชก็ได้พยายามสื่อสารกับหลวงปู่ใหญ่ว่า.. "ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเหมือนดาบ 2 คม เมื่อเงื้อดาบจะฟันสิ่งใดต้องระวังดาบจะอีกคมหนึ่งจะฟันตัวเราเองก่อน. ขอพร อย่าขอด้วยโลภะ พญานาคบางเหล่าเป็นมิจฉาทิฐิ เห็นมนุษย์มีมีกิเลสโลภ เขาก็สวมรอยเลย ทำให้มนุษย์ลุ่มหลงในมายา บางคนจิตอ่อนก็กลายเป็นละเมอเพ้อพกไป ไม่มีสติอยู่กับตัว. พญานาคที่เป็นสัมมาทิฐิมีเมตตาธรรมไม่ต้องรอให้มนุษย์ขอพร เขาพร้อมที่จะช่วยเหลือมนุษย์อยู่แล้วตลอดเวลา ขอให้มนุษย์นั้นเป็นคนดี มีศีลธรรม ทำบุญกุศลอย่างต่อเนื่อง" .. แม่นาคีศรีพรหมาก็บอกหลวงปู่ใหญ่.. "ทำไมมนุษย์จะต้องขอพร เหล่านาคสิจะต้องได้รับบุญจากมนุษย์ นาคทำได้แค่จำศีลภาวนา ทำบุญอย่างอื่นเพื่อพระพุทธศาสนาไม่ได้ บุญอย่างอื่นมนุษย์ต้องสร้างต้องทำไปให้เพื่อให้ครบองค์แห่งทาน-ศีล-ภาวนา จึงจะเป็นพลังบุญครบถ้วนสมบูรณ์แท้ เหล่านาคทั้งหลายทำไม่ได้เท่ามนุษย์ แม้เหล่าเทพก็ทำไม่ได้เหมือนกัน ภพภูมิมนุษย์ประเสริฐที่สุดในแง่การสร้างบุญสร้างกุศลได้ครบถ้วนสมบูรณ์กว่าทุกภพทุกภูมิ" ที่หลวงปู่เล่ามานี้ เพื่อให้ลูกหลานมุ่งมั่นสร้างบุญกุศลมากกว่าขอพร แม้จำเป็นต้องขอพรอย่าขอด้วยจิตโลภ ต้องทำบุญเป็นต้นทุนไว้ก่อนแล้วจึงค่อยขอพร พรนั้นจึงประสิทธิผล.../ ติดตามเรื่องพญานาคตอนต่อไปนะลูกหลานเอ๊ย../ #สร้างบุญประเสริฐสุดกับหลวงปู่ใหญ่ ตามโครงการ "สืบอายุพระพุทธศาสนาห้าพันปี" บริจาคปัจจัยเข้ามาที่เพจนี้เท่านั้น ไม่มีที่อื่นนะลูกหลาน ได้อานิสงส์ยิ่งใหญ่_ไม่มีใดเทียม เพราะเป็นการร่วมปณิธานยิ่งใหญ่กับหลวงปู่ใหญ่ .. / แชร์ต่อๆกันไปได้บุญ นะลูกหลานเอ๊ย
----------------------
#หลวงปู่เทพโลกอุดร.
#บทอธิษฐานขอขมา_อโหสิกรรม_ฉบับหลวงปู่เทพโลกอุดร.
บทนำ ; ลูกหลานทั้งหลายเอ๊ย กาลบัดนี้หลวงปู่ใหญ่จักมอบคำอธิษฐานขอขมา-อโหสิกรรมแก่ลูกหลานทุกคน ด้วยล่วงรู้ว่าลูกหลานหลวงปู่ใหญ่หลายคนทุกข์กายทุกข์ใจอันเนื่องมาจากกรรมเก่า และเจ้ากรรมนายเวรมาตามทวง ทั้งที่ปรากฎตัวตนแลไม่ปรากฏ ก็ตาม. แลถึงแม้มิได้ปรากฏตัวตน แต่สภาพทุกข์บาปกรรมที่ลูกหลานต้องเผชิญอยู่นั่นเอง คือสภาพแห่งเจ้ากรรมนายเวร.. ขอลูกหลานทั้งหลายจงรับเอาคำอธิษฐานนี้ไปพิจารณาศึกษาใช้หลังจากสวดมนต์เจริญสมาธิภาวนา หรือ หลังจากทำบุญให้ทานแล้ว จะได้หลุดพ้นจากบ่วงกรรมบ่วงเวร.. จำเริญ จำเริญ ยิ่งขึ้นไป นะลูกหลานเอ๊ย ๚
(บทอธิษฐานนี้ อยู่ใน #หนังสือสวดมนต์เจริญพระคาถาสายหลวงปู่ใหญ่ ที่กำลังรวบรวมปัจจัยเพื่อจัดพิมพ์ ขอให้ลูกหลานมาร่วมบริจาคทำบุญกับหลวงปู่ใหญ่เพื่อพิมพ์หนังสือนี้ให้แพร่หลายเป็นมหามงคลสืบพระพุทธศาสนาของเราต่อไปนะลูกนะ ลูกหลานจะได้รับอานิสงส์ยิ่งใหญ่มหาศาลประมาณมิได้ .. โปรดระมัดระวังผู้แอบอ้าง ขอให้ลูกหลานส่งข้อความแสดงความประสงค์บริจาคทำบุญ มาที่เพจหลวงปู่เทพโลกอุดร. นี้ เท่านั้น นะลูกนะ)
----------------------------
บทอธิษฐานขอขมา-อโหสิกรรม
ฉบับ หลวงปู่เทพโลกอุดร.
ว่านะโม 3 จบ
โย โลกุตตโร อรหัง อภิญญาธโร
อัปปะมาโณ พุทโธ,ธัมโม,สังโฆ
ปะมาณะสัตตานิ สัพเพ ภัทรานิ
ปัสสันตุ มา กิญจิ ปาปะมาคะมาฯ
กายะกัมมัง วะจีกัมมัง มะโนกัมมัง สัญจิจจะกัมมัง อะสัญจิจจะกัมมัง ขะมันตุ เม อะโหสิกัมมัง ภะวะตุ เม.
กรรมอันใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำล่วงเกินต่อสัตว์ใดไว้ นับแต่ภพชาติใดก็ตาม ตราบถึงปัจจุบันชาตินี้ โดยตั้งใจก็ตาม มิได้ตั้งใจก็ตาม ข้าพเจ้าสำนึกผิดแล้ว ขอสัตว์ทั้งหลายจงยกโทษให้เป็นอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า เพื่อเปิดทางให้ข้าพเจ้าได้ดำรงชีวิตอยู่ ประกอบการอันเป็นบุญกุศล อุทิศบุญแก่สัตว์ทั้งหลาย และเพื่อเป็นไปตามคำสอนพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ คือ เวรทั้งหลายย่อมระงับดับสูญได้ ด้วยการไม่จองเวรจองกรรมต่อกันและกันอีกต่อไป
แม้กรรมอันใดที่สัตว์ทั้งหลายได้กระทำล่วงเกินต่อข้าพเจ้าทุกภพชาติ ตราบถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขอยกโทษให้ อโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น ยกถวายเป็นอภัยทาน เป็นบุญยิ่งใหญ่ ก่อเกิดอานิสงส์พิเศษ ดลบันดาลใจให้สัตว์ทั้งหลายผู้เป็นเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า มีเมตตาจิต คิดเป็นมิตรกับข้าพเจ้า
ด้วยอานิสงส์แห่งอภัยทานนี้ ขอให้ข้าพเจ้า มารดาบิดาวงศาคณาญาติและผู้มีพระคุณของข้าพเจ้า จงพ้นจากความทุกข์ยากลำบากเข็ญใจ ขออาราธนาหลวงปู่ใหญ่ พระครูเทพโลกอุดร โปรดเป็นตัวกลาง ให้การอธิษฐานขออโหสิกรรมนี้จงสัมฤทธิผล และขออานุภาพบริสุทธิ์ยิ่งใหญ่ของหลวงปู่ใหญ่ โปรดคุ้มครองรักษาข้าพเจ้าตลอดไป. ข้าพเจ้าขอปฏิญาณตนจักสำรวมระวังในความประพฤติทางใจ-วาจา-กาย ดำรงอยู่ในคุณธรรมความดีตลอดไป ขอความจำเริญสวัสดีมีชัย จงมีแด่ข้าพเจ้าตลอดกาลนาน ตราบถึงพระนิพพานะปัจจะโย โหตุ เทอญ ๚
----------------
#หลวงปู่เทพโลกอุดร.
[คาถาปรารถนาความสำเร็จ .. อย่าเพ่งกะเกณฑ์ให้สำเร็จเพราะจะเป็นกิเลสอภิชฌา แต่พึงตั้งใจสวดด้วยจิตเบิกบาน แล้วอานิสงส์จะเกิดเอง]
นะโม 3 จบ
๏ โลกุตตะโร จะ มหาเถโร อะหัง วันทามิ ตัง สะทา โอม อุ อะ มะ นะโมพุทธายะ ยะ ธะ สุ มัง ๚ะ๛
สวดได้ตลอดเวลา ทุกอิริยาบถ ท่องจำให้ได้ แล้วสวดแม้ในขณะที่ทำงานอยู่ก็ได้ สวดให้มากเที่ยวที่สุด เกิน 108 เที่ยวได้ยิ่งดี.. นะลูกหลานเอ๊ย .. จงจำเริญรุ่งเรืองยั่งยืนนานเทอญ๚
-------------------------------
#หลวงปู่เทพโลกอุดร.