การดูจิตเป็นวิธีปฏิบัติที่ลัดสั้นที่สุด
"การดูจิตเป็นวิธีปฏิบัติที่ลัดสั้นที่สุด
เมื่อก่อนไม่กล้าพูดนะ
แต่หลังๆ มีคนเค้าไปขุดธรรมะครูบาอาจารย์ออกมา
พูดเหมือนกันทุกองค์เลย
อยากไปเร็วที่สุด ก็ไปด้วยจิต
ถ้าดูจิตไม่ได้ ดูกายก็อ้อมหน่อย
เพราะจะดูกายได้ดี ต้องทำสมถะก่อน
อ้อมมากเลย ไปทำสมาธิให้จิตสงบ จิตตั้งมั่น
จิตสงบ จิตตั้งมั่นแล้วมาดูกาย
ดูไปเรื่อยๆ ถึงวันหนึ่งก็จะเข้ามาที่จิต
ถ้าเราสติปัญญามากพอ
กำลังสติ สมาธิ ปัญญาเราดี
รู้เข้าไปที่จิตเลย
รู้ที่จิต ก็ละความเห็นผิดที่จิต
บางองค์ท่านก็สอน รู้ที่จิต ละที่จิต
ถ้าฟังไม่ดีก็นึกว่าให้ละอารมณ์
หรือละ จิตดีก็ให้ละ จิตชั่วก็ให้ละ
อะไรๆ ก็ไม่เอาเลยสักอย่าง
อันนั้นเป็นมิจฉาทิฏฐิ
อะไรๆ ก็ว่าง อะไรๆ ก็ไม่มี
พวกนัตถิกทิฏฐิ ไม่มีอะไรสักอย่าง
ดูไปเรื่อยๆ
มีญาณเห็นจิต เหมือนตาเห็นรูป
จิตสุขก็รู้ จิตทุกข์ก็รู้
จิตดีก็รู้ จิตชั่วก็รู้
ไม่แทรกแซง ไม่บังคับ
สุดท้ายปัญญามันก็รู้แจ้งแทงตลอดในตัวจิต
จิตนี้ไม่ใช่ตัวเรา
ตัวเราไม่มี
เมื่อไรเห็นว่าจิตไม่ใช่เรา
ขันธ์ ๕ ทั้งหมดจะไม่ใช่เรา
เพราะขันธ์ ๕ เกิดจากจิตดวงเดียว
จิตเหมือนเมล็ดพันธ์
มีเมล็ดต้นไม้อยู่ เมล็ดมะม่วงอยู่หนึ่งเมล็ด
ก็งอกเป็นต้นมะม่วง มีราก มีต้น มีใบ มีกิ่ง มีลูกได้อีก
เหมือนมีจิตดวงเดียว ก็งอกขันธ์ ๕ ขึ้นมาได้อีก
ถ้าเมื่อไหร่เห็นว่าจิตไม่ใช่ตัวเรา
ขันธ์ ๕ ซึ่งเป็นผลผลิตของจิตก็ไม่ใช่เรา
โลกทั้งโลกปรากฏแก่เราด้วยขันธ์ ๕ ด้วยอายตนะ ๖
โลกปรากฏขึ้นมาด้วยสิ่งเหล่านี้
เมื่อขันธ์ ๕ ไม่ใช่เรา มันก็รวมอายตนะ ๖ ไม่ใช่เราเข้าไปด้วย
โลกข้างนอกก็ไม่ใช่เรา อะไรๆ ตัวเราไม่มีเลย ที่ไหนก็ไม่มี
ฉะนั้นปัญญาแทงตลอดลงมาที่จิตตัวเดียวว่าจิตไม่ใช่เรา
ขันธ์ ๕ ก็ไม่ใช่เรา
โลกก็ไม่ใช่เรา
รูป นาม กาย ใจ อายตนะ ขันธ์ ธาตุ อินทรีย์
ล้วนแต่ไม่ใช่เราทั้งหมด
แตกหักลงที่จิตดวงเดียวนี่เอง"
.
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม ๒๖ พฤษภาคม