HIV TB antiviral drug

รักษาด้วยยาต้านไวรัสเอดส์ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีวัณโรคร่วมด้วย

Quick dose

d4T + 3TC + EFV หรือ AZT + 3TC + EFV

d4t 30,40 q 12 : 3TC 150 q 12 : EFV 600 hs

AZT 300mg + 3TC 150mg = zilarvir

1. กรณีตรวจพบว่าเป็นวัณโรคก่อนจะเริ่มยาต้านไวรัสเอดส์

1.1 ถ้า CD4 เกิน 250 cells/cu.mm ให้รอรักษาวัณโรคครบก่อน พร้อมติดตาม CD4 ทุก 3 – 6 เดือน ถ้ารักษาวัณโรคครบแล้วหรือ CD4 ต่ำกว่า 250 cells/cu.mm ค่อยเริ่มยาต้านไวรัสเอดส์

1.2 ถ้า CD4 ต่ำกว่า 250 cells/cu.mm ให้เริ่มยาต้านวัณโรคก่อน หลังจากนั้นภายใน 2 – 4 สัปดาห์ ให้พิจารณาเริ่มยาต้านไวรัสเอดส์ ไม่ควรรอนานกว่า 2 เดือน หรือ จนรักษาวัณโรคครบก่อนเริ่มยาต้านไวรัสเอดส์ เพราะพบว่าอัตราการตายสูง

สูตรยาที่แนะนำให้ใช้ คือ d4T + 3TC + EFV หรือ AZT + 3TC + EFV

สูตรยาอื่นที่ใช้ได้ คือ (1) GPO-Vir

(2) d4T + 3TC + SQV / RTV หรือ AZT + 3TC + SQV / RTV

หมายเหตุ :

(ก) Rifampicin ทำให้ลดระดับยา NNRTI ลงแต่ระดับ EFV ที่เหลือก็ยังเพียงพอที่จะยับยั้งเชื้อไวรัสเอดส์ จึงไม่จำต้องเพิ่ม EFV ซึ่งเป็น 800 mg OD ตามที่ผู้เชี่ยวชาญบางท่านแนะนำ

(ข) Rifampicin จะทำให้ระดับของยา NVP ลดลงมากกว่าจนอาจไม่สามารถกดเชื้อได้ ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จึงไม่แนะนำให้ใช้ NVP ควบคู่กับ Rifampicin แต่ในกรณีที่ไม่สามารถใช้ EFV ได้ อาจพิจารณาให้ NVP ( GPO-Vir ) ได้ แต่ควรมีการตรวจหาระดับยา NVP ในกระแสเลือดร่วมด้วย

(ค) Boosted PI สามารถให้ร่วมกับ Rifampicin ได้แต่ก็มีเพียงสูตร SQV / RTV ( 400:400 BID ) ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ แต่ราคาแพงและมีผลข้างเคียงจาก RTV มาก ส่วน booted PI สูตรอื่น ต้องรอข้อมูลเพิ่มเติมแม้จะมีผู้เชี่ยวชาญบางท่านใช้อยู่

2. กรณีตรวจพบว่าเป็นวัณโรคขณะที่กำลังรับประทานยาต้านไวรัสเอดส์อยู่

ไม่จำเป็นต้องหยุดยาต้านไวรัสเอดส์ แต่ให้พิจารณาดังนี้

1. ถ้าเป็น EFV containing regimens ให้คงสูตรเดิมต่อ

2. ถ้าเป็น NVP containing regimens ให้พิจารณาเปลี่ยนเป็น EFV

3. ถ้าเป็น unboosted PI regimen ให้พิจารณาเปลี่ยนเป็น EFV หรือให้ใช้ boosted PI เช่น IDV / RTV ( 800:200 BID ) โดยต้องติดตามผลข้างเคียง ของ PI ที่ถูก booted ขึ้นมาก ๆ ด้วย RTV ขนาด 200 mg BID ถ้าทนไม่ได้อาจลด RTV ลงเหลือ 100 mg BID

สรุป ปฏิกิริยาระหว่างยา TB กับ antiviral drug

NNRTI : rifampicin ลดระดับยา Efavirenz 25% และ Nevirapine 37% จึงควรใช้ Efavirenz มากกว่า Nevirapine

PI : ระดับยาจะลดลงอย่างมาก IDV 89% RTV 35% SQV 84% Nelfinavir 82% Lopinavir 75%

NRTIs : ไม่มีผลจึงสามารถใช้ยากลุ่มนี้ได้ (AZT,D4T,3TC,DDI,Abacavir )

Ex: Zilarvia3 1 t q 12hr + Efavinarenz 600mg hs( Stocrin® 200mg3hs , 600hs)

Zilarvia3(AZT300, MG,3TC 150mg)

Zilarvia5(AZT300, 3TC 150mg)

Bactrim 2 tm, ofloxacin(tarivid)200 q 12hr

Bactrim 2 tm, fluconazole100mg 4t/week