Dyslipidemia ภาวะไขมันในเลือดสูง
Quick Rx: การรักษา ให้ดู ปัจจัยเสี่ยง กับ LDL
ข้อบ่งชี้ การใช้ยารักษา
ดูค่า LDL ปกติ < 100mg/dl
1.LDL >190 + เสีี่ยง 1 ข้อ
2.LDL >160 + เสี่ยง 2 ข้อ หรือมากกว่า
3.LDL >130 + เป็นหรือเคยเป็น โรคหลอดเลือด(DM,IHD,CVA,PAD) & LDL
ปัจจัยเสี่ยง [ สูตร 2H-FAS ] = HT,HDL และ Family,AGE,Smoking
HT, HDL<40 mg/dl, ครอบครัวมี CAD, อายุ M>45 F>55 และ การสูบบุหรี่
หรือ
HA455 + ความดัน ครอบครัว บุหรี่
HDL<40 AGEชาย>45 หญิง>55
การเลือกใช้ยาเบื้องต้น ดูค่า TG ก่อน ว่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 400
TG< 400 ( LDL & TC สูง) ใช้ statin :ยา Simvastatin
Simvastatin (10,20,40,80 mg) 20-80 mg OD PC
TG> 400 ( LDL & TC ปกติ/สูง) ใช้ fibrates :ยา Gemfibrosil
Gemfibrosil (300,600,900 mg) 300-600 mg BID หรือ 900 mg OD
ขนาดยาอาจเพิ่ม กลุ่ม statin ร่วมด้วย ถ้า LDL หรือ TC สูงมาก
ภาวะไขมันในเลือดสูง
ไขมันในเลือดที่เจาะตรวจโดยทั่วไป มี 4 ชนิด
1.โคเลสเตอรอลรวม (total cholesterol)(TG)
2.LDL cholesterol ชนิด ความหนาแน่นต่ำ (LDL-C)
3.HDL cholesterol ชนิด ความหนาแน่นสูง (HDL-C)
4.ไตรกลีเซอไรด์ Triglyceride (TG)
ค่าปกติที่เหมาะสม (มก/ดล)
Cholesterol รวม น้อยกว่า 200
LDL น้อยกว่า 100
HDL มากกว่า 40
Triglyceride น้อยกว่า 150
ค่าไขมันยิ่งต่ำยิ่งดี ไม่มีคำว่าต่ำเกินไป(ยกเว้น HDL ต้องสูงถึงดี)
Cholesterol รวม
LDL เป็นไขมันไม่ดี ทำไห้เกิดการสะสมไขมันในเส้นเลือด
HDL เป็นไขมันดี ลดการสะสมไขมันในเส้นเลือด
Triglyceride
Cholesterol ชนิด LDL สูง ทำให้เกิดการสะสมไขมันในผนังหลอดเลือดได้
เป็นสาเหตุ การเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบและกล้ามเนื้อหัวใจตาย โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคเส้นเลือดอุดตันที่ขา
จึงมีความจำเป็นในการควบคุมระดับไขมันในเลือดไม่ไห้สูงผิดปกติ จนก่อไห้เกิดภาวะเสี่ยง จนมีการอุดตันของเส้นเลือด
หลักการรักษา
การดูแลรักษาขึ้นกับ 2 ปัจจัย คือ
1. ความเสี่ยงของผู้ป่วยในการเป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน
2. ระดับของไขมันที่ผิดปกติ
ในกรณีที่ระดับไขมันผิดปกติไม่มาก การดูแลรักษาโดยการปรับพฤติกรรมก็เพียงพอแล้วไม่จำเป็นต้องรับประทานยา
ปัจจัยเสี่ยง
1.สูบบุหรี่
2.ความดันโลหิตสูง
3.HDL < 40 mg/dl
4.อายุ ผู้ชายอายุ > 45 ปี ในผู้หญิงอายุ > 55 ปี
5.ประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจ ในผู้ชายอายุ < 55 ปี ในผู้หญิงอายุ < 65 ปี
ผู้ที่มีความเสี่ยง แยกเป็น 3 กลุ่ม ตามปัจจัยเสี่ยง
1.ผู้มีความเสี่ยงสูงมาก ได้แก่ ผู้เป็นโรคเบาหวาน,โรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน ,โรคเส้นเลือดส่วนปลายอุดตัน, โรคเส้นเลือดในสมองอุดตัน หรือ อัมพฤกษ์, อัมพาต
2.ผู้มีความเสี่ยงสูงปานกลาง ผู้มีปัจจัยเสี่ยง ตั้งแต่ 2 ข้อขึ้นไป
3.ผู้มีความเสี่ยงน้อยหรือไม่มี มีปัจจัยเสี่ยงน้อยกว่า 2 ข้อ
ระดับไขมันที่ผิดปกติ ให้ดูที่ LDL เป็นหลัก ที่เริ่มต้นให้การรักษา
ดูจากไขมันชนิด LDL เป็นหลัก ตามระดับตามเสี่ยงดังนี้
1.ผู้มีความเสี่ยงสูงมาก มีระดับ LDL ตั้งแต่ 100 ขึ้นไป
2.ผู้มีความเสี่ยงสูงปานกลาง มีระดับ LDL ตั้งแต่ 130 ขึ้นไป
3.ผู้มีความเสี่ยงน้อยหรือไม่มี มีระดับ LDL ตั้งแต่ 160 ขึ้นไป
ให้เริ่มต้นการรักษาด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ระดับไขมันผิดปกติ ที่ควรให้การรักษาด้วยยารับประทาน
ดูจากไขมันชนิด LDL เป็นหลัก ตามระดับตามเสี่ยงดังนี้
1.ผู้มีความเสี่ยงสูงมาก มีระดับ LDL ตั้งแต่ 130 ขึ้นไป
2.ผู้มีความเสี่ยงสูงปานกลาง มีระดับ LDL ตั้งแต่ 160 ขึ้นไป
3.ผู้มีความเสี่ยงน้อยหรือไม่มี มีระดับ LDL ตั้งแต่ 190 ขึ้นไป
คำแนะนำการปรับพฤติกรรม
-งดการสูบบุหรี่
-ให้ออกกำลังกาย อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 – 45 นาที ความหนักดูที่ อัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด เท่ากับ 222 – อายุเป็นปี เช่น อายุ 52 ปี ควรออกกำลังกายโดยให้อัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดของการออกกำลังกาย เท่ากับ 222 – 52 = 170 ครั้งต่อนาที
-รับประทานอาหารอย่างถูกต้อง
ต้องงด เครื่องในสัตว์ หนังสัตว์ทุกชนิด
ต้องเลี่ยง อาหารทะเล กุ้ง ปู ปลาหมึก เนื้อสัตว์ติดมัน ไข่แดง เนื้อสัตว์แปรรูป แฮม แหนม หมูยอ กุนเชียง ฯลฯ
รับประทานได้เป็นประจำ เนื้อปลา ไก่ เป็ด หมูและเนื้อไม่ติดมัน ประมาณ 4 - 6 ช้อนต่อมื้อ กินผักให้มาก
-การผ่อนคลายความเครียด
-ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง
อาหารไขมันสูง
อาหารที่มี cholesteral สูง ได้แก่ อาหารที่มาจากสัตว์ เช่น หนังสัตว์ เครื่องใน ปลาหมึก มันกุ้ง หอย เป็นต้น
ส่วนอาหารจากพืชจะไม่มี cholesteral
อาหารที่ทำให้ TG สูงได้แก่ อาหารประเภท แป้ง หวาน กะทิ ของทอด เป็นต้น
การรักษาโดยการใช้ยา
ก่อนการเริ่มใช้ยาต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชิวิตอย่างจริงจัง ประมาณ 3-6 เดือนก่อน แล้วเจาะเลือดซ้ำหากค่าไขมันยังสูงเกินที่กำหนดถึงเริ่มให้ยาได้
ยาที่ใช้รักษาแบ่งเป็น 5 กลุ่ม
1.HMG CoAR inhibitor (statin) ลดการสร้าง cholesterol, เพิ่มการเผาผลาญ C,TG
2.Fibric acid (fibrates)เพิ่มการเผาผลาญ C,TG
3.Nicotinic acid and analogue (nicotinic acid),TG
4.Bile acid sequestrant (cholestyramine) จับกับไขมันยับยั้งการดูดซึมน้ำดีกลับ
5.Biphenolic group (Probucol) เพิ่มการเผาผลาญ C ไม่มีผลต่อ TG
6.Omega-3 fatty acids (fish oil) ขนาดสูงลด TG ได้ดี
การเลือกใช้ยาเบื้องต้น
ขึ้นกับชนิดและระดับของไขมันที่สูงเป็นสำคัญ แยกเป็น 2 กรณี
1. LDL และ TC สูง ส่วน TG น้อยกว่า 400
เลือกกลุ่ม statin :ยา Simvastatin
2. LDL และ TC ปกติหรือสูง ส่วน TG มากกว่า 400
เลือกกลุ่ม fibrates :ยา Gemfibrosil
อาจเพิ่ม กลุ่ม statin ร่วมด้วย ถ้า LDL หรือ TC สูงมาก
ขนาดยา
Simvastatin (10,20,40,80 mg) 20-80 mg วันละครั้งหลังอาหาร
Gemfibrosil (300,600,900 mg) 300-600 mg เช้า-เย็น หรือ 900 mg วันละครั้ง
การติดตามผลการรักษา
ก่อนเริ่มยาลดไขมันควรตรวจ การทำงานของตับและไตก่อน (SGPT,SGOT,BUN,Cr)
หาก transamine > 3เท่า ไม่ควรใช้ statin ร่วมกับ fibrate
Cr> 2 ลดขนาดของ fibrate เนื่องจากยาถูกขจัดที่ไต
Cr > 4 ห้ามใช้ fibrate
นัดติดตามหลังให้ยา 6 – 12 สัปดาห์ และ นัด เจาะเลือดทุก 3-6 เดือน
ผลข้างเคียงของยา
เกือบทุกตัว มีผลทำไห้มีอาการ แน่นท้อง คลื่นไส้ ท้องเสีย
Statin, fibrate : ตับอักเสบ, ปวดกล้ามเนื้อ
หากกินยาร่วมหลายตัว ใช้ fluvastatin มีผลข้างเคียงน้อยกว่า
Resin : ท้องผูก
Fish oil : ทำให้เกร็ดเลือดต่ำลง มีจ้ำเลือดได้ ต้องระวังการใช้ร่วมกับแอสไพริน
Nicotinic acid : ทำให้มีอาการคัน และผิวแดง เนื่องจากมีฤทธิ์ขยายเส้นเลือด
ภาคผนวก