093.. คนตาดี+. ห่าม.. บวงสรวงชุมนุมเทวดา.
ที่ขึ้นต้นด้วยปุริมัญ จะ ทิสังราชา…ครูอาจารย์บอกว่า..”.เราสามารถใช้ภาษาไทย อัญเชิญท้าวมหาราชก่อนก็ได้ จะให้ท่านช่วยสงเคราะห์อะไร ให้บอกไห ถ้า ไม่บอกท่านๆ ก็จะยืนดูเฉย ๆ..”
**.....ท้าวมหาราชทั้ง๔ หรือ ท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ท้เป็นอธิปดีหรือผู้เป็นใหญ่ มี“อินทกะ” (“ผู้เป็นใหญ่” รองท่านท้าวมหาราช ) ในแต่ทิศ มีอินทกะพันองค์ ) ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา หรือสวรรค์ชั้นที่ ๑ ..และมีหน้าที่อารักขาชั้นดาวดึงส์ ยังมีหน้าที่ดูแลโลกมนุษย์ การทำดี-ทำชั่ว ดูแล เทวดาต่างๆ เจ้าที่ เจ้าทาง รุกขเทวดา อากาสเทวดา เทวดาในดวงดาว ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ นั้
//..การทำพิธีกรรมใด ต้องเชิญท่าน มารับรู้ อำนวยอวยพรให้มีความศักดิ์สิทธิ์ โดยท้าวมหาราช สมัยเป็นมนุษย์ ต้องเคยได้ฌานสมาบัติ แต่เวลาตายไม่ได้เข้าฌาน มีด้วยกัน ๔ องค์คือ
๑. ท้าวมหาราชทิศตะวันออก ท้าวธตรฐ รูปร่างสูงโปร่งและสูงกว่าทุกๆองค์ใน4ท้าวจตุโลกบาล มีผิวกายสีเขียว, มือซ้ายถือพิณ, มือขวาดีดพิณ พร้อมด้วยคนธรรพ์ เป็นบริวาร
๒. ท้าวมหาราชทิศใต้ ท้าววิรุฬหก มัก แสดงรูปร่างอ้วนใหญ่ ผิวดำปี๋ พุงปลิ้น คอกสั้น หัวโต ฟันขาว เขี้ยวกโง้ง
พร้อมด้วย กุภัณฑ์ เป็นบริวาร
๓. ท้าวมหาราชทิศตะวันตก ท้าววิรูปักษ์ พร้อมด้วยนาค เป็นบริวาร
๔. ท้าวมหาราชทิศเหนือ ท้าวเวสสุวัณพระวรกายขาวกระจ่างสวมอาภรณ์งดงาม มีมงกุฎเป็นน้ำเต้าทรงอยู่บนพระเศียร บางทีท่านนุ่งผ้าขาวห่มผ้าสไบเฉียงขาว ถือไม้พลองยาว พร้อมด้วยยักษ์ เป็นบริวาร และ เป็นประธานของท้าวมหาราชทั้ง ๔
**..ข้าพเจ้ารู้จักคนหนึ่ง แกไม่เคยได้ยินคำบวงสรวง และไม่เคยบวงสรวงมาก่อน แกไม่มีวัตถุใด เครื่องบวงสรวงใดมาบวงสรวง มีแต่ธูป และ น้ำ 1 แก้ว. แกถามข้าพเจ้าว่า
“ จุดธูป กี่ดอกดี ” ตอบไป 3 ดอก ก็ได้ หรือจะจุด 39 ดอกไปเลย”
.... แกได้ไปจุดธูป 39 ดอก กลางแจ้ง ได้กล่าวอัญเชิญท้าวมหาราชทั้ง ๔ว่า “ ผมขออาราธนาท้าวมหาชทั้ง ๔ ช่วยมาให้ผมได้เห็นกายของท่านด้วย ครับ หากผมมีบุญพอ ขอให้ท่านสงเคราะห์ ขอเชิญมาร่วมสวดมนต์ “บทอาการวัตรสูตร” กับผมด้วยครับ”
**.......แล้วแกก็เปิดเทปบวงสรวงในมือถือ... พร้อมสวดตาม แกบออก..พั๊บเดียว แกเห็นภาพ บอกข้าพเจ้าว่า..
“ ..ท้าวมหาราชทั้ง๔ มาจริงๆ แสงสว่างจ้า...มาทั้ง๔ ทิศ แต่ที่ผมสนใจ ตรงทิศตะวันตก ...ผมเห็น ชายรูปงามกายสีเขียว แต่งกายมีสังวาล แล้วจึงเห็นพญานาค 7 เศียร ในตัวเดียว แต่มี 7 เศียร และเศียรหันหน้าไปทิศเดียวกัน ไม่ได้แผ่ออกข้างหรอก มันแผ่จากล่างขึ้นบน ( เหมือน เราตั้งฝ่ามือ นิ้วหัวอยู่ด้านบน นิ้วก้อยอยู่ด้านล่าง..คือ มีนิ้วแทนหัวพญานาค )..
“..ลำตัวพญานาคเป็นสีเขียว ตรงคอมีสังวาลสวมใส่ ตาแดง ลิ้นแดงแปร็ด
... ส่วน ทิศตะวันออกมีกายสีเหลืองทอง
....ทิศใต้มีกายสีเหลือง
... ส่วนด้านทิศเหนือ พบแสงสว่างขาวจ้า มองไม่เห็นรูปใคร(ท้าวเวสสุวรรณ)
***......ก่อนลืมตา ผมเห็นหลวงปู่สรวง มาในชุดขาวแบบฆราวาส จึงขอเรียนวิชชาบาลี อักขระเขมรกับท่าน”.โดยกล่าวว่า..หลวงปู่ครับ..ผมขอเรียนอักขระภาษาขอมกับหลวงปู่ครับ....ต่อมาแกบอกว่า..
” พอผมเห็นผ้ายันต์เมื่อใด เลขยันต์จะลอยขึ้นมาตรงหน้า และผมพอจะเข้าใจด้วยว่า เลขยันต์แปลว่าอะไรด้วย..
มโนธาตุ โพธิญาณ
092.. การแสดงออก..ของ.พระอรหันต์
.....ลักษณะของพระอรหันต์ ท่านมีความสมบูรณ์แล้ว, จึงใช้ประโยชน์จากสิ่งต่างๆ รอบตัว.ได้อย่างเหมาะสม โดยไม่เกิดโทษ หรือให้เกิดโทษน้อยที่สุด, พระอรหันต์ได้พัฒนาอินทรีย์แล้ว เพราะบังคับสัญญาของตนได้ เมื่อพบสภาพที่น่าชอบใจ หรือไม่น่าชอบใจก็เกิดขึ้น จึงสามารถหมายรู้หรือจะเว้นคำนึง มีอุเบกขา สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าเห็น ไม่มีอะไรถือมั่น
**... ท่านมองด้วย อนิจจตา หรือตามสภาวะของธาตุ หรือจะวางใจเป็นกลางก็ได้ เพราะท่านละอุปทานในขันธ์5แล้ว ในสัญญาแล้ว สัญญาจึงไม่มีอำนาจบังคับบัญชาท่านได้
//**… พระอรหันต์ย่อมเป็นผู้มีศีลสมบูรณ์ การกระทำของท่านไม่เป็นกรรมอีกต่อไป เรียกว่าเป็น กิริยาจิต การกระทำของท่าน ไม่ได้มาจากตัณหา แต่มาจากคุณธรรม เป็นการกระทำ ทีเหนือดีเหนือชั่ว เพราะหมด โลภะ โทสะ โมหะ
***...เมื่อเรามองดู หรือ สัมผัสเข้าใกล้ เราจะพบกับกระแสแห่งความร่มเย็น เมตตา ที่อกจากจิต ทำให้เรา สงบ อบอุ่นไปด้วย เพราะจิตของพระอรหันต์ เป็นจิตที่อิสระ ปลอดโปร่ง ไร้ทุกข์ เพราะไม่มีอดีต อนาคต ให้ผูกมัดไม่ ใจจึงเปี่ยมบรมสุข(นิรามิสสุข) มีจิตคุณธรรมแห่งความเมตตา กรุณา แผ่ออกมา แม้กระทั่งทะลุออกมาทางกาย ผิวพรรณIเปล่งปลั่ง ตาใสบริสุทธิ์ดุจตาทารก
***...ภาวะจิต : ของพระอรหันต์ ไม่มีความกังวล ไม่หงุดหงิด ฟุ้งว่าน ไม่มีความสะดุ้งหวาดกลัว เพราะท่านอิ่มแล้ว ไม่แสวงหาแล้ว เต็มบริบูรณ์ ปราศจากกิเลสแฝงลึก
919...มุมคำสอน – มุมรูปลักษณ์ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ (บทที่ ๑๓)
# มุมคำสอน...#
๑. ถ้าทำจิตให้ดิ่งแน่วแน่อยู่ในอารมณ์อันเดียวแล้ว
จิตก็มีกำลังเปล่งรัศมีแห่งความสว่างออกมาเต็มที่
มองสภาพของจิตตามความเป็นจริงได้ว่า
อะไรเป็นจิต อะไรเป็นกิเลส
อะไรควรรักษา อะไรควรละ
๒."รูปข้าคุยกับแกได้""แกนั่งอยู่ที่บ้าน ที่แกไหว้พระอยู่นั่น
ที่หน้ารูปนั่น…ถ้าทำเป็น แกก็เห็นพระได้
องค์ไหนๆ ที่ท่านมา…รูปข้าคุยกับแกได้"
๓..ความสุขที่แท้จริง มีแต่
ศีล สมาธิ ปัญญา
ปลายทางของมรรคแปด คือพระนิพพาน
ความสุขที่ไม่หมดอายุ
ความสุขที่ไม่กลับกลายเป็นทุกข์อีก
๔.ความก้าวหน้า 3 ขั้น ( ถึง- เป็น –ได้)
*.ถึง - จิตเข้าถึงไตรสรณาคมณ์ เป็นที่ระลึกนึกถึง และเป็นที่พึ่งอย่างแท้จริง
*เป็น.. - จิตเข้าใจในธรรมและนำมาปฏิบัติจนมีอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์มีญาณทัศนะ ที่ถูกต้อง(จิตเป็นสัมมาทิฏฐิถึงโคตรภูญาณ)
*.ได้ ...- จิตได้รับผลของการปฏิบัติ คือมรรคผลตั้งแต่ภูมิธรรม พระโสดาบันขึ้นไปจนถึงพระอรหันต์
๕..แก่ เจ็บ ตาย ที่เราเห็นกันนี่ ตาเรามองเห็น ส่วนพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ท่านเห็นด้วยจิต ใช้จิตเห็น
เห็นทุกข์ เห็นภัยที่จะตามมา จะป้องกัน จะแก้ไขยังไง ท่านเห็นอย่างนี้ ท่านถึงหนีออกมาได้
ใช้จิตเห็น ไม่ได้ใช้ตาเห็น"
๖.ถ้าแกตาเห็น .(มิทิพยจักขุ).. แกนึกถึงข้า 7 วัน ละก็ ถ้าข้าไม่ไป(หาแก) ก็กลับมาด่า(ข้าได้)
!!"
#..มุมรูปลักษณ์ ๑๓ (ตามภาพ)..เป็นวิทยาทาน.#
** พระบูชาหลวงปู่ดู่ ผงจักรพรรดิ**