🍀 #การตามรู้ทัน 💡 #เวทนา 🍀
เรียกว่า... **เวทะนานุปัสสี**
.
เมื่อเห็นบ่อยๆ มันจะเกิดความ #เข้าใจ ขึ้นมาว่า เวทนาทั้งหลายเป็นของไม่เที่ยง
.
ความสุขก็ไม่เที่ยง ความทุกข์ก็ไม่เที่ยง ความเฉยๆก็ไม่เที่ยง
.
การตามเห็นความไม่เที่ยงเนืองๆ ...นี้เรียกว่า.. “อนิจจานุปัสสี”
รู้จัก อนิจจาไหม?
อนิจจาวัฏฏะสังขารา อนิจจานุปัสสี
เมื่อมี อนิจจานุปัสสี เห็นแล้วว่าความสุขก็ชั่วคราว ความทุกข์ก็ชั่วคราว....อะไรๆก็ชั่วคราว
สุข..ทุกข์..เฉยๆ..นี้ ชั่วคราวหมดเลย
.
ความหลงยินดีในความสุขก็จะไม่เกิดขึ้น
....เพราะรู้แล้วว่าของชั่วคราว
ความหลงยินร้ายในความทุกข์ก็จะไม่เกิดขึ้น
.....เพราะรู้แล้วชั่วคราว
.
🔥
อย่างพวกเราบางคนมีความทุกข์มาก หลวงพ่อเลยสอนคาถาให้ ให้ท่องไว้ว่า ...“ไม่นาน ..มันก็ผ่านไป”
.
อันนั้น ก็คือ การพยายามมองมันในแง่ของ อนิจจัง นั่นเอง
เพราะงั้นความทุกข์ไม่นาน ..มันก็ผ่านไปเหมือนกัน
....งั้นถ้าเรายอมรับตรงนี้ได้เราก็ไม่ทุกข์ ...
**ใจเป็นกลาง**
.
..งั้นเรารู้เวทนาไปนะ
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบอารมณ์ *
#ให้มันกระทบ ..#อย่าไปห้ามมัน*
.
เมื่อกระทบอารมณ์แล้ว เกิดสุข ให้รู้ทัน เกิดทุกข์ ให้รู้ทัน เกิดเฉยๆ ให้รู้ทัน
.
เมื่อรู้ทัน
นานไปมันจะเห็นเลยว่า ความสุขทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ชั่วคราว
ความทุกข์ที่เกิดจากการกระทบทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ชั่วคราว
ความเฉยๆที่เกิดจากการกระทบอารมณ์ต่างๆ ก็อยู่ชั่วคราว
.
ความสุขความทุกข์ความเฉยๆ ชั่วคราว นี่เรียกว่าเห็น อนิจจานุปัสสี
เมื่อมี อนิจจานุปัสสี เห็นซ้ำเห็นซากเห็นบ่อยๆ
..จะเกิด “วิราคานุปัสสี” ...ความอยากจะลดลง
.
จะอยากอะไร?
คนในโลกนี้
#ก็อยากมีความสุข .. #อยากหนีความทุกข์
ก็อยากอยู่แค่นี้แหละ
.
ก็ถ้าเห็นว่าความสุขนะของชั่วคราว จะอยากมันทำไม ความอยากก็จะหายไป
เห็นว่าความทุกข์เป็นของชั่วคราว อยากจะให้พ้นจากมันก็หายไป ของชั่วคราว
ไม่ต้องไปไล่มันหรอก
🔥
ความอยาก ค่อยคลายออกๆ.. เรียกว่า วิราคานุปัสสี
ถ้า วิราคานุปัสสี เดินได้เต็มที่.. “นิโรธานุปัสสี” คือนิโรธ
ก็จะตามเห็นนิโรธขึ้นมา เห็นความดับสนิทของทุกข์ขึ้นมา
..*ทีแรก ก็..ดับชั่วคราวก่อน* ..
.
.
อย่างใจเราหลงยินดี..
#มีความสุขขึ้นมา.. #เรายินดีพอใจ ➕ ..รู้ทัน
#มีความทุกข์ขึ้นมา .. #ยินร้าย ➖ ...เรารู้ทัน
.
ใจคลายออก ใจคลายออก ใจก็ไม่ดิ้น
ใจไม่ดิ้นนะ ..ใจดับจากความดิ้นรน
นี่ก็เป็น"นิโรธ"นะ เป็นนิโรธอ่อน นิโรธต้นๆ
.
.
.
⭐️ #นิโรธ นั้นมี⭐️ ๕อย่าง
.
1️⃣.- ดับเพราะสมถะก็เป็นนิโรธอย่างหนึ่ง
(การสงบจากกิเลสเพราะการทำสมถะ เป็นขั้นต้นที่สุดเลย ข่มลงไปด้วยสมถะ)
.
.
2️⃣. - ดับเพราะวิปัสสนาก็เป็นนิโรธอย่างหนึ่ง
.
.
อย่างกิเลสเกิดเรา #รู้ทัน ‼️ว่ามันไม่เที่ยง
ความทุกข์ความสุขเกิด .. เรารู้ทัน ..ว่าไม่เที่ยงนะ
#ใจไม่ยินดียินร้าย นะ ดับลงไป อันนี้ #ดับเพราะวิปัสสนา
.
.
ยังมี อีกสาม ดับ คือ
3️⃣.- ดับเพราะมรรค
4️⃣.- ดับเพราะผล
5️⃣.- ดับเพราะนิพพาน
.
.
งั้น.. ⭐️ #นิโรธมี๕ตัว ⭐️
(๑)ดับเพราะ #สมถะ
(๒)ดับเพราะ #วิปัสสนา
(๓)ดับเพราะ #มรรค .. (๔)ดับเพราะ #ผล
และ ...(๕)ดับเพราะ #นิพพาน
.
.
#ดับเพราะมรรค #ดับเพราะผล จะ #เกิดต่อกันในฉับพลัน
ดับด้วยมรรค ..........หนึ่งขณะจิต
ต่อด้วยดับด้วยผล ..สองสามขณะจิต
.
.
ส่วน #ดับด้วยนิพพาน นี้ เป็นความ #ดับรอบดับสนิท
.
.
ถ้าเมื่อไหร่
....จิตของเราปราศจากตัณหา..โดยสิ้นเชิง
เพราะมีปัญญาแจ่มแจ้งรู้แจ่มแจ้ง..ในอริยสัจ
รู้ในกองทุกข์ว่าขันธ์ทั้งหลายเป็นทุกข์ล้วนๆ
ความอยาก ให้ขันธ์เป็นสุข ไม่มี
ความอยาก ให้ขันธ์พ้นทุกข์ ไม่มี
🔥
.
.เห็นไหม ตัวสุข ตัวทุกข์ ...นั่นแหละตัวผลัก
พอความอยากให้ขันธ์เป็นสุข...ไม่มี
ความอยากให้ขันธ์พ้นทุกข์...ไม่มี
จิตไม่ปรุงต่อ ..ความปรุงแต่งไม่มี
.
.
.
งั้นถ้า #อวิชชาดับ ....(ไม่ใช่ไปดับอวิชชา) ...(แต่)
#เพราะรู้แจ้งแล้วว่าขันธ์ทั้งหลายเป็นตัวทุกข์ 🔥
.
.
อวิชชาดับ ตัณหาก็ดับ "ความอยาก"จะหายไป
ตัณหาดับนะ อุปาทานความยึดถือก็ดับ
ภพชาติและทุกข์ก็จะดับตามกันไป
#จะดับสนิทแห่งทุกข์ก็ตรงนี้เอง
.
งั้นพวกเรามาหัด
นี่พระพุทธเจ้าท่านสอนพระอินทร์ สอนสั้นนิดเดียวนะ
ท่านสอนตามรู้เวทนา
ตามรู้เวทนาเนืองๆ เรียก เวทะนานุปัสสี
.
ก็จะเกิดความจางคลาย ..เรียกว่า.. วิราคานุปัสสี
รู้ความจริงก็เบื่อหน่ายคลายกำหนัด
พอคลายกำหนัดนะใจก็เข้าถึง.นิโรธานุปัสสี-พ้นทุกข์ไป
จิตจะสลัดคืนความยึดถือ ในรูปธรรมนามธรรม ทั้งปวง
เรียกว่า “ปฏินิสสัคคานุปัสสี” คืน
............คืนขันธ์ ๕ ให้โลก
.พระอินทร์นะ ได้ยินแล้ว สาธุเสียงดังเลย
ปลาบปลื้มใจ ถามแล้วพระพุทธเจ้าตอบ
.
🙏🏻🙏🏻🙏🏻
.
นี่แหละ ...สุดยอดวิชาของพระพุทธเจ้าแล้ว
ธรรมะสูงสุดเลยนะ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻
...ธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่น...
🚩 *** #จะไม่ยึดมั่นได้ให้ตามรู้เวทนา*** 🚩
🤗
.
.จนเห็นเลยสุขทุกข์มันไม่เอาไหน .. มันเกิดแล้วดับ
ความอยากก็จะหายไป .. ความพ้นทุกข์ก็จะเกิดขึ้น.
.
..งั้นพวกเราถึงไม่ใช่พระอินทร์นะ ...เราก็เอาธรรมะนี้ไปใช้ได้
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ..ให้มันกระทบอารมณ์ไป
พอกระทบอารมณ์แล้วมีความสุขเกิดขึ้นให้รู้ทัน ..
มีความทุกข์เกิดขึ้นให้รู้ทัน
ถ้ามีความสุขแล้วหลงยินดีให้รู้ทัน..
มีความทุกข์เกิดขึ้นแล้วหลงยินร้ายให้รู้ทัน
.
คอยรู้อย่างนี้นะจิตจะหมดแรงดิ้น
#หมดแรงแกว่ง...หมดความอยากนั่นเอง
🔥
.
*ตัณหา* ...นั่นแหละ ➖🌀➕
ที่ทำให้ ➡️ *#จิตเคลื่อน* ไปตามภพต่างๆ
..ตัณหา.. เป็นผู้สร้าง 🌀 ภพ 🌀
.
.
.
#ถ้ามีสติมีปัญญา ขึ้นมา
**#เห็นความไม่เที่ยงของเวทนา** .➡️ .ตัณหาก็ดับ
.
เพราะเวทนาปัจจยาตัณหา = เวทนาเป็นปัจจัยของตัณหา
.
ถ้า #เวทนาสิ้นฤทธิ์ ซะแล้ว .. ➡️ ..ตัณหา ทำงานไม่ได้
.
ตัณหาทำงานไม่ได้
➡️ อุปาทาน ทำงานไม่ได้
➡️ ภพทำงานไม่ได้
➡️ ชาติทำงานไม่ได้
➡️ ทุกข์ทำงานไม่ได้
.
.
พระพุทธเจ้าท่านบอกว่านี้สั้นที่สุด นะ
สั้นที่สุดแล้ว
.
ใครจะหาทางลัดอะไรก็หาไปนะ
แต่อันนี้แหละที่พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าเป็นทางลัด
.
เมื่อก่อนหลวงพ่อไม่เจอพระสูตรนี้นะ
อย่างอ่านหนังสือมาคงอ่านแต่ว่ามันผ่าน
เวลาใจเราไม่ถึงกับธรรมะอันนั้นนะ เวลาเราอ่านแล้วเราจะผ่าน หรือได้ยินก็ผ่านไปนะ
มาอ่านทีหลัง ...มาได้ยินทีหลัง
พอใจมันเหมาะกับธรรมะตรงนั้นก็เข้าใจ
ก็สนใจขึ้นมา
.
.
----------------------------------------------------------
🙏🏻🙏🏻🙏🏻
ขอนอบน้อมต่อ องค์สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
กราบนมัสการ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
.
น้อมกราบฯ ...หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช