MERS cov

MERS หรือ MERS-CoV อ่านว่า เมอรส์

ย่อจาก Middle East Respiratory Syndrome -CoronaVirus

โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง

คือ กลุ่มอาการระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางที่เกิดจากการติดเชื้อโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012

เป็น โรคติดเชื้อไวรัสที่ทำให้ปอดอักเสบและเสียชีวิตได้

คล้ายกับ SARS ที่เกิดจาก corona virus(กลุ่มเดียวกับ common cold) และ paramyxo virus(กลุ่มเดียวกับหัดคางทูม ติดเชื้อทางเดินหายใจ )

สรุป Mers-CoV เป็นไวรัสใหม่คล้าย SARS เชื้อเป็น Corona virus เหมือนกัน อาการรุนแรง แต่ติดต่อยากกว่า

ความสำคัญ

1.ผู้ป่วยติดเชื้อเกือบทุกรายจะมีอาการรุนแรง และ 30 %จะเสียชีวิต

2.สามารถติดต่อคนสู่คน เป็นกลุ่มก้อนได้ ทั้งในครอบครัวและในโรงพยาบาล

3.95% ของผู้ที่ติดต่อจะมีโรคประจำตัว

4.ไม่มียาต้านไวรัส ไม่มีวัคซีน

เชื้อ

Mers-Cov virus

Corona virus เป็น RNA virus ใน genus betacoronavirus(ในหนู ค้างคาว) รูปร่างคล้ายมงกุฎ

ปกติเชื้อกลุ่มนี้จะก่อโรคทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ ชนิดอาการแบบไม่ร้ายแรง

ยกเว้น SARS Coronavirus(2002-2003) และ MERS ที่จะร้ายแรง

ระบาดวิทยา

20 เม.ย.2555(ค.ศ.2012) พบครั้งแรกที่ประเทศจอร์แดน มีผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยโรคประหลาด

15 ก.ย.2555 รายงานครั้งแรกจากประเทศซาอุดิอาระเบีย เรียกว่า novel coronavirus(nCoV) พบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยพบในคนมาก่อน โดยศาสตราจารย์ ดร. อาลี โมฮัมเม็ด ซาคี ผู้ป่วยมีอาการปอดอักเสบร่วมกับไตวาย

โดยไม่พบว่าติดเชื้อจาก ไวรัสไข้หวัดใหญ่ เอ, ไวรัสไข้หวัดใหญ่ บี,ไวรัสพาราอินฟลูเอ็นซา ไวรัสเอ็นเทอโร ไวรัสอะดิโน และประเทศซาอุดิอาระเบียรายงานผู้ป่วยมากสุด ได้ตรวจโดยใช้กล้องจุลทรรศน์อิเลคตรอนพบว่าเป็น corona virus

จึงส่งเชื้อไปตรวจที่เนเธอร์แลนด์ ได้ใช้เวลาถอดรหัสพันธุกรรม 2 วัน เสร็จรายงานผลว่าเป็น โคโลน่าไวรัสสายพันธ์ใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน

ช่วงหลังได้ถูกเนรเทศกลับไปอียิปต์เนื่องจากไม่รายงานให้รัฐบาลทราบก่อน

22 ก.ย.2555 สหราชอาณาจักร ชันสูตรยืนยันพบเชื้อ โคโรนาชนิดไหม่ในผู้ป่วยจากตะวันออกกลาง

พ.ย.2555 อ.ยง ภู่วรวรรณ ร.พ.จุฬาได้รับเชื้อตายเป็นตัวอย่างจากเนเธอร์แลนด์มาทำการวิจัยเพื่อการตรวจหาทางห้องปฏิบัติการ

พ.ค.2556 ได้รับการตั้งชื่อโดย The Coronavirus Study Group of the International Committee on Taxonomy of Viruses ว่า "MERS-CoV"

28/5/2556 WHO รายงาน ติดเชื้อ MER-CoV 44 ราย เสียชีวิต 23 ราย

18 พ.ย.2556 มีประเทศที่มีรายงานการติดเชื้อแล้ว 11 ประเทศ ฝรั่งเศส เยอรมณี อิตาลี จอร์แดน กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย ตูนีเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ โอมาน และคูเวต

26 มี.ค. 2557 ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อทั่วโลก 200 ราย เสียชีวิต 85 ราย อัตราตาย 42.5%

13/4/2557 มาเลเซีย รายงานมีผู้เสียชีวิตรายแรกจากไวรัส MERS-CoV

20/4/2557 WHO รายงานผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรวมแล้ว 250 ราย เสียชิวิต 93 ราย(อัตาราป่วยตาย 37.2)

14 ประเทศ ที่เพิ่มคือ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และกรีซ

21/4/2557 ยอดรวมผู้ป่วยติดเชื้อประเทศซาอุดิอาระเบีย 244 ราย เสียชีวิต 76 ราย

26/4/2558 อียิปต์ รายงานพบผู้ป่วยรายแรกจาก MERS-CoV

27/4/2557 CNN รายงานยอดรวมผู้ป่วยติดเชื้อประเทศซาอุดิอาระเบีย 399 ราย เสียชีวิต 102 ราย

03/5/2557 ประเทศที่ 16 USA รายงานพบผู้ป่วยรายแรกในประเทศ เดินทางกลับมาจากซาอุดีอาระเบีย

08/5/2557 กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียรายงานยอดรวม 449 ราย เสียชิวิต 121 ราย

13/5/2557 กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียรายงานยอดรวม 495 ราย เสียชิวิต 125 ราย

ผู้ป่วยติดเชื้อประเทศต่างทั้ง 16 ประเทศผู้ป่วยทุกคนล้วนเดินทางมาที่ซาอุดีอาระเบียก่อนติดเชื้อ

3/6/2557 กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียรายงานยอดรวม 688 ราย เสียชิวิต 282 ราย

15/6/2557 บังคลาเทศ สถาบันระบาดวิทยาวิจัยและการควบคุมโรค ออกรายงานผู้ติดเชื้อรายแรกของประเทศ

ชาน 53 ปี เดินทางจากสหรัฐอเมริกา ต่อเครื่องบินผ่านทางที่อาบูดาบีในสหรฐอาหรับเอมิเรตส์

20/5/2558 เกาหลีไต้รายงาน 2 รายติดเชื้อ MERS รายแรกได้วินิจฉัยวันที่ 20/5/2558

นักธุรกิจชายวัย 68 ปี กลับจากการเดินไปเที่ยวตะวันออกกลาง 1 เดือน มีอาการไข้ปอดอักเสบ 1 สัปดาห์

ช่วงที่ตรวจภรรยาเริ่มมีอาการ 2 วัน สงสัยจึงได้ทำการตรวจพร้อมกับผู้ป่วย จึงรายงานแรกทีเดียว 2 ราย

4/6/2558 Health and Welfare เกาหลีไต้ สรุป มีผู้ติดเชื้อ MERS รวม 35 ราย เสียชีวิต2ราย

5/6/2558 เกาหลีใต้ รายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มรายที่ 3-4

12/6/2558 ECDC รายงาน

พบผู้ป่วย 1,307 ราย เสียชีวิต 500 ราย โดยพบรายงานผู้ป่วยทั้งหมด จาก 25 ประเทศ ดังนี้ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ จอร์แดน โอมาน คูเวต อียิปต์ เยเมน เลบานอน อิหร่าน ตุรกี อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี กรีซ เนเธอร์แลนด์ ออสเตเรีย ตูนีเซีย แอลจีเรีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และจีน

18/6/2558 เกาหลีใต้ รายงานมีผู้ติดเชื้อแล้ว 165 ราย เสียชีวิต 23 ราย ผู้สังเกตอาการถูกแยกตัว 6,729 ราย

ถึอเป็นประเทศที่มี outbreak รุนแรงนอกซาอุดิอาระเบีย เนื่องจากช่วงแรกไม่มีมาตรการที่โปร่งใสและการตรวจจับที่ชัดเจน

ผู้ป่วยรายแรกกลับมาจากการเดินทางในตะวันออกกลาง 1 เดือนแล้วมีการติดเชื้อรักษาตัวที่ร.พ.เซนเมรี แล้วมีการติดเชื้อในผู้ป่วยห้องเดียวกัน

ได้discharge ออกจากร.พ.แล้วมีอาการต่อเนื่องไปรักษาต่ออีกหลายร.พ.แลัวกลับไปรักษาที่ร.พ.ซัมซุงที่มีห้องฉุกเฉินแออัดไปพักในห้องสังเกตุอาการ2วันก่อน admit เข้าร.พ. ทำให้มีการแพร่เชื้อติดต่อ

จากคนแรก 1 ราย ->ติดต่อไป 30 ->ไป 128 ->ลดลงเหลือ 15 ->ลดเหลือ 1 (23/5/2558)

อัตราตาย20% ยังไม่นับร่วมที่ยังป่วยนอนอยู่

ปกติแล้วเชื้อเข้าประเทศไหนแล้วจะถูกจำกัดหรือแพร่ต่อไป 1-2 คนเท่านั้นเนื่องจากอัตราการติดต่อระหว่างคนต่ำ ประมาณ 0.6-0.8 ราย

ติดยากกว่า SARS 5 เท่า

18/6/2558 ประกาศกระทรวงสาธารณสุขไทย ให้โรคเมอร์ส หรือโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง

เพิ่มในรายการ โรคติดต่ออันตราย เป็น โรคที่

18/6/2558 กระทรวงสาธารณสุขไทย ประกาศพบผู้ป่วยรายแรกชายชาวโมมาน อายุ 75 ปี เดินทางจากตะวันออกกลาง เพื่อรักษาโรคหัวใจที่รพ.เอกชน พบว่ามีอาการเหนื่อยหอบ ได้ส่งต่อไปที่รพ.บำราศนราดูร และตรวจเสมหะพบเชื้อ mers

กำลังเฝ้าติดตามลูกเรือ ผู้โดยสาร และเจ้าหน้าที่พยาบาลที่เกี่ยวข้อง

24/6/2558 เกาหลีใต้ พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 4 ราย รวมเป็น 179 ราย เสียชีวิตเท่าเดิม 27 ราย ยังถูกกักอยู่ 3100 คน

พบผู้ป่วยมากเป็นอันดับ 2 รองจากซาอุดิอาระเบีย

**

รวมจน.ผู้ติดเชื้อ 2,494 ราย เสียชีวิต 858 ราย

การติดต่อ

-จากผู้ป่วยที่ติดเชื้อ จากคนสู่คนที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย และ เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล

ส่วนจะติดต่อมาจากสัตว์หรือไม่ยังคงศึกษากันอยู่ ยังไม่มีการแพร่กระจายในชุมชน

-การติดต่อในโรงพยาบาลพบมากถึง 26% ของผู้ป่วยที่มีรายงาน

และพบ 12% ของผู้ป่วยทั้งหมดเป็นบุคลากรทางการแพทย์

-จากสัตว์สู่คน ช่วงแรกได้ทำการศึกษาหาในค้างคาวแต่ไม่พบ

แหล่งแพร่เชื้อ พบเชื้อในอูฐสามารถติดต่อสู่คนได้ทั้งจากสารคัดหลั่งหรือน้ำนม

(อูฐเหมือนกับอัลปาก้ามักมีนิสัยพ่นน้ำลายเมื่อไม่ชอบ)

11/11/2556 ซาอุดิอาระเบีย รายงานถึงพบเชื้อ corona virus ในอูฐ

พบเฉพาะในอูฐโหนกเดียว ไม่พบในอูฐสองโหนก ซึ่งมีเฉพาะในตะวันออกกลาง

อาจเป็นวงจรการติดต่อสู่คน พบได้ทั้งทางโพรงจมูกและช่องทวารหนัก

โดยพบเชื้อมากถึง 2/3 ในจมูกอูฐที่มีอายุน้อย

และพบ antibody ในเลือดอูฐต่อเชื้อนี้ในตัวอย่างเลือดอูฐที่่เก็บไว้เมื่อ 20 ปีก่อน บ่งถึงการระบาดในอูฐ

จากรายงานการติดต่อค่อนข้างยาก หากเผ้าระวังป้องกันอย่างดีก็ไม่มีปัญหา

แต่เนื่องจากอูฐเป็นสัตว์ใหญ่ทำลายยากดังนั้นเชื้อคงยังอยู่ตลอดไม่เหมือนกับนกหรือไก่

ซึ่งตามรายงานมักพบผู้ป่วยในซาอุดีอารเบียเฉลี่ยแล้ววันละ 1 คน

อายุที่พบ ที่มีรายงาน 2-83 ปี ส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ เด็กพบน้อยไม่ถึง 10 ราย

การติดเชื้อไวรัสมักรุนแรงในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก เช่น อีสุกใส ในผู้ใหญ่ หนักกว่าเด็ก เป็นต้น

ชายต่อหญิง 3.3:1 แต่ปัจจุบัน พบ 1:1

โรคร่วม พบว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อ 90-96% มักมีโรคประจำตัวอยู่เดิม ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจเรื้อรัง โรคไตเรื้อรัง

ระยะฟักตัว 10-14 วัน

อัตราป่วยตาย ช่วงแรกที่พบ 60-70% ปัจจุบัน 36%

อัตราการตายสัมพันธ์กับอายุ

อายุน้อยกว่า30 อัตราตาย = 0

อายุ 30-40 อัตราตาย = 5%

อายุ 50-60 อัตราตาย = 25%

อายุมากกว่า 60 อัตราตาย >30%

ยิ่งอายุมากมีโรคประจำตัวมากยิ่งมีอัตราตายสูง

ผู้ต้องสงสัย

ผู้มีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจรุนแรงเฉียบพลัน(Severe Acute Respiratory Infections (SARI)) หรือมีอาการปอดอักเสบ และเดินทางไปตะวันออกกลาง(เช่น ผู้แสวงบุญ เป็นต้น) หรือผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย

อาการและอาการแสดง

อาการหลักคือ ไข้ ไอ หอบ

ระบบทางเดินหายใจ(80-99%) ไข้ ไข้หนาวสั่น ไอ หายใจหอบ หายใจลำบาก เกือบทุกรายมีอาการปอดบวม

อาการอื่น(20-30%) ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ท้องร่วง อาเจียน ปวดท้อง พบบ่อย

พบน้อย มีผู้ป่วยบางรายไตวายเฉียบพลัน เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ เกิด DIC ได้

ประมาณ 50% เสียชีวิต

การตรวจทางห้องปฎิบัติการ

อาจพบ LDHสูง, AST สูง , thrombocytopenia, lymphopenia ได้

การวินิจฉัย

1.มีอาการทางเดินหายใจร่วมกับไข้มากกว่า 38 c

2.ร่วมกับมีรอยโรคที่ปอด(pneumonia หรือ ARDS)

3.ร่วมกับสัมผัสหรือใกล้ชิดผู้ป่วย หรือมีประวัติเดินทางไปตะวันออกกลาง

4.ร่วมการการส่งตรวจเชื้อไวรัส หรือตรวจแล้วไม่พบเชื้อตัวอื่นเลย

การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ

ใช้ viral transport media(VTM) ตัวเดียวกับที่เก็บในไข้หวัดใหญ่หรือไข้หวัดนก จาก nasopharyngeal หรือ throat swab

ส่งที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือ ศิริราชพยาบาล จะเริ่มตรวจโดย PCR เมื่อได้ผลบวก จะยืนยันด้วยการทำ Gene sequencing อีกครั้ง

VTM ขอได้ที่ฝ่ายไวรัสระบบทางเดินหายใจสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โทร. 02-9510000 ตอ 99210

การเก็บที่ดีให้เก็บ 2 specimen

1.จาก nasopharyngeal swab

2.จาก throat swab

โดยยืนด้านข้างคนไข้ ห้ามเข้าด้านหน้า

ต้องมีคนเก็บ2คน คนหนึ่งคนเก็บ คนหนึ่งเป็นคนเตรียมอุปกรณ์ รับใส่โดยไม่ให้คนเก็บมาแตะที่บรรจุ

ปัจจัยเสี่ยง

ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง สูบบุหรี่จัด ให้ยาเคมีบำบัด อายุมาก

การป้องกัน

1.ล้างมือให้สะอาด ไม่คลุกคลีผู้ป่วย ไอจามใช้กระดาษทิชชูทิ้งถังขยะ ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อเข้าที่ชุมชนหรือกลุ่มเสี่ยง และแจ้งแพทย์หากเดินทางไปตะวันออกกลาง

2.เจ้าหน้าที่ต้องสวมชุดคลุม ใส่หน้ากาก N-65 หรือ N-100 เหมือนการดูแลผู้ป่วยโรค SARS

3.การป้องกันในโรงพยาบาลต้องป้องกันทั้ง airborne, droplet และ contact precautions

Ref.

http://beid.ddc.moph.go.th/th_2011/upload/files/FQA_MERS_19Nov13.pdf

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%89%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87

http://beid.ddc.moph.go.th/th_2011/upload/files/Advice_moph.pdf

http://beid.ddc.moph.go.th/th_2011/upload/files/CPG%20MERS-CoV%2030%20oct13.pdf

http://beid.ddc.moph.go.th/th_2011/upload/files/labcorona.pdf การส่งตรวจเชื้อ

http://beid.ddc.moph.go.th/th_2011/upload/files/ic6_b_10.pdf การป้องกัน

http://www.cdc-pkt.org/FilePresent/Re-Emerging300756/30%20JULY%202013%20MERS-CoV%20Phuket.ppt

http://beid.ddc.moph.go.th/th_2011/news.php?items=668

http://blpd.dss.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=404%3Ascience-update&catid=68%3Ablpdenewsletter032557&Itemid=555

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000043969

http://www.dailynewsegypt.com/2014/04/28/timeline-deadly-mers-virus/

http://beid.ddc.moph.go.th/beid_2014/th/diseases/271