ประชาสัมพันธ์สื่อธรรม : ไฟล์เสียงและสื่อธรรม ชุด “รู้เรา-เรารู้ : รู้จักตัวเรา”
“ตัวเรา” เป็นความปรุงแต่ง (สังขาร) เป็นธรรมชาติที่เกิดดับ ตกอยู่ภายใต้กฎอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แต่ “รู้” ที่มารู้ตัวเรา ที่ไม่ปรากฏตัวตนของผู้รู้ ไม่ปรากฏอาการรู้ ไม่ปรากฏอะไรเลย เป็นธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่ง (วิสังขาร) เป็นธรรมชาติรู้ที่ไม่เกิดไม่ดับ เป็นอมตะ เป็นอนัตตา ธรรมชาติทั้งสองต่างทำหน้าที่คู่กันอยู่ตลอดเวลาโดยที่ไม่เคยมีเรา ตัวเรา ของเราอยู่ในธรรมชาติทั้งสองนั้น
การเอาตัวเราไปรู้ (เรารู้) กับ การรู้ตัวเรา (รู้เรา) เป็นธรรมชาติสองชนิดที่ต่างกันสุดขั้ว “เรารู้” เดินทางในฝ่ายทุกข์กับสมุทัย ส่วน “รู้เรา” เดินทางในฝ่ายมรรคกับนิโรธ ในการปฏิบัติหากไม่เข้าใจธรรมชาติทั้งสองนี้อย่างถ่องแท้ ก็มีโอกาสที่จะปฏิบัติกลับด้านด้วยความหลงเข้าใจผิด จะพาตัวเราไปได้ ไปถึง ไปเป็น ไปบรรลุ ไปสำเร็จอะไร
การปฏิบัติธรรมเพื่อให้สิ้นหลงว่ามี “ตัวเรา” เป็นตัวเป็นตนอยู่จริง เพราะความเป็นเรา ตัวเรา ของเรานั้นเป็นเพียงสังขารปรุงแต่ง “รู้จักตัวเรา” โดยแท้แล้ว คือ รู้ว่าไม่มีตัวตนของเราอยู่ในธรรมชาติของสังขารและวิสังขาร
ท่านสามารถอ่าน ฟัง และศึกษาทำความเข้าใจไฟล์เสียงและสื่อธรรมชุด “รู้เรา-เรารู้ : รู้จักตัวเรา” ได้อย่างต่อเนื่องเพื่อความเข้าใจถึงใจจนสิ้นหลงว่ามี “ตัวเรา” เป็นส่วนเกินของธรรมชาติ รายชื่อสื่อธรรมต่าง ๆ รวบรวมไว้พร้อมลิงก์ด้านล่างนี้
~~~~~~~~~~~~~~~
ประชาสัมพันธ์สื่อธรรม : ไฟล์เสียงและวีดีโอ เรื่อง “สติ สัมปชัญญะ ความรู้สึกตัวในปัจจุบันขณะ”
องค์หลวงตาฯ เคยปรารภไว้ว่า... ถึงเราจะฟังธรรมมาก อ่านธรรมมาก ปฏิบัติมาก ตั้งใจปฏิบัติดี เป็นคนดี แต่ถ้าเราไม่เข้าใจเรื่อง “สติสัมปชัญญะ” ถึงจะปฏิบัติยังไง มันก็ไม่ไปยังไง มันจะเดินทางช้ามาก
ถ้าเราไม่เข้าใจเรื่อง “สติ” ต่อให้เราฝึกสมาธิยังไงก็ตาม เดินจงกรมยังไงก็ตาม อ่านธรรมะ ฟังธรรมะยังไงก็ตาม แต่มีชีวิตอยู่ในทุกปัจจุบันขณะโดยไม่มีสติ
เมื่อไม่มีสติ เท่ากับไม่มีสมาธิ ไม่มีปัญญา ไม่มีธรรม “ธรรม” ขาดหมดเลย
สติขาด สมาธิขาด ปัญญาขาด ... เป็นทุกข์
สติมี สมาธิมี ปัญญามี ธรรมมี ... ไม่ทุกข์
สติเป็นมหาสติ เป็นมหาสมาธิ เป็นมหาปัญญา เป็นพระนิพพาน ... พ้นจากทุกข์
“สติ” อันเดียว ... ก็ไม่หลาย
ทีมงานได้รวบรวมลิงค์สื่อธรรมประเภทไฟล์เสียงและวีดีโอ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสติ สัมปชัญญะ ความรู้สึกตัว การมีสติตื่นรู้อยู่ในปัจจุบันขณะ
เพื่อให้ผู้ปฏิบัติและผู้สนใจได้ศึกษาข้อมูล ติดตามรับฟังเพื่อความเข้าใจถึงใจต่อไป กรุณาคลิกที่ลิงค์ใต้ชื่อไฟล์แต่ละไฟล์ เพื่อเข้าถึงข้อมูลในสื่อธรรมต่าง ๆ
ท่านสามารถติดตามติดตามธรรมะเพื่อความพ้นทุกข์ในปัจจุบันได้ทางช่องทางตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้
"ติดตามเป็นแฟนพันธุ์แท้ในสื่อธรรมทุกประเภท เพียรน้อมนำคำสอนของหลวงตา และโอวาทธรรมของพ่อแม่ครูอาจารย์มาน้อมพิจารณา และเพียรปฏิบัติให้ต่อเนื่อง แล้วจะสิ้นสงสัย!!!"
“วิญญาณ” ในปฏิจจสมุปบาท ตอนที่ 2/2 (ว่าด้วยภาคปฏิบัติ)
ปรารภเหตุจากโอวาทธรรมจากปุจฉาวิสัชนา เรื่อง “รู้ คือใจ ไหลไป คือสังขาร” วันที่ 8-9 พฤษภาคม 2563 (อ่านรายละเอียดตามลิงก์ข้างล่างนี้)
http://www.luangtanarongsak.org/.../5352-05-may12-63-ot...
~~~~~~~~~~~~~~~
โยมส่งการบ้านองค์หลวงตา อ้างถึงโอวาทธรรมบางส่วนดังนี้
“...ขณะจิตใดที่ไม่หลงสังขาร คือ ไม่หลงยึดถือสังขาร ไม่หลงไปเป็นสังขาร ไม่หลงยึดว่าเราเป็นผู้รู้ หรือ ผู้รู้เป็นเรา ไม่ยึดว่าเราเป็นวิสังขาร
*** ก็เป็นใจที่เป็นวิสังขารธรรมโดยอัตโนมัติ จึงไม่มีใครใช้ความพยายามอย่างใด ๆ เพื่อให้ตัวเราเข้าถึงใจ...”
~~~~~~~~~~~~~~~
โยม : กราบนมัสการองค์หลวงตาเจ้าค่ะ
เห็นภาพชัดขึ้นเลยเจ้าค่ะ ว่าสังขาร หรือ แม้แต่ตัวเราเป็นเพียง “ของจร” ของจริงมีอยู่แล้วโดยอัตโนมัติ
เลยไม่ต้องหาของจริง
รู้ว่าอะไรเป็นของจร แยกของจรกับของจริงเป็น ก็เป็นของจริงอัตโนมัติ ไม่ต้องไปหาหรือไปทำของจริง (ถ้าไปทำ “ของจริง” ก็เป็น “ของจร”)
อ่านแล้วรู้สึกเข้าใจแบบนี้เจ้าค่ะ
ไฟล์เสียงชุด “รู้เรา-เรารู้”
200519B1-2 คุณสมบัติของธาตุรู้ ตอนที่ 1
200519B1-3 คุณสมบัติของธาตุรู้ ตอนที่ 2
200520B1-1 รู้ไม่เคยหายไปไหน ตอน 1
200520B1-2 รู้ไม่เคยหายไปไหน ตอน 2
200522B1-1 ที่เกิดที่ดับของสังขาร ตอน 1
200522B1-2 ที่เกิดที่ดับของสังขาร ตอน 2
200522B1-3 ที่เกิดที่ดับของสังขาร ตอน 3
200523A1-1 รู้หมด สิ้นสงสัย
200523B1-1 สติรู้เราโดยไร้เจตนา ตอนที่ 1
200523B1-2 สติรู้เราโดยไร้เจตนา ตอนที่ 2
200524B1 ทบทวนความเข้าใจการปฏิบัติ
200524A1 รู้จิตที่คิด
200525A1 รู้จักธาตุรู้
200528B2-1 ทางตัน ตอนที่ 1
200528B2-2 ทางตัน ตอนที่ 2
200528B2-3 สังขารที่มีผู้ยึดถือ
200526A1-1 ทุกข์ และ นิพพานเกิดจากอะไร ตอนที่ 1
200526A1-2 ทุกข์ และ นิพพานเกิดจากอะไร ตอนที่ 2
200526A1-3 ทุกข์ และ นิพพานเกิดจากอะไร ตอนที่ 3
~~~~~~~~~~~~~~~
หลวงตา : เข้าใจถูกแล้ว
“ใจ” ซึ่งเป็นวิสังขารธรรม เขาเป็นธาตุรู้ เขารู้จักตัวเขาดีว่าเขาเป็นธรรมชาติที่ไม่มีอะไรปรากฎ ไม่เกิดดับ
ซึ่งความไม่มีอะไรปรากฏ ความไม่ปรุงแต่ง จึงเป็นธรรมชาติถาวร เรียกว่า "อมตะ" หรือ วิมุตติ
จึงไม่มีใครปรุงแต่งทำให้เกิด ทำให้เป็น หรือ ดับเขาได้ หรือ ไม่สามารถจะเอาขันธ์ห้า หรือ ความคิด ความรู้สึกว่าเป็นเรา ตัวเรา ของเรา ซึ่งเป็นสังขารปรุงแต่งไปเป็นเขาได้
ซึ่ง “สังขารธรรม” เป็นธรรมชาติที่ปรุงแต่งขึ้นมาจากความไม่มีอะไร แล้วดับกลับคืนสู่ความไม่มีอะไร เป็นธรรมชาติเกิดดับจึงไม่ใช่ของถาวร เป็นของชั่วคราว จึงเรียกว่า “สมมติ”
ดังนั้น “ใจ” เท่านั้น จึงรู้จัก “ใจ”
จึงรู้ว่า...
อะไร “เป็นใจ” ที่เป็นวิสังขารธรรมซึ่งเป็นของจริง เป็นธรรมแท้ (สัจธรรม)
อะไร “ไม่ใช่ใจ” เพราะเป็นสิ่งมีกิริยาอาการปรุงแต่ง เกิดดับ เป็นของจรมาชั่วคราว เป็นสมมติ เป็นของปลอม ไม่ใช่ของจริง (สัจธรรม)
แล้วใจเขาก็รู้ว่า... อยู่กับใจที่เป็นของจริง... ของแท้... ธรรมแท้... สัจธรรม
ไฟล์เสียงชุด : สติสัมปชัญญะ ความรู้สึกตัว ตื่นรู้ในปัจจุบันขณะ
(ภาพนิ่งประกอบเสียงเทศน์องค์หลวงตาจากการแสดงธรรม)
191214B-1 สติสัมปชัญญะ ตอนที่ 1
https://www.youtube.com/watch?v=YoMCvVmjcdQ
191214B-2 สติสัมปชัญญะ ตอนที่ 2
https://www.youtube.com/watch?v=IGszEL1yIAk
191214B-3 สติสัมปชัญญะ ตอนที่ 3
https://www.youtube.com/watch?v=Z7i-kqKn3fg
180624A-5 สติสัมปชัญญะ
https://www.youtube.com/watch?v=ZdSUYuEkU0Y
180914B2-2 สติ ความรู้สึกตัว ตอนที่ 1
https://www.youtube.com/watch?v=ksV2K0P8G_Q
180914B2-3 สติ ความรู้สึกตัว ตอนที่ 2
https://www.youtube.com/watch?v=ZCXGJicSVRs
190607B1-1NL สติตื่นรู้ทุกปัจจุบันขณะ ตอนที่ 1
https://www.youtube.com/watch?v=eTqmXjIc12E
190607B1-2 NL สติตื่นรู้ทุกปัจจุบันขณะ ตอนที่ 2
https://www.youtube.com/watch?v=0A-nmyVDNaU
190607B1-3 NL อำนาจแห่งความเงียบ
https://www.youtube.com/watch?v=Rw3gKBqvVH0
190608A1-2 NL สติกับความรู้อยู่คู่กัน
https://www.youtube.com/watch?v=qv95zW3yZ9A
190602A-1NL สติ ปัญญาอัตโนมัติ
https://www.youtube.com/watch?v=LHrlsnqlhgo
170520c-2 ในเบื้องต้นต้องฝึกรู้สึกตัวให้เป็นเสียก่อน
https://www.youtube.com/watch?v=uJDiCqwU6Cg
170520c-3 ทำไมจึงต้องมาฝึกรู้สึกตัวให้เป็น
https://www.youtube.com/watch?v=YxYUYcAJPLw
170228 อย่างไรจึงเรียก 'รู้สึกตัว'
https://www.youtube.com/watch?v=uhbeeJfBsLY
170619B-2 - สติตัวจริง สติตัวปลอม
https://www.youtube.com/watch?v=F48JCPNYbok
170715A 4 สติอันเดียว
https://www.youtube.com/watch?v=yaLn_hRvgMU
160507-3 มีสติตื่นรู้อยู่กับปัจจุบัน
https://www.youtube.com/watch?v=zqTwFUbo1ps
190415B1-1 สติตื่นรู้ทุกปัจจุบันขณะ
ความพยายามเอาตัวเราไปเป็นใจ หรือ พยายามเอาตัวเราอยู่กับใจอย่างเป็นอมตะตลอดกาล เป็นความเข้าใจผิดมหันต์
แต่เพราะความโง่ ความไม่รู้ (อวิชชา) จึงหลงเอาสังขารไปไล่ดับสังขาร โดยหวังว่าถ้าดับสังขารในใจได้หมดจนเกลี้ยงเกลา เหลือแต่ความว่าง ซึ่งเป็นความว่างที่เกิดจากความปรุงแต่งสร้างขึ้นมา จึงเป็น “ของจร” ย่อมไม่เที่ยง ว่างบ้าง ไม่ว่างบ้าง
ขณะใดพยายามมีสติประคองรักษาไม่ให้มีอาการปรุงแต่งแทรกเข้ามา ก็มีความรู้สึกว่าง ซึ่งความจริงความรู้สึกเป็นเรา “ตัวเรามีสติ” กันไม่ให้มีความปรุงแต่งเกิดขึ้นในใจนั้นเป็น “อวิชชา” แล้วยังไม่รู้ตัว
เพราะระหว่างนั้น ไม่เห็นความปรุงแต่งแสดงอาการอย่างอื่น ๆ เกิดดับในใจ แต่ก็มีความปรุงแต่งเป็นเรา ตัวเรา ปรุงแต่ง "มีสติ" ปรุงแต่ง “ใจของเราว่าง” (ความว่างเกิดจากความปรุงแต่ง)
หากรู้ซะแล้วว่าทุกอย่างเป็น “ของจร” เขาจะดับ หรือจะไม่ดับ สุดท้าย... ของจรก็เป็นของจร ยังไงเขาก็มีหน้าที่ต้องดับไปเอง
ไม่ใช่หน้าที่จะพยายามเอาสังขารไปไล่ดับสังขาร เพราะแม้สังขารเก่าดับไป ก็เกิดสังขารใหม่เป็นผู้ไล่ดับเขาเรื่อยไป เป็นงูกินหาง...!!
***** ความสำคัญที่สุด ต้องรู้เห็นจากใจในปัจจุบันขณะ (รู้โดยธาตุรู้ ซึ่งเป็นวิสังขาร) ว่า ความคิด ความรู้สึกเป็นเรา ตัวเรา จิต ใจของเรา ในปัจจุบันขณะ เป็นสังขารปรุงแต่ง เป็นธรรมชาติเกิดเอง ดับเอง ไม่มีตัวตนคงที่ ไม่มีเลยที่เป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นตัวจิต ตัวใจของเรา ที่มีอยู่จริงอย่างเป็นอมตะ
~~~~~~~~~~~~~~~
ไฟล์เสียงชุด “รู้จักตัวเรา”
200601A3-1 รู้จักตัวเอง
200603A1 เงาของใจ
200603A2 ใจรู้ใจ
200602A2-1 กล้องที่เหนือตัวเรา
200606A1 รถไฟขบวนสุดท้าย
200610B1-2 ใจรู้จักเรา แต่เราไม่รู้จักใจ ตอนที่ 1
200610B1-2 ใจรู้จักเรา แต่เราไม่รู้จักใจ ตอนที่ 2
200614A1-1 กระจกของใจ
200614A1-2 เงาสะท้อนในใจ
200612B1-1 รู้ เป็นอิสระจากตัวเรา
200614A2-1 หลงเงาในกระจก ตอนที่ 1
200614A2-2 หลงเงาในกระจก ตอนที่ 2
ุhttps://youtu.be/V1-W7Mqiqq0
200613A โมหะ
200617A1 แสงสว่างในใจ
200617A2-1 จมอารมณ์สบายใจ ตอนที่ 1
200617A2-2 จมอารมณ์สบายใจ ตอนที่ 2
200617A2-3 จมอารมณ์สบายใจ ตอนที่ 3
200616A2-3 ทุกข์เพราะฝืนความจริง
200615A1 ประตูสู่กระแสธรรม
200615A2 ใจที่ไร้ผู้บงการ
~~~~~~~~~~~~~~~
โยม : องค์หลวงตาหมายถึง “ความเห็นผิด” ที่คิดว่ามีตัวเราที่เที่ยงเป็นอมตะ คือ ต้องเห็นด้วยใจว่ามันไม่เที่ยงแท้ถาวรหรอก นี่คือ “การดับวิญญาณ” ที่องค์หลวงตาบอกใช่มั้ยเจ้าคะ?
ดับความเห็นผิดว่ามันมีจริง ๆ ให้เห็นความจริงว่า... มันไม่มีคงที่จริง ๆ เดี๋ยวมีเดี๋ยวไม่มี... ใช่มั้ยเจ้าคะ?
วันนี้มีคำถามในใจขึ้นมาเจ้าค่ะว่า...
วิญญาณตั้งอยู่ได้เพราะเหตุใด?
อะไรเป็นเหตุเป็นที่ตั้งของวิญญาณ?
ไฟล์เสียงชุด : สติสัมปชัญญะ ความรู้สึกตัว ตื่นรู้ในปัจจุบันขณะ
(สื่อธรรมวีดีโอภาพเคลื่อนไหวจัดทำโดยทีมงานวีดีโอ)
วีดีโอบันทึกการแสดงธรรมที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ (มิถุนายน 2562)
190607B1-1(NL) สติตื่นรู้ทุกปัจจุบันขณะ ตอนที่ 1 (Thai-English)
https://www.youtube.com/watch?v=qUxkF_4nn0w
190607B1-2(NL) สติตื่นรู้ทุกปัจจุบันขณะ ตอนที่ 2 (Thai-English)
https://www.youtube.com/watch?v=lzgAsryAdIw
190607B1-3(NL) อำนาจแห่งความเงียบ (Thai-English)
หลวงตา : ความคิด ความรู้สึกเป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นจิต ใจ ของเรา เกิดดับ เดี๋ยวมี เดี๋ยวไม่มี เมื่อคิด หรือ รู้สึกว่ามี ก็มีความคิดความรู้สึกนั้นขึ้นมา
แล้วเดี๋ยวก็ดับไป แล้วก็คิด หรือ รู้สึกว่ามีเรา ตัวเรา จิต ใจของเราขึ้นมาใหม่อยู่เรื่อย ๆ แต่ก็ดับไปเสียทุกครั้ง
ดังนั้น แม้สังขารปัจจุบันขณะ เขาจะปรุงแต่งคิด รู้สึกเป็นเรา ตัวเรา จิต ใจของเรา แต่ถ้า “ใจ” ซึ่งเป็น “ธาตุรู้” เขารู้แจ้งจากใจแล้วว่า อาการคิด หรือ รู้สึกอย่างนั้น เป็นเพียงสังขารปรุงแต่ง ซึ่งเป็นเพียงคลื่นพลังงานเป็น wave, vibration ที่เกิดขึ้นมาจากความไม่มีอะไร เกิดเอง ดับเอง... เกิดเอง ดับเอง... เป็นของจร ไม่ใช่ธรรมแท้ คือ ความไม่มีอะไรปรากฏ
ไม่ได้เป็นตัวตนคงที่ เป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นตัวจิต ใจของเราจริง ก็จะ “หายโง่” สิ้นอวิชชา
ต่อจากนั้น แม้สังขารปรุงแต่งความคิดความรู้สึกอย่างนั้นจะเกิดดับกี่ครั้ง ก็ไม่มีความหมายต่อใจอีกต่อไป
"วิญญาณ" ตั้งอยู่ได้เพราะ “อวิชชา”
คำว่า “วิญญาณตั้งอยู่” ก็แสดงถึงยังมี “อวิชชา” คือ ไม่รู้ความจริงว่าวิญญาณเกิดขึ้น (มีแต่ความคิดปรุงแต่ง ซึ่งเป็นคลื่นพลังงานเกิดขึ้น) จึงยึดว่ามีวิญญาณ (ปรุงแต่งเป็นรูปวิญญาณขึ้นมา)
เปรียบเหมือนกับกลางวันไม่กลัวผี เพราะไม่ได้คิดปรุงแต่งสร้างผีเป็นตัวตนขึ้นมา พอตกกลางคืนกลัวผี เพราะคิดปรุงแต่งสร้างผีเป็นตัวตนขึ้นมา แล้วคิดปรุงแต่งมีเราเป็นตัวตนกลัวผี
แท้ที่จริง ตัวผีในขณะนั้น และ ตัวเราที่กลัวผีก็ไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง เป็นแต่เพียงคลื่นพลังงาน เป็น wave, vibration ที่เกิดขึ้นมาจากความไม่มี แล้วดับกลับคืนไปสู่ความไม่มี
ดังนั้น การปรุงแต่งว่ามีวิญญาณ (ผีตัวเรา) กับการปรุงแต่งตัวผีอื่นจึงไม่ได้มีตัว มีรูปลักษณ์ที่ต้องการ มีที่อยู่ที่ตั้ง เหมือนกับว่าถ้าให้พาไปชี้ว่าผียืนอยู่ตรงไหนจึงกลัวผี จะสามารถชี้ที่ตั้งของผีได้หรือไม่?
ดังนั้น “ถ้าไม่มีอวิชชา ก็ไม่มีวิญญาณ”
แท้ที่จริงทั้ง อวิชชา วิญญาณ เรา ตัวเรา จิต ใจ หรือ วิญญาณของเราเป็นเพียงคลื่นพลังงานที่ปรุงขึ้นมาจากความไม่มีอะไร แล้วดับกลับคืนไปสู่ความไม่มีอะไร เป็นธรรมชาติที่เกิดเอง ดับเอง แต่เพราะไม่รู้ (อวิชชา) จึงหลงยึดความปรุงว่ามีอยู่จริง
จึงกล่าวได้ว่าความมีวิญญาณ (จิต ใจ) ตัวเรา ของเรา เกิดขึ้นพร้อมอวิชชา
ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ในปฏิจจสมุปบาทว่า เพราะอวิชชาเป็นปัจจัยจึงทำให้เกิดสังขาร เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงทำให้เกิดวิญญาณ .........
เพราะอวิชชาดับ (ไม่มี) สังขารจึงดับ (ไม่มี) เพราะสังขารดับ (ไม่มี) วิญญาณจึงดับ (ไม่มี) เพราะวิญญาณดับ ............
สังขารอย่างอื่นต่อจากนั้นในปฏิจจสมุปบาทก็ดับหมด
หรือ เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เกิด สิ่งนี้จึงเกิด
เพราะสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี เพราะสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ
ขันธ์ห้ามันเป็นสิ่งปรุงแต่งมาจากอวิชชา (ดูในปฏิจจสมุปบาท) มันเป็นวิบากกรรมเก่าที่เกิดมาจากความไม่รู้ (อวิชชา)
ขันธ์มันเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ซึ่งเวทนา เช่น อาการแน่น อึดอัด ทึบ ตื้อ ร้อนผ่าว... มันเป็นทุกขสัจ ต้องรับผลกรรมที่เกิดมามีขันธ์ห้า จะให้มันไม่ทุกข์ไม่ได้ เดี๋ยวมันก็มีอาการเป็นทุกข์ เป็นสุข เป็นกลาง จะห้ามมันไม่ได้ เพราะมันเป็นธรรมชาติที่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
แม้พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์
ก็ต้องรับทุกขเวทนานี้เหมือนกับปุถุชน เวลาธาตุขันธ์จะแตกดับก็ทุกข์ทรมานเหมือนกัน เพียงแต่พระพุทธเจ้า และท่านเหล่านั้น ท่านรู้แจ้งแล้วว่าอะไรเป็นสังขาร อะไรเป็นใจที่ไม่สังขาร (วิสังขาร)
ใจของท่านจึงอยู่กับ “ใจ” ไม่หลง (อวิชชา) เอาใจไปอยู่กับสังขารเวทนา ท่านจึงมีแต่ความทุกข์ทางกาย
แต่ไม่มีความทุกข์ทางใจ
ส่วนปุถุชนจะหลงปรุงแต่งสร้างตัวตน เป็นเรา ตัวเรา ของเรา จึงหลงยึดขันธ์ห้า ยึดสุขเวทนา
เช่น ความรู้สึกว่าง โล่ง โปร่ง เบา สบาย
แล้วรังเกียจทุกขเวทนา เช่น ความรู้สึกหนัก แน่น อึดอัด ทึบ ร้อนผ่าว เป็นต้น จึงทุกข์ทั้งกาย และทุกข์ใจด้วย
พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันต์ จึงนิพพานสองครั้ง คือ
ครั้งแรก - นิพพานในขณะยังมีชีวิตอยู่ (สอุปาทิเสสนิพพาน) เพราะ “พบใจ พบธรรม ถึงใจ ถึงนิพพาน” คือ ใจอยู่กับใจ (วิสังขาร) ไม่อยู่กับสังขาร หรือ ขันธ์ห้า แต่เนื่องจากขันธ์ห้ายังไม่ดับ ใจจึงอยู่กับใจและอยู่ร่วมกับขันธ์ห้า ที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
ครั้งที่สอง - ใจนิพพานแล้ว และขันธ์ห้าแตกดับ (ตาย) ด้วย (อนุปาทิเสสนิพพาน) เหลือแต่ใจ (วิสังขาร) ที่ไม่ปรากฏอะไร จึงสิ้นทุกข์ทั้งทางกายและทางใจ
ถ้าไม่มีอวิชชา คือ หลงยึดว่ามีตัวเรา จิต ใจ หรือ วิญญาณของเรามีตัวตน มีรูปลักษณ์อยู่จริง หรือ สิ้นอวิชชา ก็จะมีแต่ความแน่น อึดอัด ร้อนผ่าวเฉพาะร่างกาย แต่ไม่แน่น อึดอัดที่ใจ
ซึ่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ก็ต้องรับทุกข์ทางกายอย่างนี้เหมือนกัน เราจะหลีกเลี่ยงได้หรือ?
ติดตามธรรมะเพื่อความพ้นทุกข์ในปัจจุบันได้ทาง...
ข่าวสารสื่อธรรมและโอวาทธรรม (สำหรับศิษย์ที่อยู่ประเทศไทย) :
ไลน์โอเพนแชท (Line OpenChat) : ธรรมจากหลวงตาณรงค์ศักดิ์
ข่าวสารสื่อธรรมและโอวาทธรรม (สำหรับศิษย์ที่อยู่ต่างประเทศ) :
WhatsApp Group Chat : ธรรมจากหลวงตาณรงค์ศักดิ์
สอบถามธรรมะและขอรับสื่อธรรม :
Official Line ID : @dhammaluangta
FB : เพจหลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
YouTube : เสียงธรรมะ หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
YouTube (English) : LuangtaNarongsak Kheenalayo
Instagram : @luangta.narongsak
Podcast / Antenna : หลวงตาณรงค์ศักดิ์
Podbean : Luangta Narongsak
Soundcloud : เสียงธรรมะ หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
ฝึกพลังจิตรักษาตน
ตอนนี้โรคไวรัสโควิด-19 ระบาดไปทั่ว ภัยพิบัติก็จะเกิดขึ้น ทั้งที่ผ่านมาแล้ว และก็กำลังจะเกิดขึ้นอีกมากมาย จะอยู่ด้วยความยากลำบากมากขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้น ให้ฝึกอธิษฐานจิตและแผ่เมตตาคุ้มครองตนเอง หากบาปกรรมหนักไม่มาตัดรอน ก็อาจจะแคล้วคลาดปลอดภัยไปได้
พลังลมปราณป้องกันและรักษาโรคภัย (ภาคปฏิบัติ)
ต่อไปนี้เป็นภาคปฏิบัติ ท่านตั้งใจฟังให้ดี เกี่ยวกับพลังลมปราณ (อานาปานสติ)
ให้หายใจออก เอามือช่วยแขม่วท้อง และเอามือกดหน้าท้องให้มันแฟบไปมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แล้วเอาลมออกจมูกออกปากให้หมด ให้ท้องแขม่วให้มากที่สุด แล้วเวลาหายใจเข้าท้องจะพองเองโดยอัตโนมัติ
ให้ทำอย่างนี้ให้ต่อเนื่อง ลองทำดูซิ...
หายใจออกท้องแฟบ หายใจเข้าท้องพอง แต่ไม่ต้องท่อง แค่ให้รู้ว่าหายใจออกท้องแฟบ หายใจเข้าท้องพอง ต่อไปไม่ต้องเอามือกดหน้าท้องแล้ว ทำอย่างนี้ให้ต่อเนื่องหลาย ๆ ครั้ง ฝึกให้ชำนาญ
เวลาหายใจออกให้มีความรู้สึกว่า... ให้ของเสียให้ออกจากร่างกายให้หมด ไม่ว่าจะเชื้อโรคอะไรก็เอาออกจากร่างกายให้หมด
ทำความรู้สึกว่า... เอาของเสียออกจากร่างกายทั้งหมดพร้อมกับลมออก เอาของเสียออกจากจิตใจ คือ ราคะ โทสะ โมหะ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความอาฆาตแค้นพยาบาท ผูกใจเจ็บ ความวิตกกังวล ความเศร้าหมอง ห่วงใย ความรักใคร่ ผูกพันในตอนนี้ ก็เอาออกไปในปัจจุบันขณะนี้
เอาออกไป... ทิ้งออกไป... ทิ้งไปให้หมดสิ้น... เอาออกจากใจให้หมดสิ้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ไม่เอากลับคืนเข้ามา เวลาหายใจเข้าให้มีความรู้สึกว่า ลมหายใจมันเข้าผ่านไปจนถึงหัวกะโหลกศีรษะผ่านไปทั่วตัว
หายใจเข้าก็รู้สึกว่าลมหายใจเข้ามันแผ่ซ่านไปทั่วตัว ผ่านสมอง ผ่านจมูก ผ่านร่างกายไปหมด ไปถึงท้อง
หายใจเข้าท้องพอง เวลาหายใจออกไม่ใช่หายใจออกทิ้งทางจมูกพรวดไปเลย ให้รู้สึกว่าลมหายใจออกมันแผ่ซ่านกระจายไปทั่วตัว
พอท่านทำได้อย่างนี้แล้ว ก็ให้มีความรู้สึกว่าพอหายใจเข้าก็สดชื่น แจ่มใส เบิกบาน เอาออกซิเจนเข้าไปเต็ม ๆ ผ่านไปยังสมอง ระบบสมอง ระบบประสาททั่วร่างกาย ให้มันอิ่มเอิบซาบซ่าน
หายใจเข้าให้มันผ่านรูจมูก ผ่านระบบสมอง ผ่านไปทั่วตัวไปค้างไว้ที่ท้อง ให้ท้องมันพอง ไปเต็มปอด เต็มร่างกาย แล้วก็หายใจออกให้ท้องมันแฟบ อย่าหายใจทิ้งทางจมูกอย่างเดียว ให้มันกระจายไปทั่วตัวช้า ๆ
สื่อธรรมและโอวาทธรรมที่เกี่ยวข้อง
วีดีโอสื่อธรรมถึงใจ
อุบายทวนหาตัวเราผู้รู้
https://www.youtube.com/watch?v=aYfA-lT982A
อุบายเห็นจิตคิดปรุงแต่ง (การ์ตูน)
https://www.youtube.com/watch?v=aD1VZXoyHnQ
วีดีโอหลวงตาแสดงธรรมและตอบปัญหา เรื่อง พบผู้รู้ ปล่อยวางผู้รู้ ณ สถานธรรมบางบอน วันที่ 5 พ.ค. 2562 (ทั้งหมด 7 ตอน)
ตอนที่ 1 ตอน ไม่พบผู้รู้ พ้นทุกข์ไม่ได้
https://www.youtube.com/watch?v=KD97KHHfFVY
ตอนที่ 2 ตอน พบผู้รู้กันหรือยัง?
https://www.youtube.com/watch?v=35Q-JYtxNMw
ตอนที่ 3 ตอน ผู้รู้ที่ปรุงแต่ง หรือ ผู้รู้ที่ไม่ปรุงแต่ง
https://www.youtube.com/watch?v=ATRLtkYmwPg
ตอนที่ 4 ตอน ปล่อยหมด
https://www.youtube.com/watch?v=dHvj9-M5BAQ
ตอนที่ 5 ตอน พบผู้รู้ ปล่อยวางผู้รู้
https://www.youtube.com/watch?v=uuV6lUHC8h8
ตอนที่ 6 ตอน สังเกตต่อมผู้รู้
https://www.youtube.com/watch?v=5Azm1s9xl70
ตอนที่ 7 ตอน บทสรุป
https://www.youtube.com/watch?v=cAbsIZS8kzY
ความลับของสังสารวัฏฏ์
ระหว่างอธิษฐานจิตอย่าให้ลมหายใจรั่วเป็นอันขาด เค้าเรียกว่า 1 คาบ ตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว เวลาจะอธิษฐานจิตหรือสวดคาถาสั้น ๆ (บทอธิษฐานจิตปรับธาตุขันธ์) ให้สวดตอนกลั้นลมหายใจ อย่าให้ลมหายใจรั่ว กักไว้แล้วอธิษฐานจิตว่า...
“พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ รวมกับบุญบารมีที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้วทุกภพทุกชาติ ขอให้ธาตุทุกธาตุ ขันธ์ทุกขันธ์ สสาร พลังงาน ความว่าง
ธาตุรู้ ภูมิคุ้มกัน พลังจิตที่บริสุทธิ์ พลังธรรมชาติที่บริสุทธิ์ จงสมดุลเป็นปกติธรรมชาติ โดยอัตโนมัติตลอดเวลาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปด้วยเทอญ”
อธิษฐานปรับธาตุขันธ์เสียก่อน ทำทุกวัน อันนี้ดีมากนะ แล้วก็ใช้ร่วมกับบทสวดสั้น ๆ (บทสวดมนต์ปรับธาตุขันธ์) ต่อไปก็กลั้นลมหายใจ เมื่อกลั้นลมหายใจได้แล้วก็ท่องว่า...
“พุทโธพระอะระหัง พุทธังรักษา ธัมโมพระอะระหัง ธัมมังรักษา สังโฆพระอะระหัง สังฆังรักษา ทุกข์ โศก โรค ภัย เสนียดจัญไร เชื้อโรคร้าย สารพิษร้าย เซลล์เนื้อร้าย... ใด ๆ มีมา อนัตตาสูญเปล่า นะสูญ โมสูญ พุทสูญ ธาสูญ ยะสูญ สูญหายไปด้วย นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ สัมปะจิตโต ปัจฉามิ”
แล้วก็กลืนลม กลืนน้ำลายลงท้อง ก่อนที่จะหายใจออก
กลืนลม กลืนน้ำลายลงท้อง แล้วก็มีความรู้สึกว่า ลมหายใจมันกระจายออกไปทั่วทุกรูขุมขน ทุกรูเส้นผม มันไม่ได้ปล่อยพรวดออกทางจมูกนะ
กลืนลม กลืนอากาศลงท้อง แล้วให้มีความรู้สึกว่าลมหายใจมันกระจายออกไปทั่วตัว ออกไปปลายมือปลายเท้า ปลายศีรษะ ออกไปทั่วทุกรูขุมขน พอเรากลืนลม กลืนอากาศลงไป มันจะมีความรู้สึกว่าลมหายใจมันหมดลงไปเลย แทบจะไม่เหลือออกทางจมูก ให้ฝึกอย่างนี้นะ จำได้มั้ย...!
ฝึกแบบนี้ให้ชำนาญ ตอนที่เราฝึกกลั้นลมหายใจไว้ใหม่ ๆ ถ้ากลั้นได้แล้วลองเอาหน้าไปจุ่มน้ำดูว่ามีลมรั่วมั้ย ถ้าลมไม่รั่วก็แสดงว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว เราก็อธิษฐานจิตหรือสวดคำอธิษฐานสั้น ๆ
โยม : ไม่ได้เจ้าค่ะองค์หลวงตา
หลวงตา : “ยถาภูตญาณทัสสนะ” ยอมรับตามความเป็นจริงซึ่งมีผลมาจากกรรมเก่า (วิบาก) นี้ด้วยใจ นี่แหละเป็นประตูก้าวข้ามโลกไปสู่นิพพาน
ซึ่งผู้บรรลุนิพพาน (ถึงใจบริสุทธิ์) ก็ต้องผ่านประตูนี้ทุกท่าน ไม่มียกเว้น...
เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากสนทนากับคณะศิษย์
วันที่ 11 พฤษภาคม 2563
ตอนที่สวดต้องกลั้นลมหายใจไว้ให้อยู่นะ ถ้าเราสวดเร็ว ๆ มันจะได้ 3 จบต่อ 1 กลั้นลมหายใจ เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา แต่ถ้าเราสวดช้าก็จะได้ 1 จบ ต่อ 1 กลั้นลมหายใจ เราก็ทำหลาย ๆ รอบ 1 จบต่อ 1 กลั้นลมหายใจ พอเราสวดบ่อย ๆ มันก็จะได้ 3 จบ
“พุทโธพระอะระหัง พุทธังรักษา ธัมโมพระอะระหัง ธัมมังรักษา สังโฆพระอะระหัง สังฆังรักษา ทุกข์ โศก โรค ภัย เสนียดจัญไร เชื้อโรคร้าย สารพิษร้าย เซลล์เนื้อร้าย... ใด ๆ มีมา อนัตตาสูญเปล่า นะสูญ โมสูญ พุทสูญ ธาสูญ ยะสูญ สูญหายไปด้วย นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ สัมปะจิตโต ปัจฉามิ”
แล้วก็กลืนลม กลืนอากาศ กลืนน้ำลายลงท้อง แล้วก็กลั้นลมกระจายลมออกไปให้ทั่วตัว อย่าให้มันไหลปล่อยออกไปทางจมูกพรวดเดียว มันเสียของ... ให้กระจายมันไปให้ทั่วตัวทุกรูขุมขน เบ่งออกไปกระจายไปทั่วตัวทุกรูขุมขน
และพอกลืนน้ำลาย กลืนอากาศลงท้อง แล้วมีความรู้สึกว่าลมหายใจมันก็หมด แทบจะไม่มีไหลออกทางจมูกเลย ฝึกหัดนะ ฝึกหัดให้ชำนาญแล้วนำไปอธิษฐานใช้ จะคุ้มครองได้ทุกอย่างนั่นแหละ แพ้อย่างเดียวเมื่อมีบาปกรรมหนักมาตัดรอน คือ บาปกรรมเก่าที่เราทำไว้เยอะ มันก็มาตัดรอน แต่ถ้าเราแผ่เมตตาให้บ่อย ๆ ก็บรรเทาไปได้
มันต้องฝึกฝนจิตใจนะ ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ ,
ข้อหนึ่ง ให้ละบาปอกุศล ละบาปกรรมชั่ว
ข้อสอง ทำกุศลให้ถึงพร้อมทางกายวาจาใจ
ข้อสาม ฝึกฝนจิตใจของตนเอง เพียรฝึกฝนจิตใจของตนเองให้ปราศจากกิเลสเครื่องเศร้าหมอง อย่าให้มันเศร้าหมอง อย่าให้เบื่อเซ็งกลุ้ม ท้อแท้หดหู่ สิ้นหวัง ฝึกฝนนะ...
ธรรม 3 ข้อนี้เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่สอนตรงกันนะ
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากวีดีโอ “ฝึกพลังจิตรักษาตน”
(เป็นวีดีโอสื่อการสอนที่ไม่ได้ใช้เปิดเป็นสาธารณะทั่วไป)
ฟังไฟล์เสียงและวีดีโอเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องอานาปานสติและพลังลมปราณ ดังนี้
200222A-1 ทางปฏิบัติเพื่อห่างไกลจากโรคภัย (วีดีโอหลวงตาแสดงธรรม)
200208A-2 อานาปานสติ (สมถะ-วิปัสสนา) (วีดีโอหลวงตาแสดงธรรม)
อ่านประชาสัมพันธ์สื่อธรรมชุด “ทางปฏิบัติเพื่อห่างไกลจากโรคภัย”
http://www.luangtanarongsak.org/.../5089-03-mar23-63-dama...
อ่านโอวาทธรรม “ว่าด้วยเรื่องโรค Covid-19 (ไวรัสโคโรนา) : บทอธิษฐานจิตและบทสวดมนต์ปรับธาตุขันธ์ (ปรับปรุง 3 เม.ย.63)”
http://www.luangtanarongsak.org/.../5147-04-apr04-63-ot...
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ติดตามธรรมะเพื่อความพ้นทุกข์ในปัจจุบันได้ทาง...
ข่าวสารสื่อธรรมและโอวาทธรรม (สำหรับศิษย์ที่อยู่ประเทศไทย) :
ไลน์โอเพนแชท (Line OpenChat) : ธรรมจากหลวงตาณรงค์ศักดิ์
ข่าวสารสื่อธรรมและโอวาทธรรม (สำหรับศิษย์ที่อยู่ต่างประเทศ) :
WhatsApp Group Chat : ธรรมจากหลวงตาณรงค์ศักดิ์
สอบถามธรรมะและขอรับสื่อธรรม :
Official Line ID : @dhammaluangta
FB : เพจหลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
YouTube : เสียงธรรมะ หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
YouTube (English) : Luangta Narongsak Kheenalayo
Instagram : @luangta.narongsak
Podcast / Antenna : หลวงตาณรงค์ศักดิ์
Podbean : Luangta Narongsak
Soundcloud : เสียงธรรมะ หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย