TB treatment cath
ระบบการรักษา TB treatment cathegory
Cat 1 2HRZE(S) + 4HR (ขยาย HRZE 1เดือน ถ้า sputum AFB สิ้นเดือนที่ 2 ยัง positive)
(กรณี ผู้ป่วยใหม่เสมหะพบเชื้อ, ไม่พบเชื้อแต่มีอาการหนัก, วัณโรคนอกปอดมีอาการหนัก
TB meningitis, military, pericaditis, spine, pleura, sputum neg. แต่กินเนื้อปอดมากหรือมีโพรงในปอด)
การตรวจเสมหะ เดือนที่่ 0....2....5...6end
1.กินยา 2 เดือน
Sputum negative--เริ่ม 4HR
Sputum positive --หยุดยา 2-3 วัน ส่ง sputum culture ทดสอบความไวต่อยา
และ -- ขยาย HRZE อีก 1 เดือน แล้วตรวจเสมหะใหม่ ไม่ว่าจะผลบวกหรือลบ ให้ HR ต่อเดือนที่ 4
2.ตรวจเสมหะเดือนที่ 5 ของการรักษาและเมื่อรักษาครบ หากผล positive ถือว่าการรักษาล้มเหลว
3.วัณโรคที่อื่น ให้ขยายการรักษาต่อเนื่องดังนี้
- ให้ยาเพิ่มอีก 2 เดือนสำหรับวัณโรคนอกปอดที่อาการไม่ดีขึ้นอย่างน่าพอใจ
- ให้ยาเพิ่มอีก 3 เดือนสำหรับวัณโรคเยื่อหุ้มสมอง วัณโรคของกระดูก วัณโรคไต
Cat 2 2HRZE/1HRZE + 5HRE (ขยาย HRZE 1เดือน ถ้า sputum AFB สิ้นเดือนที่ 2 ยัง positive)
(กรณี Relapse, Failure, ขาดยา 2 เดือน กลับมาแล้วเสมหะพบเชื้อ)
- ห้ามใช้ cat 2 ในราย sputum negative
- ต้องส่ง culture และ sensitivity ก่อนการรักษา
การตรวจเสมหะ
1. กินยาครบ 3 เดือน
Sputum negative--เริ่ม 5HRE
Sputum positive --ให้ยา 4 ตัวต่อ 1 เดือนแล้วตรวจเสมหะ
2. ตรวจเสมหะเดือนที่ 5 ของการรักษาและเมื่อรักษาครบ หากผล positive ให้รักษาด้วย CAT 4.
Cat 3 2HRZ/+4HR
(กรณี เสมหะไม่พบเชื้อ, วัณโรคนอกปอดที่ไม่รุนแรง เช่น TB lymphnode)
การตรวจเสมหะ
1. กินยาครบ 2 เดือน
Sputum negative--เริ่ม 4HR
Sputum positive --จำแนกผู้ป่วยเป็น failure แล้วเริ่ม CAT 2.
Cat 4 second line drug (Reserved drugs อย่างน้อย 3 ตัว) For CAT 2. Failure
(กรณี chronic case = รักษาด้วย cat1 แล้วล้มเหลว และใช้ cat 2 พร้อมกับ DOT อย่างเคร่งครัดแล้ว
ผล sputum AFB ยังpositive เมื่อสิ้นสุดการรักษา)
การเลือกยาควรใช้ผลการทดสอบ sensitivity เป็นตัวกำหนด ควรเป็นยาที่ไม่เคยได้รับมาก่อนอย่างน้อย 2 เดือน
สรุปควรตรวจเสมหะ เดือนที่ 0, 2, 5, end
ขนาดยาที่ใช้ คิดตามน้ำหนักที่เริ่มรักษา
INH 100 mg 3ths เท่ากันทุกคน
Rifam สามขนาด --300mg<40kg..450mg..>50kg..60mg
PZA ส่วนใหญ่ไม่เิกิน 1500 mg ยกเว้นตัวโตมากจริงๆ มักใ้ห้ 2t hs<50kg, >50kg 3t hs
Ethambuthal ส่วยใหญ่ให้ไม่เกิน 1000 mg มักให้ 400mg 2t hs
Strep ถ้าอายุมากกว่า 60 ปี ให้ไม่เิกิน 750 mg
|| TB dose ||...|| 30-39kg|| 40-49 || >50.... || 56kg || 53 ...||.. 53 ||
Ex. HRZE
TB> 30 kg INH 100 3ht Rifampicin 300 1ht PZA 500 2ht Etham 400 2ht
TB> 40 kg INH 100 3ht Rifampicin 450 1ht PZA 500 2ht Etham 400 2ht
TB> 50 kg INH 100 3ht Rifampicin 600 1ht PZA 500 3ht Etham 400/500 2ht
TB> 60 kg INH 100 3ht Rifampicin 600 1ht PZA 500 4ht Etham 500 2ht
T INH 100 mg
T Rifampicin 300, 450, 600
T PZA 500
T Ethambuthal 200, 400, 500
คำนวนตามน้ำหนักเมื่อเริ่มการรักษา ถ้าน้ำหนักเพิ่มไม่ต้องเพิ่มขนาดยา
ผู้ป่วยอายุมากกว่า 60 ปี ให้ลด S ไม่เกิน 750 mg/day
F/u 2 wk look for complication F/U 2 m for AFB
F/u sputum AFB end of 2 month
การจำแนกผลการรักษา
1. Cured การรักษาหายขาด
เสมหะบวกในตอนแรก รักษาครบแล้วมีผลเสมหะเป็นลบอย่างน้อย 2 ครั้ง และสิ้นสุดก็ลบ
2. Completed รักษาครบ
- เสมหะบวกในตอนแรก และมีผลเสมหะลบ เมื่อรักษาครบในช่วงเข้มข้นแต่ไม่มีเสมหะเมื่อสิ้นสุดการรักษา
- ผู้ป่วยมีผลเสมหะเป็นลบ เมื่อเริ่มรักษาและรักษาครบ
3. Failure ล้มเหลว
- เสมหะบวกในตอนแรก และยังคงหรือกลับมาเป็นบวกในเดือนที่ 5 ของการรักษา หรือหลังจากนั้น
- เสมหะลบในตอนแรก แต่กลับมีเสมหะเป็นบวกหลังการรักษาได้ 2 เดือน
4. Default สูญหาย
- ผู้ป่วยขาดยานานเกิน 2 เดือนติดต่อกัน
5. Died ตาย
- ผู้ป่วยตายในขณะที่รักษา ไม่ว่าสาเหตุใดก็ตาม แต่ควรพยายามระบุสาเหตุการตาย
6. Transfer out โอนออก ผู้ป่วยที่ไปรักษาที่อื่นโดยไม่ทราบผลการรักษา
สงสัย TB inactive : ไม่ต้องรักษา ให้ Follow up CXR 3 เดือน
- เลวลงเริ่มการรักษา + investigation
- ไม่เปลี่ยนไม่ต้องรักษา
- ดีขึ้น น่าจะเป็นปอดบวม
สงสัย TB active : รักษา 2-3 เดือน Follow up CXR
- เลวลง ไม่ใช่ TB
- ไม่เปลี่ยนไม่ต้องรักษา สงสัย inactive อาจหยุดยาหรือให้การรักษาต่อ
- ดีขึ้น ให้การรักษาต่อ