HIV treatment failure

ความล้มเหลวในการรักษาด้วยยาต้านไวรัส

แบ่งได้ 3 ระยะ

1.virological failure คือ HIV RNA (VL)>200cop/ml ขณะกินยาต้าน นานอย่างน้อย 6 เดือน

2.immunological failure

3.clinical failure

เน้นความล้มเหลวในระยะเป็นสำคัญก่อนที่เกิดเป็นระยะที่ 2 หรือ 3

การประเมิน virological failure

A.ประเมิน adherence

ก่อนตรวจ VL ต้องมั่นใจว่าผู้ป่วยกินยาต้านและกินสม่ำเสมอจริง ก่อนตรวจ VL อย่างน้อย 1 เดือน

B.ประเมินผล VL

@VL>50-1,000 cop/ml ---->เน้นกลับไปกินยาสม่ำเสมอ ตรวจซ้ำ 3 เดือน

@ VL>1,000 cop/ml

-ผู้ป่วยยืนยันกินสม่ำเสมอจริง ให้ตรวจ HIV drug resistance genotypic testing

ผล ดื้อยา ให้ปรับเปลี่ยนยาตามผล

ผล ไม่ดื้อยา ซักประวัติประเมิน adherence ใหม่และกินยาสม่ำเสมอ ตรวจ VL ซ้ำที่ 3 เดือน

-ผู้ป่วยขาดยา ไม่ได้กินให้กลับไปกิน อย่างน้อย 1 เดือน ตรวจ VLซ้ำ

ผล VL ลดลง > 10 เท่า กินยาเดิม ติดตาม VL ทุก 3 เดือน จน<50 cop/ml

ผล VL ลดลง ≤ 10 เท่า ประเมิน adherence และ หากVL > 1,000 cop/ml ส่งตรวจเชื้อดื้อยา

ข้อสังเกต

1.ล้มเหลวขณะกิน NNRTI มักดื้อยาจริง

2.ล้มเหลวขณะกิน boosted-Pls มักเกิดจาก poor adherence

หลักการเลือกกรณีเชื้อดื้อยา

หลักการ

1.ใช้สูตรยาที่ประกอบด้วยยาใหม่ที่ยังไม่ดื้อ 3 ชนิด หรืออย่างน้อย 2 ชนิด ตามผลตรวจ ดู VL ที่ 3 เดือนหลังเปลี่ยนยา

2.ยาที่ควรพิจารณาได้แก่

-Integrase ibhibitors: RAL,DTG

-Protease inhibitor: DRV

-NNRTIs: ETR,RPV

-CCR5 inhibitor : MVC

ทั้งนี้ดูผลตรวจดื้อยาและประวัติบ่งใช้