๐ หนทางทั้งสามแห่งการถือเอาความป่วยไข้เป็นมรรคา
“มีหนทางอย่างสูง อย่างกลาง และอย่างต่ำ ในการถือเอาความป่วยไข้เป็นมรรคา หนทางอย่างสูงก็คือการผ่อนพักจิตของเธอในธรรมชาติของความเจ็บปวดสาหัสนั้น โดยปราศจากการกระทำการแปรเปลี่ยนใดๆเลย เมื่อนั้นธรรมชาติแห่งความป่วยไข้ ซึ่งก็คือความว่างอันเป็นอิสระจากการแต่งเติมก็จะปรากฏ
หนทางอย่างกลางก็คือการนำเอาความป่วยไข้และผลแห่งความป่วยไข้ทั้งหมดของสรรพสัตว์ทั้งปวง มารวมอยู่ในความเจ็บปวดสาหัสของเธอ และถือเอาความเจ็บปวดนั้นเป็นดั่งมรรคาแห่งการภาวนา ความเจ็บปวดและเหตุทางอารมณ์ของมันก็จะสิ้นสุดลง ด้วยว่าความเจ็บปวดนั้นกลับกลายเป็นสิ่งเกื้อหนุนเพื่อกุศลกรรม
หนทางอย่างต่ำก็คือการระลึกว่าความเจ็บป่วยนั้นเป็นหนี้กรรมในอดีต อย่าได้เยียวยามันหรือเปลี่ยนมันให้กลายเป็นสิ่งอันขัดเคืองใจ ในทางตรงกันข้ามจงเห็นมันเป็นการบังเกิดขึ้นด้วยความกรุณาของพระรัตนตรัยอันประเสริฐ เมื่อนั้นผลหรือหนี้แห่งอกุศลกรรมในอดีตอันเป็นเหตุแห่งความเจ็บป่วยก็จะถูกชำระล้าง”
/พระอาจารย์โดดรุปเฉน จิกเม เตนเป ญิมา (พ.ศ.๒๔๐๘-๒๔๖๙) แห่งพุทธศาสนาวัชรยานในทิเบต
(ที่มาภาพ : Shechen Archives)
🌀🌡️ การฝึกรักษาตัวเอง 🌡️🌀
ไวรัส covid-19 ได้รับการแพร่กระจายไปทั่วโลก ภัยพิบัติมากมายเกิดขึ้นในอดีตและอาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ คนเราจะใช้ชีวิตให้หนักกว่าเดิม ดังนั้นเราควรฝึกสวดมนต์และแผ่เมตตาให้กับตัวเอง ถ้าเราไม่เผชิญกับกรรมหนักจากการกระทำที่ไม่ดีเราก็จะอยู่รอดปลอดภัย
🌀 การรักษาพลังงาน prana (ส่วนปฏิบัติ)
นี่คือส่วนที่ปฏิบัติ โปรดฟังให้ดี พลังงาน prana; การมีสติของการหายใจ (การฝึก anapanasati)
ใช้มือกดที่ท้องเพื่อช่วยทำสัญญากับกระเพาะอาหารด้วยกันกับการหายใจออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ต่อไปหายใจออกทุกอากาศในจมูกและปากของคุณ ต่อไปทำสัญญากับกระเพาะด้วยการหายใจออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในที่สุดก็ช่วยให้กระเพาะอาหารขยายได้โดยอัตโนมัติด้วยการสูดดมของคุณ
ฝึกแบบนี้อย่างต่อเนื่อง จัดปายยยยยยยยย
หายใจออก; กระเพาะอาหารจะแบน
สูดดม; ท้องพองโต
แต่คุณไม่จำเป็นต้องอธิษฐานอะไรเลย คุณเพิ่งรู้ว่าการหายใจออก; กระเพาะอาหารก็ยุบและสูดดมท้องพองโต แล้วเมื่อคุณเข้าใจมันคุณไม่จำเป็นต้องกดมือของคุณบนท้อง
ฝึกแบบนี้อย่างต่อเนื่องจนกว่าคุณจะมีฝีมือ เมื่อหายใจออกคุณรู้สึกเหมือนของเสียทั้งหมดถูกนำออกจากร่างกายของคุณ ไม่ว่าจะเชื้อโรคหรือโรคชนิดไหนก็เอาออกจากร่างกายหมด
อนุญาตให้สิ่งสกปรกทั้งหมดออกจากร่างกายของคุณตลอดการหายใจออกของคุณในขณะนี้ในขณะนี้ สิ่งสกปรกคือสิ่งที่แนบมา (raga) ความเกลียดชัง (dosa) ความไม่รู้ (moha) ความโลภความโกรธความหลงผิดความเกลียดชังความกังวลโรคซึมเศร้าความวิตกกังวลและความรัก
เอาออกถอดออกถอดออกเอาไปให้หมด เอาสิ่งทั้งหมดออกจากความคิดของคุณไป ไม่กลับมาอีกแล้ว เมื่อคุณหายใจเข้ารู้สึกเหมือนอากาศที่หายใจผ่านกะโหลกและทั้งตัวของคุณ
เมื่อคุณหายใจเข้ารู้สึกเหมือนอากาศที่หายใจทะลุผ่านทั้งตัวสมองจมูกและกระเพาะอาหาร
เมื่อคุณหายใจเข้าท้องของคุณก็พอง และเมื่อคุณหายใจออกอย่าปล่อยให้อากาศรั่วซึมผ่านจมูกของคุณในครั้งเดียว แต่ปล่อยให้อากาศทะลุไปทั่วร่างกายของคุณ
หลังจากคุณสามารถทำเช่นนี้ได้คุณรู้สึกได้ว่าการสูดดมของคุณทำให้คุณมีความสดใส จากนั้นสูดออกซิเจนที่ผ่านสมองระบบสมองและระบบประสาททั่วร่างกายทำให้คุณเรืองแสงด้วยความสุขและความสดชื่น
การสูดดมสามารถผ่านจมูกระบบสมองร่างกายและจากนั้นก็อยู่ที่ท้องของคุณ ช่วยให้กระเพาะอาหารของคุณพองเต็มปอดและร่างกาย จากนั้นก็หายใจออกจนกระเพาะอาหาร อย่าปล่อยให้อากาศทั้งหมดรั่วผ่านจมูกของคุณเท่านั้น แต่ช่วยให้อากาศเจาะไปทั่วร่างกายของคุณค่อยๆ
‼️ k̄hṇa สวดมนต์อย่าปล่อยให้อากาศรั่วออกมาแน่นอน สิ่งนี้เรียกว่าหนึ่งเซสชัน เป็นเวลานานมาแล้วในขณะที่สวดมนต์ภาวนาสั้นๆ (โองการของความทะเยอทะยานและปรับสมดุลองค์ประกอบ) กลั้นลมหายใจของคุณและหลีกเลี่ยงอากาศที่รั่วออกมาและสวดมนต์ในสิ่งนั้น..
💡 " buddhanubhaven dhammanubhavena sanghanubhavena **, และความดีใดๆที่ฉันได้แสดงมานับครั้งไม่ถ้วนขอให้องค์ประกอบหลักและมีสิทธิเลือกตั้งรัฐของเรื่องพลังงาน, รัฐแห่งความว่างเปล่าคณะรู้ภูมิคุ้มกันที่ใช้งานอยู่ความบริสุทธิ์ ของจิตใจและความบริสุทธิ์ของปรากฏการณ์มีความมั่นคงอย่างเป็นธรรมชาติและอยู่ในความสมดุลตั้งแต่ช่วงเวลานี้เป็นต้นไป."
✨ การสวดมนต์นี้ยอดเยี่ยมมาก ทุกวันที่คุณร้องเพลงครั้งแรกและปรับสมดุลของร่างกาย คุณยังสามารถใช้ด้วยการสวดมนต์สั้นๆ (การสวดมนต์ & ปรับสมดุลขององค์ประกอบ) เมื่อคุณสามารถกลั้นหายใจของคุณได้แล้ว จากนั้นคุณก็ร้องเพลงด้านล่าง...
\ ไม่สามารถแปลได้ \ plao, na soon, mo soon, pot soon, tah soon, เร็วๆนี้, เร็วๆนี้ hi bpy duay, namo buddhaya, yatah pootmona, จนถึง pacitto, pa
ต่อไปคุณกลืนอากาศและน้ำลายก่อนที่คุณจะหายใจออก
คุณจะรู้สึกถึงอากาศที่หายใจซึมทั่วและแช่ทุกรูขุมขนผม อย่าปล่อยให้อากาศผ่านจมูกของคุณในครั้งเดียว
กลืนอากาศลงไปในกระเพาะอาหารและรู้สึกเหมือนอากาศที่หายใจแพร่กระจายไปยังร่างกายของคุณทั้งนิ้วและเคล็ดลับเท้าศีรษะและทุกรูขุมขนผิว เมื่อคุณกลืนอากาศลงมันจะรู้สึกเหมือนแทบไม่มีอากาศที่ออกจากจมูกของคุณ ฝึกแบบนี้ จำได้ไหม?
ฝึกไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้เป็นฝีมือ เมื่อคุณมีทักษะในการกลั้นลมหายใจให้ลองเอาหน้าลงในน้ำและสังเกตว่ามีอากาศรั่วออกมาหรือไม่ ถ้าไม่มีอากาศรั่วนั่นหมายความว่าคุณได้ประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว จากนั้นคุณก็สวดมนต์ภาวนาสั้นๆ
✳️ หากคุณอธิษฐานอย่างรวดเร็วคุณสามารถเข้าถึงสามรอบต่อหนึ่งลมหายใจ ทำให้แน่ใจว่าคุณกลั้นลมหายใจของคุณอย่างสมบูรณ์แบบ การสวดมนต์สามรอบหมายถึงการบูชาพระพุทธศาสนาธรรมและพระสงฆ์ แต่ถ้าสวดมนต์ช้าก็จะจบหนึ่งรอบต่อหนึ่งกลั้นลมหายใจ แต่ถ้าฝึกไปเรื่อยๆสุดท้ายก็ถึงสามรอบ
\ ไม่สามารถแปลได้ \ plao, na soon, mo soon, pot soon, tah soon, เร็วๆนี้, เร็วๆนี้ hi bpy duay, namo buddhaya, yatah pootmona, จนถึง pacitto, pa
จากนั้นคุณก็กลืนน้ำลาย snd ในท้องของคุณ จากนั้นกลั้นลมหายใจของคุณปล่อยให้อากาศกระจายไปทั่วร่างกาย เพื่อไม่ให้เสียอากาศอย่าปล่อยให้อากาศออกมาทางจมูกของคุณเพียงครั้งเดียว ให้มันกระจายไปทั่วทั้งตัวทุกรูขุมขนผิว
หลังจากกลืนน้ำลายแล้วคุณก็กลืนอากาศลงในกระเพาะ คุณจะรู้สึกเหมือนคุณแทบไม่มีอากาศที่หายใจออกและแทบไม่มีอากาศหายใจออกจากจมูกของคุณ ซ้อม! ฝึกต่อไปจนกว่าคุณจะมีฝีมือและใช้มันเพื่ออธิษฐานเพื่อปกป้องตัวเองจากทุกสิ่ง วิธีนี้จะล้มเหลวเฉพาะการตัดขาดจากกรรมหนักของคุณเองหรือการกระทำที่แย่ๆของคุณ แต่ถ้าคุณแบ่งปันความเมตตาที่น่ารักบ่อยๆมันก็จะคลายได้
✨ คุณต้องฝึกจิตของคุณ.! เกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าตรัสไว้ว่า
✔️ อย่างแรกที่เรียกบาปทั้งหมด
✔️ ประการที่สองทำบุญทางกายวาจาและจิตใจพร้อมแล้ว
✔️ สามฝึกจิตให้ปราศจากความเศร้าโศก อย่าปล่อยให้มันเศร้าเบื่อหน่ายหดหู่และผิดหวัง ซ้อม!!
การปฏิบัติธรรมทั้งสามประการนี้คือพระผู้เป็นเจ้าแห่งคำสอนของพระพุทธเจ้า พระผู้เป็นเจ้าแห่งพระพุทธรูปทั้งหมดยังสอนสิ่งเดียวกัน
💡 หมายเหตุ: ** buddhanubhaven dhammanubhavena sanghanubhavena หมายถึงด้วยอำนาจของพระพุทธศาสนาธรรมและพระสงฆ์ "
แม่งเอ๊ยยยยยยย
ธรรมคำสอน "การปฏิบัติ ที่ รักษา ตนเอง"
📖 ดูด้วยการสอนธรรมเกี่ยวกับ covid-19
"apropos covid-19 ( coronavirus ): โอ งก า ร แห่ง ความ ทะเยอทะยาน และ ปรับ สมดุล องค์ประกอบ ที่ แก้ไข วันที่ 3 เมษายน 2020"
~~~~~~~~~~~~~~~
🌡ทางปฏิบัติเพื่อห่างไกลจากโรคภัย🌡
🌬 ตอนที่ 4/5 ศรัทธาและกุศลผลบุญบารมี
มันอยู่ที่ “ความศรัทธา” นะ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา
พละ 5 อินทรีย์ 5 ศรัทธาพละ วิริยะพละ สติพละ สมาธิพละ ปัญญาพละ เนี่ยพละ 5 อินทรีย์ 5
พละอันยิ่งใหญ่ทั้งหมดเนี่ย มารวมลงที่ศรัทธา
"พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ"
แต่อย่าลืมบวกบุญกุศลผลบุญบารมีคุณงามความดีที่เราได้ทำมาแล้วทั้งหมดนะ ไม่ว่าจะอธิษฐานจิตอะไร ต้องอย่าลืมบวกบุญกุศลผลบุญบารมีคุณงามความดีของเราบวกเข้าไป ถ้าเราไม่มีบุญกุศลผลบุญบารมีคุณงามความดีเนี่ย เราอาศัยยืมมือแต่คนอื่นมันได้ผลน้อย ถ้าเราบวกเรามีคุณงามความดี ได้ละบาปได้บำเพ็ญบุญกุศล แล้วก็ฝึกฝนจิตใจให้ปราศจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองอยู่เสมอ ฝึกให้มีสติสัมปชัญญะอยู่เสมอ อันนี้จิตมันก็จะมีกำลังมีอานุภาพมาก ในคุณงามความดีที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนไว้
1. สพฺพปาปสฺส อกรณํ ละบาปกรรมชั่วทั้งปวง
2. กุสลสฺสูปสมฺปทา ทำกุศลให้ถึงพร้อมทางกายวาจาใจ
3. สจิตฺตปริโยทปนํ การชำระจิตของตนให้สะอาดบริสุทธิ์จากกิเลสเครื่องเศร้าหมอง
เอตํ พุทฺธาน สาสนํ ธรรมสามข้อนี้ คือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
ถ้าเราได้ทำความดีอย่างนี้อยู่ตลอดเวลา เราก็เอามาอธิษฐานรวมกับ พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ และบุญกุศลผลบุญบารมีคุณงามความดีที่เราได้ทำมาแล้วทั้งหมด ในอดีต ในปัจจุบัน และอนาคต รวมลงเดี๋ยวนี้เลย
ขอให้เกิดเป็นพลานุภาพ เป็นอิทธานุภาพ แล้วก็อธิษฐาน แม้แต่ภัยพิบัติจะเกิดด้วยเชื้อโรคร้าย ภัยพิบัติภายใน ร่างกายจะแตก ธาตุขันธ์จะแตก หรือว่าภัยพิบัติในโลกนี้ ดิน น้ำ ลม ไฟ ภัยพิบัติที่เกิดจากในโลกนี้ทั้งหมด ไม่ว่าภัยพิบัติด้านใด เราก็เอามาใช้อธิษฐานได้ เราจะแพ้แต่เฉพาะบาปกรรมหนักมาตัดรอน ทั้งหมดเนี่ยแพ้กรรมอย่างเดียว
เพราะฉะนั้น ต้องละบาปกรรมชั่วทำแต่กรรมดีนะ แล้วก็เอามาอธิษฐานฝึกเอา เข้าใจหรือยัง?
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
🌡ทางปฏิบัติเพื่อห่างไกลจากโรคภัย🌡
🌬 ตอนที่ 5/5 เกร็ดความรู้ "เรื่องการอธิษฐานจิต"
พออธิษฐานเสร็จแล้วค่อยปล่อยลมออก คือไม่ว่าจะอธิษฐานบทไหนหรือสวดบทไหน พอจบแล้วอย่าเพิ่งปล่อยลมรั่วออกนะ ให้กลืนน้ำลาย กลืนลม กลืนธาตุไฟ ลงท้องไปก่อน ให้มันไปช่วยในร่างกายเรา
เป็นความรู้สึกว่าลมเนี่ยมันจะร้อนผ่าวไป มันจะร้อนอบอุ่นไป ทั้งลมทั้งความร้อนธาตุไฟเนี่ย มันกระจายไปทั่วตัวเลย เราสร้างความรู้สึกไปตามลมเลย ใช้ลมกับความรู้สึกคือไปด้วยกัน ใช้ความรู้สึกบังคับลม ให้ลมเนี่ยเหมือนกับว่ากระจายไปทั่วตัว มันก็จะเป็นเหมือนพลังลม แล้วก็พลังงานแห่งความร้อน ธาตุไฟมันก็จะกระจายไปทั่วตัว หน้ามันก็จะมีเลือด ผิวพรรณมันก็จะแดงหน้า แดงคอ แดงฝ่ามือนี่ แดงเลย
คนที่เป็นโรคภูมิแพ้มันจะซีดนะเกล็ดเลือดต่ำ พวกนี้พวกเกล็ดเลือดต่ำ ต้องฝึกแบบนี้นะ แล้วจะหายง่ายหายในเวลาอันรวดเร็ว พวกที่เกล็ดเลือดต่ำเกล็ดเลือดขาวต่ำ พอเกล็ดเลือดขาวต่ำเนี่ยเวลาเป็นเชื้อโรค หรือพวกโรค COVID-19เข้าเนี่ย โอ้โห...อันตรายมากเลย เพราะว่าเม็ดเลือดขาวมันสู้ไม่ไหว เพราะว่าเกล็ดเลือดต่ำอยู่แล้ว
เกล็ดเลือดต่ำส่วนใหญ่มันมาจากคนแช่ มันแช่มาข้ามภพข้ามชาติแช่อารมณ์ แช่อยู่ในอารมณ์เดียว แช่อยู่อารมณ์โปร่งโล่งเบาสบาย มันเกิดมาแช่แต่เด็กเลยพวกนี้ มันข้ามภพข้ามชาติมา พวกนี้จะเกล็ดเลือดต่ำ เป็นโรคเกล็ดเลือดต่ำเป็นโรคภูมิแพ้ แล้วจนถึงภูมิคุ้มกันบกพร่องทำร้ายตนเอง
แต่หมอเขาบอกว่าภูมิคุ้มกันบกพร่องทำร้ายตนเอง มันเกิดมาจากสาเหตุอื่นด้วย ภูมิแพ้ก็เกิดจากสาเหตุอื่นด้วย แต่เท่าที่หลวงตาสังเกตเห็นเนี่ย คนที่เป็นโรคภูมิแพ้เนี่ยแช่หมดเลย หลวงตาสังเกตเห็นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ แช่หมด คนที่เป็นโรคภูมิแพ้ แช่อารมณ์เดียว แช่อารมณ์สบาย พวกนี้เกล็ดเลือดมันจะต่ำ แล้วร่างกายอ่อนแอ จะเป็นคนที่ซีดแล้วร่างกายอ่อนแอ
แล้วพวกเนี้ยภูมิคุ้มกันค่อย ๆ บกพร่อง เวลาเชื้อโรคเข้าโจมตี แย่... สุขภาพแย่เลย จึงต้องฝึกพลังลมปราณให้เหมือนกับอธิษฐานจิต ให้เลือดลมมันเดินทั่วร่างกาย เลือดลมแล้วก็พลังความร้อนเนี่ยมันจะซ่าน... หน้าตาจะร้อนคอเคอ ปลายมือปลายเท้า ตัวเนี่ยร้อนแดงเลย เวลาอากาศหนาว ๆ อยู่ในที่หนาว ๆ เย็น ๆ เราก็ใช้ตัวนี้ได้ เมื่อเครื่องกันหนาวมันไม่พอ พลังความร้อนจะช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น
เวลาหลวงตาไปอยู่ในประเทศหนาว ๆ เวลาอากาศหนาว ๆ หรือเครื่องกันหนาวไม่พอ เวลาบางทีออกมานี่มันบาง ๆ อังสะจีวรบาง ๆ ชั้นเดียวอย่างเนี้ย บางทีไม่ได้มีเครื่องกันหนาว ก็อยู่ได้ด้วยธาตุไฟ อานาปานสติและธาตุไฟนี่เอง มันก็จะอบอุ่นไปทั่วตัวให้ความร้อนไปทั่วตัว
ถ้าเราไม่กล้าเป่าใส่เขากลัวเขาจะกลัวโรค COVID-19 อะไรเนี่ย เราก็ใช้ฝ่ามือก็ได้ ปล่อยออกทางฝ่ามือ แต่เราต้องฝึกเก่งนะ คือเราปล่อยออกทางฝ่ามือเลย ใจกลางฝ่ามือเนี่ย ปล่อยไปมันก็เหมือนกับหนังกำลังภายในน่ะ หนังกำลังภายในเขาก็ปล่อยออกทางฝ่ามือ หรือออกทางปลายนิ้วก็ได้ก็ปล่อยถ่ายเรียกว่าถ่ายใส่ให้ก็ได้ โดยไม่ต้องใช้คำพูดเลย โดยใช้ปล่อยออกไปปล่อยออกไปทางฝ่ามือ
อันนี้เราต้องฝึกนะฝึก ใช้สติ สมาธิ ปัญญา ใช้ฝึกใช้อำนาจจิต สมาธิ อำนาจสมาธิเป็นหนึ่งเดียวกับลมเคลื่อนไหว เคลื่อนไหวลม มันเป็นพลังด้วย ลมก็เป็นพลังออกไปทางฝ่ามือต้องฝึกให้มันออกไปทางเดียว
ตอนอธิษฐานจิต เรานึกอธิษฐาน พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ นึกถึงอำนาจและอานุภาพอันไม่มีที่สุดไม่มีประมาณจากจิตที่บริสุทธิ์ จากพลังจิตที่บริสุทธิ์ จากพลังธรรมชาติที่บริสุทธิ์
พลังธรรมชาติที่บริสุทธิ์เนี่ยมันรวมหมดเลยนะ พลังดิน น้ำ ลม ไฟ พลังพระอาทิตย์ พลังประจุไฟฟ้า พลังแม่เหล็ก พลังคอสมิกอะไรเนี่ย คือในธรรมชาติจักรวาลเนี่ยมันใช้ไม่หมดหรอก แค่พลังงานพระอาทิตย์ เอาแผงโซล่าเซลล์ไปรับเนี่ยก็ใช้ไม่หมดแล้ว
แต่อันนี้มันมากมายมหาศาล พลังนี้มันจะมากมายมหาศาล เวลามันลงมามันก็ลงมา 7 สีเลย เป็นสีรุ้ง 7 สี เราก็อธิษฐานรวมกับพุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ "ด้วยอำนาจพุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภเวนะ สังฆานุภาเวนะ" จากพลังจิตที่บริสุทธิ์พลังธรรมชาติที่บริสุทธิ์ แล้วก็บวกกับกุศลผลบุญบารมีคุณงามความดีที่ข้าพเจ้าได้กระทำมาแล้วทั้งหมด ต้องรวมด้วยนะแล้วก็อธิษฐานเลย
เวลาใช้อย่าใช้ของเราคนเดียวต้องใช้รวม เพราะว่าพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์สาวก ตอนมีชีวิตอยู่พระองค์จะแผ่เมตตาเป็นอัปปมัญญาไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง อยู่ในธรรมชาติในอนันตจักรวาลมากมายมหาศาลเนี่ย พระพุทธเจ้ามีมาแล้วกี่พระองค์ โอ้โห.....มากมายดุจเม็ดทรายในท้องทะเล
เพราะฉะนั้นพลังที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์แผ่เมตตาไว้ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยสงฆ์แผ่เมตตาไว้เป็นอัปปมัญญาอยู่ในธรรมชาติในจักรวาลเนี่ย มหาศาลเลย เราเอามาใช้รวมกับพลังจิตที่บริสุทธิ์ และพลังธรรมชาติที่บริสุทธิ์ คือพลัง ดิน น้ำ ลม ไฟ พลังพระอาทิตย์พลังคอสมิกอะไรต่าง ๆ แล้วก็พลังแม่เหล็กพลังประจุไฟฟ้า เราให้อธิษฐานใช้ เอามาใช้เฉพาะที่บริสุทธิ์นะเพราะว่าในธรรมชาติในจักรวาลพลังชั่วร้ายก็มี
เวลาที่อธิษฐานต้องใช้อธิษฐานเฉพาะพลังจิตที่บริสุทธิ์ และพลังธรรมชาติที่บริสุทธิ์ หรือพลังจิตที่บริสุทธิ์รวมกับพลังธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ในธรรมชาติในจักรวาล จากพระเมตตาอันไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ จากพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ
พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ พุทธบารมี ธรรมบารมี สังฆะบารมี และบุญกุศลผลบุญบารมีคุณงามความดีที่ข้าพเจ้าได้กระทำมาแล้วทั้งหมดทุกภพทุกชาติ จงมารวมกันเป็นตบะ เดชะ พละ ปัจจัย แล้วก็อธิษฐานเลย
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
วิธีนั่งสมาธิเพื่อรักษาโรคภายในภายนอก
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา
ก่อนอื่นหลังจากที่เราไหว้พระสวดมนต์เสร็จแล้ว ให้อธิษฐานจิตว่า
“ขอบารมีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จงดลบันดาลให้โรคภัยไข้เจ็บของข้าพเจ้าหายไป ณ บัดนี้”
แล้วก็มานึกในใจ พุทโธ ธัมโม สังโฆ พุทโธ ธัมโม สังโฆ แล้วก็นึกว่าพระพุทธเจ้าอยู่ที่จิตของเรา พระธรรมอยู่ที่จิตของเรา พระสงฆ์อยู่ที่จิตของเรา เราจะสำรวมเอาจิตอย่างเดียว
แล้วก็นั่งขัดสมาธิ ตั้งกายให้ตรง ตั้งสติให้ดี สูดลมหายใจช้าๆ เบาๆ สัก ๔ – ๕ ครั้ง สูดเข้า-ปล่อยออก นับเป็น ๑ ครั้ง พอทำถึง ๕ ครั้งแล้ว ก็นั่งทำใจให้เฉยๆ อย่าไปตั้งใจคิดอะไร กำหนดสติรู้ใจของเราอยู่เฉยๆ
ในช่วงนั้น ลมหายใจจะปรากฏในความรู้สึกของเรา ก็ดูลมหายใจเรื่อยไป อันนี้ถ้าเราทำได้ จิตสงบ จะมองเห็นลมหายใจขาว วิ่งออก วิ่งเข้า พอมองเห็นลมหายใจขาววิ่งออกวิ่งเข้า เราเป็นโรคภัยไข้เจ็บอยู่ที่ไหน จิตมันจะวิ่งไปที่ตรงนั้น ลมจะวิ่งตามไป เช่น เป็นแผลในกระเพาะ ลำไส้
พอลมหายใจขาวสะอาดดีแล้ว มันจะวิ่งไปสู่จุดที่มันรู้สึกเจ็บนั่นแหละ พอจิตวิ่งไปตรงนั้น ลมก็ตามไป แล้วมันจะไปสัมผัสขึ้น สัมผัสลง อยู่ที่ตรงนั้น แล้วจะทำให้แผลในกระเพาะ หรือลำไส้หายได้
อันนี้มีคนเขาทำหายมาหลายคนแล้ว อันนี้วิธีทำสมาธิรักษาโรค
เมื่อจิตของเราไปรวมอยู่ที่ลมหายใจ มองเห็นลมหายใจวิ่ง ออก วิ่งเข้า ขาวเหมือนปุยนุ่น ปุยฝ้าย
ในช่วงนั้นจิตสงบเป็นสมาธิ มันจะดึงดูดเอาพลังรอบข้างเข้าไปรวมอยู่ที่จุดนั้น เรียกว่า "พลังจักรวาล"
พอหลังจากนั้น จิตเขาจะทำหน้าที่ของเขาเอง เราไม่ต้องไปบังคับเขา เราเจ็บที่ตรงไหน ปวดที่ตรงไหน ขัดข้องที่ตรงไหน
เช่น อย่างเกิดความมึนตึงในสมอง ปวดศีรษะบ่อยๆ ตึงเครียด มันจะคลายเบาบางลง แล้วในที่สุดจะหายขาด บางคนไปทำเพียง ๓ วันก็หาย
อันนี้คือวิธีทำสมาธิรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยตนเอง
โอวาทธรรมคำสอนของพระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
🌀🌡️ฝึกพลังจิตรักษาตน🌡️🌀
ตอนนี้โรคไวรัสโควิด-19 ระบาดไปทั่ว ภัยพิบัติก็จะเกิดขึ้น ทั้งที่ผ่านมาแล้ว และก็กำลังจะเกิดขึ้นอีกมากมาย จะอยู่ด้วยความยากลำบากมากขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้น ให้ฝึกอธิษฐานจิตและแผ่เมตตาคุ้มครองตนเอง หากบาปกรรมหนักไม่มาตัดรอน ก็อาจจะแคล้วคลาดปลอดภัยไปได้
🌀พลังลมปราณป้องกันและรักษาโรคภัย (ภาคปฏิบัติ) 🌀
ต่อไปนี้เป็นภาคปฏิบัติ ท่านตั้งใจฟังให้ดี เกี่ยวกับพลังลมปราณ (อานาปานสติ)
ให้หายใจออก เอามือช่วยแขม่วท้อง และเอามือกดหน้าท้องให้มันแฟบไปมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แล้วเอาลมออกจมูกออกปากให้หมด ให้ท้องแขม่วให้มากที่สุด แล้วเวลาหายใจเข้าท้องจะพองเองโดยอัตโนมัติ
ให้ทำอย่างนี้ให้ต่อเนื่อง ลองทำดูซิ...
หายใจออกท้องแฟบ หายใจเข้าท้องพอง แต่ไม่ต้องท่อง แค่ให้รู้ว่าหายใจออกท้องแฟบ หายใจเข้าท้องพอง ต่อไปไม่ต้องเอามือกดหน้าท้องแล้ว ทำอย่างนี้ให้ต่อเนื่องหลาย ๆ ครั้ง ฝึกให้ชำนาญ
เวลาหายใจออกให้มีความรู้สึกว่า... ให้ของเสียให้ออกจากร่างกายให้หมด ไม่ว่าจะเชื้อโรคอะไรก็เอาออกจากร่างกายให้หมด
ทำความรู้สึกว่า... เอาของเสียออกจากร่างกายทั้งหมดพร้อมกับลมออก เอาของเสียออกจากจิตใจ คือ ราคะ โทสะ โมหะ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความอาฆาตแค้นพยาบาท ผูกใจเจ็บ ความวิตกกังวล ความเศร้าหมอง ห่วงใย ความรักใคร่ ผูกพันในตอนนี้ ก็เอาออกไปในปัจจุบันขณะนี้
เอาออกไป... ทิ้งออกไป... ทิ้งไปให้หมดสิ้น... เอาออกจากใจให้หมดสิ้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ไม่เอากลับคืนเข้ามา เวลาหายใจเข้าให้มีความรู้สึกว่า ลมหายใจมันเข้าผ่านไปจนถึงหัวกะโหลกศีรษะผ่านไปทั่วตัว
หายใจเข้าก็รู้สึกว่าลมหายใจเข้ามันแผ่ซ่านไปทั่วตัว ผ่านสมอง ผ่านจมูก ผ่านร่างกายไปหมด ไปถึงท้อง
หายใจเข้าท้องพอง เวลาหายใจออกไม่ใช่หายใจออกทิ้งทางจมูกพรวดไปเลย ให้รู้สึกว่าลมหายใจออกมันแผ่ซ่านกระจายไปทั่วตัว
พอท่านทำได้อย่างนี้แล้ว ก็ให้มีความรู้สึกว่าพอหายใจเข้าก็สดชื่น แจ่มใส เบิกบาน เอาออกซิเจนเข้าไปเต็ม ๆ ผ่านไปยังสมอง ระบบสมอง ระบบประสาททั่วร่างกาย ให้มันอิ่มเอิบซาบซ่าน
หายใจเข้าให้มันผ่านรูจมูก ผ่านระบบสมอง ผ่านไปทั่วตัวไปค้างไว้ที่ท้อง ให้ท้องมันพอง ไปเต็มปอด เต็มร่างกาย แล้วก็หายใจออกให้ท้องมันแฟบ อย่าหายใจทิ้งทางจมูกอย่างเดียว ให้มันกระจายไปทั่วตัวช้า ๆ
‼️ระหว่างอธิษฐานจิตอย่าให้ลมหายใจรั่วเป็นอันขาด เค้าเรียกว่า 1 คาบ ตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว เวลาจะอธิษฐานจิตหรือสวดคาถาสั้น ๆ (บทอธิษฐานจิตปรับธาตุขันธ์) ให้สวดตอนกลั้นลมหายใจ อย่าให้ลมหายใจรั่ว กักไว้แล้วอธิษฐานจิตว่า...
“พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ รวมกับบุญบารมีที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้วทุกภพทุกชาติ ขอให้ธาตุทุกธาตุ ขันธ์ทุกขันธ์ สสาร พลังงาน ความว่าง
ธาตุรู้ ภูมิคุ้มกัน พลังจิตที่บริสุทธิ์ พลังธรรมชาติที่บริสุทธิ์ จงสมดุลเป็นปกติธรรมชาติ โดยอัตโนมัติตลอดเวลาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปด้วยเทอญ”
✨อธิษฐานปรับธาตุขันธ์เสียก่อน ทำทุกวัน อันนี้ดีมากนะ แล้วก็ใช้ร่วมกับบทสวดสั้น ๆ (บทสวดมนต์ปรับธาตุขันธ์) ต่อไปก็กลั้นลมหายใจ เมื่อกลั้นลมหายใจได้แล้วก็ท่องว่า...
“พุทโธพระอะระหัง พุทธังรักษา ธัมโมพระอะระหัง ธัมมังรักษา สังโฆพระอะระหัง สังฆังรักษา ทุกข์ โศก โรค ภัย เสนียดจัญไร เชื้อโรคร้าย สารพิษร้าย เซลล์เนื้อร้าย... ใด ๆ มีมา อนัตตาสูญเปล่า นะสูญ โมสูญ พุทสูญ ธาสูญ ยะสูญ สูญหายไปด้วย นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ สัมปะจิตโต ปัจฉามิ”
แล้วก็กลืนลม กลืนน้ำลายลงท้อง ก่อนที่จะหายใจออก
กลืนลม กลืนน้ำลายลงท้อง แล้วก็มีความรู้สึกว่า ลมหายใจมันกระจายออกไปทั่วทุกรูขุมขน ทุกรูเส้นผม มันไม่ได้ปล่อยพรวดออกทางจมูกนะ
กลืนลม กลืนอากาศลงท้อง แล้วให้มีความรู้สึกว่าลมหายใจมันกระจายออกไปทั่วตัว ออกไปปลายมือปลายเท้า ปลายศีรษะ ออกไปทั่วทุกรูขุมขน พอเรากลืนลม กลืนอากาศลงไป มันจะมีความรู้สึกว่าลมหายใจมันหมดลงไปเลย แทบจะไม่เหลือออกทางจมูก ให้ฝึกอย่างนี้นะ จำได้มั้ย...!
ฝึกแบบนี้ให้ชำนาญ ตอนที่เราฝึกกลั้นลมหายใจไว้ใหม่ ๆ ถ้ากลั้นได้แล้วลองเอาหน้าไปจุ่มน้ำดูว่ามีลมรั่วมั้ย ถ้าลมไม่รั่วก็แสดงว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว เราก็อธิษฐานจิตหรือสวดคำอธิษฐานสั้น ๆ
✳️ตอนที่สวดต้องกลั้นลมหายใจไว้ให้อยู่นะ ถ้าเราสวดเร็ว ๆ มันจะได้ 3 จบต่อ 1 กลั้นลมหายใจ เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา แต่ถ้าเราสวดช้าก็จะได้ 1 จบ ต่อ 1 กลั้นลมหายใจ เราก็ทำหลาย ๆ รอบ 1 จบต่อ 1 กลั้นลมหายใจ พอเราสวดบ่อย ๆ มันก็จะได้ 3 จบ
“พุทโธพระอะระหัง พุทธังรักษา ธัมโมพระอะระหัง ธัมมังรักษา สังโฆพระอะระหัง สังฆังรักษา ทุกข์ โศก โรค ภัย เสนียดจัญไร เชื้อโรคร้าย สารพิษร้าย เซลล์เนื้อร้าย... ใด ๆ มีมา อนัตตาสูญเปล่า นะสูญ โมสูญ พุทสูญ ธาสูญ ยะสูญ สูญหายไปด้วย นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ สัมปะจิตโต ปัจฉามิ”
แล้วก็กลืนลม กลืนอากาศ กลืนน้ำลายลงท้อง แล้วก็กลั้นลมกระจายลมออกไปให้ทั่วตัว อย่าให้มันไหลปล่อยออกไปทางจมูกพรวดเดียว มันเสียของ... ให้กระจายมันไปให้ทั่วตัวทุกรูขุมขน เบ่งออกไปกระจายไปทั่วตัวทุกรูขุมขน
และพอกลืนน้ำลาย กลืนอากาศลงท้อง แล้วมีความรู้สึกว่าลมหายใจมันก็หมด แทบจะไม่มีไหลออกทางจมูกเลย ฝึกหัดนะ ฝึกหัดให้ชำนาญแล้วนำไปอธิษฐานใช้ จะคุ้มครองได้ทุกอย่างนั่นแหละ แพ้อย่างเดียวเมื่อมีบาปกรรมหนักมาตัดรอน คือ บาปกรรมเก่าที่เราทำไว้เยอะ มันก็มาตัดรอน แต่ถ้าเราแผ่เมตตาให้บ่อย ๆ ก็บรรเทาไปได้
✨มันต้องฝึกฝนจิตใจนะ ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ ,
✔️ข้อหนึ่ง ให้ละบาปอกุศล ละบาปกรรมชั่ว
✔️ข้อสอง ทำกุศลให้ถึงพร้อมทางกายวาจาใจ
✔️ข้อสาม ฝึกฝนจิตใจของตนเอง เพียรฝึกฝนจิตใจของตนเองให้ปราศจากกิเลสเครื่องเศร้าหมอง อย่าให้มันเศร้าหมอง อย่าให้เบื่อเซ็งกลุ้ม ท้อแท้หดหู่ สิ้นหวัง ฝึกฝนนะ...
ธรรม 3 ข้อนี้เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่สอนตรงกันนะ
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากวีดีโอ “ฝึกพลังจิตรักษาตน”
(เป็นวีดีโอสื่อการสอนที่ไม่ได้ใช้เปิดเป็นสาธารณะทั่วไป)
💡ฟังไฟล์เสียงและวีดีโอเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องอานาปานสติและพลังลมปราณ ดังนี้
🎧200314A อานาปานสติภาคปฏิบัติ
https://www.youtube.com/watch?v=zQPppB3Ub-w
🎧200222A-1 ทางปฏิบัติเพื่อห่างไกลจากโรคภัย
https://www.youtube.com/watch?v=z3Obv4m6yOw
📺200222A-1 ทางปฏิบัติเพื่อห่างไกลจากโรคภัย (วีดีโอหลวงตาแสดงธรรม)
https://www.youtube.com/watch?v=ZIr-6UQcyBo
🎧200208A-2 อานาปานสติ (สมถะ-วิปัสสนา)
https://www.youtube.com/watch?v=hktlx3BmLPo
📺200208A-2 อานาปานสติ (สมถะ-วิปัสสนา) (วีดีโอหลวงตาแสดงธรรม)
https://www.youtube.com/watch?v=BvExQcwrsf4
🎧200210A2-1 อานาปานสติอันละเอียดลึกซึ้ง ตอนที่ 1
https://www.youtube.com/watch?v=14YbLMYvbDI
🎧200210A2-2 อานาปานสติอันละเอียดลึกซึ้ง ตอนที่ 2
https://www.youtube.com/watch?v=YhVc0-1lEt0
🎧200229A อานาปานสติสู่ทางพ้นทุกข์
https://www.youtube.com/watch?v=dNeXV5dE7RA
🎧200301A วิบัติของสังขารโลก
https://www.youtube.com/watch?v=WVUWv0n4LoE
🎧200306A พลังลมปราณ
https://www.youtube.com/watch?v=atQd2MLsJig
🎧200316A2-1 ทางเดินที่ต้องฝึกฝนปฏิบัติอย่างหนัก
https://www.youtube.com/watch?v=R_Ove-lREsQ
🎧200319A1 ฝึกพลังจิตด้วยลมปราณและการปล่อยวาง
https://www.youtube.com/watch?v=AZGQ19ajxaQ
🎧200322A1 ฝึกพลังลมปราณป้องกันโรค
https://www.youtube.com/watch?v=r5tEIYou6zU
📖 อ่านประชาสัมพันธ์สื่อธรรมชุด “ทางปฏิบัติเพื่อห่างไกลจากโรคภัย”
http://www.luangtanarongsak.org/…/5089-03-mar23-63-dama-inf…
📖 อ่านโอวาทธรรม “ว่าด้วยเรื่องโรค Covid-19 (ไวรัสโคโรนา) : บทอธิษฐานจิตและบทสวดมนต์ปรับธาตุขันธ์ (ปรับปรุง 3 เม.ย.63)”
http://www.luangtanarongsak.org/…/5147-04-apr04-63-ot-63-q1…
ที่มา : Benya timeline
https://timeline.line.me/…/_dQtVIqhL22C…/1158928039109053047
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~