Tumor marker

Tumor marker

การตรวจTumor marker จะมีประโยชน์มาก ถ้าได้ทำร่วมกับการตรวจร่างกายและการตรวจอย่างอื่น เพื่อการวินิจฉัย หรือวางแผนการรักษาโรค

การตรวจสาร Tumor marker เพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัยมะเร็ง เนื่องจาก

การตรวจสารมะเร็ง Tumor marker จึงมีประโยชน์คือ

1.PSA Prostatic specific antigen

PSA เป็นสารที่แพทย์ตรวจในกรณีที่สงสัยมะเร็งต่อมลูกหมาก ปกติในชายจะมีสารนี้อยู่ในปริมาณต่ำ เนื่องจากสร้างโดยต่อมลูกหมาก และอาจสูงได้จากภาวะอื่น ๆ นอกเหนือจากมะเร็ง เช่น ต่อมลูกหมากอักเสบ หรือต่อมลูกหมากโต

ข้อมูลล่าสุด ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่า การตรวจ PSA ในชายที่สูงอายุ จะมีประโยชน์ช่วยช่วยชีวิตชายจากมะเร็งได้มากกว่าปกติเท่าไร เพราะบางครั้ง มันอาจไม่สูงในระยะแรก ซึ่งบางครั้งจากการตรวจจากการคลำต่อมลูกหมาก แพทย์อาจเจอก่อนที่ระดับ PSA จะสูงเสียอีก

2. Prostatic Acid Phosphatase (PAP)

เช่นกัน ในภาวะปกติเราก็เจอสูงได้ เช่น ต่อมลูกหมากโต และอักเสบ และภาวะอื่น ๆ นอกจากมะเร็งต่อมลูกหมาก เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว ต่อมน้ำเหลือง โรคตับ กระดูกพรุน เป็นต้น 

3.CA125

สร้างจากหลายที่ แต่จะมากในเซลของรังไข่ จึงใช้ตรวจมะเร็งรังไข่ แต่โดยทั่วไป เราจะไม่ใช้ในการวินิจฉัย แต่จะช่วยในการรักษา หรือติดตามผลการรักษาว่ามะเร็งกลับคืนหรือไม่เช่นกัน

CA125 อาจสูงได้ในภาวะอื่น ๆ เช่น มะเร็งมดลูก ปากมดลูก ตับอ่อน ตับ ลำไส้ใหญ่ เต้านม ปอด และระบบทางเดินอาหาร หรืออาจเกิดในภาวะที่ไม่ใช่มะเร็งเช่น มดลูกอักเสบ ตับอ่อนอักเสบ ช่องท้องอักเสบ เยื่อหุ้มปอดอักเสบ ตั้งครรภ์ หรือขณะมีประจำเดือน

4.CEA หรือ Carcinoembrionic antigen 

ก็พบได้ในภาวะปกติ สร้างจากลำไส้

ใช้ตรวจภาวะมะเร็งในลำไส้ เช่นกัน หน้าที่จริง ๆ ไม่ได้ใช้วินิจฉัย แต่ใช้ในการเตรียมการรักษา และ ตรวจภายหลังรักษาว่า มะเร็งหมด หรือ กลับมาเป็นใหม่หรือไม่ โดยเฉพาะในกรณีที่มะเร็งลำไส้ใหญ่ มีการแพร่กระจายไปแล้ว

ค่า CEA สูง อาจพบได้ใน

1.ในภาวะมะเร็ง ของ ต่อมน้ำเหลือง เมลาโนมา เต้านม ตับอ่อน กระเพาะ ปากมดลูก ไต กระเพาะปัสสาวะ ต่อมธัยรอยด์ ตับ และมะเร็งรังไข่

2.ในภาวะที่ไม่ใช่มะเร็ง เช่น ลำไส้อักเสบเรื้อรัง ตับอ่อนอักเสบ โรคตับ สูบบุหรี่จัด 

5.AFP หรือ Alpha fetoprotein

สร้างในภาวะปกติของทารกในครรภ์ พอคลอดจะสูงและลดระดับต่ำอย่างรวดเร็ว 

-ใช้ดูในมะเร็งตับ การที่ AFP สูง บ่งว่าน่าจะมีมะเร็งที่ ตับ หรือจาก germ cell (เนื้อเยื่อที่จะพัฒนาเป็นไข่หรือสเปิร์ม-มะเร็งมักอยู่ที่อัณฑะ หรือรังไข่)

-ภาวะอื่น ๆ ที่อาจเจอเช่น มะเร็งกระเพาะ ตับอักเสบ ตั้งครรภ์

6. HCG หรือ Human Chorionic Gonadotropin 

ปกติ สร้างจากรก ในภาวะตั้งครรภ์ ซึ่งโดยปกติ เวลาตรวจการตั้งครรภ์ในปัสสาวะโดยใช้แผ่นจุ่ม ก็เป็นการตรวจ HCG นี่เอง

-ใช้ตรวจการกลายเป็นมะเร็งบางชนิด เช่นมะเร็งของรก และการตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก 

-ในบางครั้งสูงได้ในภาวะอื่น ๆ เช่น มะเร็งรังไข่ อัณฑะ กระเพาะ ตับอ่อน และปอด อาจเจอในคนสูบกัญชา

7.CA 19-9

-เจอในคนที่เป็นมะเร็งของลำใส้ใหญ่ และพบได้ในมะเร็งตับอ่อน และท่อทางเดินน้ำดี ในมะเร็งของตับอ่อน 

การตรวจพบ CA19-9 มักเจอในระยะท้าย ๆ 

-CA19-9 อาจเจอได้ในภาวะอื่น ๆ เช่น นิ่วในถุงน้ำดี ตับอ่อนอักเสบ ตับแข็ง

8. CA15-3 

มักใช้ติดตามการรักษามะเร็งเต้านม เพราะจะขึ้นสูงในกรณีที่เป็นมากแล้ว พบน้อยมากที่จะขึ้นในระยะแรกของโรค 

-ภาวะอื่นที่ทำให้ระดับ CA15-3 สูง ได้แก่ มะเร็งรังไข่ ปอด ต่อมลูกหมาก หรือ

-ภาวะที่ไม่ใช่มะเร็งอื่น ๆ เช่น การอักเสบของมดลูก ตับอักเสบ ตั้งครรภ์

9. CA 27-29 

เหมือนกับ CA15-3 คือตรวจในกรณีมะเร็งเต้านมระยะท้าย ๆ และมีประโยชน์ในการตรวจเป็นระยะ ๆ เพื่อตรวจการกลับมาเป็นใหม่ของมะเร็งภายหลังรักษา

10. LDH หรือ Lactate dehydrogenase 

ไม่จำเพาะในมะเร็งชนิดใดชนิดหนึ่ง ดังนั้น ใช้ช่วย เฉย ๆ ว่ามีการสร้างเซลผิดปกติขึ้นมาในร่างกาย และช่วยในการติดตามการรักษามะเร็งบางชนิด เช่น ซาร์โคมา (Ewings Sarcoma) ลิมป์โฟมา(Non-Hodgekins-มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดหนึ่ง)

11. Neuron specific Enolase (NSE) 

ที่ใช้ประโยชน์คือในกรณีเป็น มะเร็งปอดชนิด non-small cell lung cancer และ neuroblastoma(มะเร็งของปมประสาท-เท้าแสนปม)

จากสรุป จะเห็นได้ว่า ไม่มี Tumor marker เดี่ยว ๆ ตัวไหนเลยที่จะบอกว่าเราเป้นมะเร็ง ต้องมีการวิเคราะห์อย่างอื่นร่วมเสมอ