Hemifacial spasm
Hemifacial spasm คือ ภาวะกล้ามเนื้อใบหน้าข้างหนึ่งกระตุ้นครึ่งซีก (CN7)
Qx Dx : กล้ามเนื้อรอบตามุมปากกระตุกเป็นมากขึ้นเรื่อยๆพบในวัยกลางคนขึ้นไป
อายุที่พบ
มักมากกว่า 45 ปี วัยกลางคนขึ้นไป ทั้งหญิงมากกว่าชาย 2 เท่า
สาเหตุ
ส่วนใหญ่แล้วไม่ทราบสาเหตุ
ปัจจุบันเชื่อว่า เส้นเลือดในสมองไปกดเบียดเส้นประสาท facial nerve(CN7)
ทำให้เส้นประสาทถูกกระตุ้นตลอดเวลา
สาเหตุอื่นที่พบได้แก่ เนื้องอก อุบัติเหตุ เป็นต้น
สาเหตุคล้ายกับ trigeminal neuralgia(CN5)
ปัจจัยเสี่ยง
ไม่มีชัดเจน แต่พบในผู้สูงอายุ ผู้หญิง ผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูง พบมากกว่า
อาการ
ตำแหน่ง
-กล้ามเนื้อที่เลี้ยงด้วยเส้นประสาทที่ 7 เปลือกตา มุมปาก มักเป็นข้างไดข้างหนึ่ง
-เปลือกตา รอบตา
-มุมปาก หรือแก้ม
ส่วนใหญ่เริ่มต้นกระตุกที่กล้ามเนื่อรอบตาก่อน(orbicularis oculi) เมื่อเป็นมากขึ้น มักจะกระจายไปที่แก้มและกล้ามเนื้อรอบปาก(orbicularis oris) อาจมีการหดเกร็ง และมุมปากถูกรั้งขึ้นไป
การกระตุก
-มีอาการกระตุก(contractions) ขึ้นเอง เป็นๆ หายๆ(intermittent) ไม่สม่ำเสมอ ไม่เป็นจังหวะ
-การกระตุกมักเป็นแบบ clonic คือ กระตุกอย่างเดียว และ เมื่อเป็นมากขึ้นอาจเป็นแบบ clonic และ tonic spasm กระตุกแล้วมีการหดเกร็งร่วมด้วย
-บางรายมี facial synkinesia ร่วมด้วย เช่น ตั้งใจยิ้มแต่ทำให้ตากระตุก เป็นต้น ดังเช่นกรณีเส้นประสาทงอกเข้าผิดตำแหน่ง
-ส่วนใหญ่ไม่มีอาการปวด
การดำเนินโรค
-อาการเป็นมากขึ้น ทั้งความถี่และรุนแรง อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่บางรายเป็นรวดเร็วรุนแรง
ผู้ป่วยไม่สามารถบังคับให้กระตุกหรือหยุดกระตุกได้
ปัจจัยกระตุ้น
อาจถูกกระตุ้นด้วยการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า ยิ้ม พูด ใช้สายตา แม้นอนหลับก็เป็นได้ ความเครียด ตื่นเต้น ออกสังคม ทำให้เป็นมากขึ้นได้
การตรวจร่างกาย
ตรวจร่างกายระบบประสาท อื่นๆ ปกติ
การจำแนกความรุนแรงของโรค อาจแบ่งได้ 3 กลุ่มดังนี้
1.รุนแรงน้อย
อาการกระตุกเฉพาะกล้ามเนื้อรอบตาทำให้มี eyelid contraction เท่านั้น eyelid ไม่ปิด
2.รุนแรงปานกลาง
กระตุกที่กล้ามเนื้อรอบตา ทำให้ eyelid ปิด 10-50% ของ palpebral fissure
หรือมีการกระตุกของตาและปากพร้อมกัน
3.รุนแรงมาก
กระตุกที่กล้ามเนื้อรอบตา eyelid ปิด 50-100% ของ palpebral fissure หรือมีการกระตุกแบบ tonic spasm
การรักษา
1.การผ่าตัด microvascular decompression หาย 90% แผลผ่าตัดอยู่บริเวณหลังหู
เช่น การนำ sponge วางกั้นแยกเส้นประสาทกับเส้นเลือดออกจากกัน เป็นต้น
ข้อเสีย การได้ยินเสีย(CN8 ติดกับ CN7) หรือกล้ามเนื่อหน้าอ่อนแรง
2.Botulinum toxin โดยการฉีดโบทอกซ์ โดย neuromed หรือ eye
ฉีดที่กล้ามเนื้อที่มีการกระตุกลดอาการได้ ออกฤทธิ์ 2-3 วัน ได้ผลนาน 3-4 เดือน
การใช้ยา botulinum toxin ควรใช้ในกรณีที่รับประทานยาไม่ได้ผลและควรมีความรุนแรงในกลุ่มที่ 2 ขึ้นไป
ขนาดยาที่ใช้
Dysport 60-120 unit ต่อ 1 ครั้งการรักษา
Botox 15-30 unit ต่อ 1 ครั้งการรักษา
3.ยา benzodiazepine เช่น lorazepam อาจช่วยลดการกระตุกได้ ไม่ได้เป็นยารักษาโดยตรงแต่ช่วยลดความกังวล
ยาที่ใช้รักษา นิยม 2 ตัว
-Clonazepam0.5mg,2mg hs
ผลข้างเคียง ง่วง ซึม กินสักระยะจะดีขึ้น
-Carbamazepine
Sig. 200mg 0.5tab tidpc 1 m
ผลข้างเคียง ง่วง คล้ายคนเมา กินสักระยะจะดีขึ้น เม็ดเลือดขาวต่ำได้
หากกินยาไม่ดีขึ้น 2-3 เดือนให้เปลี่ยนการรักษาเป็นฉีดหรือผ่าตัด
-หรือ ให้พร้อมกัน 2 ตัว
Carbamazepine200mg 0.5tab tidpc 1 m กับ
Diazepam 2 mg hs 1m
การพยากรณ์โรค
-หายขาดโดยการผ่าตัดอย่างเดียว หาย 90%
-โรคเรื้อรังไม่หายขาด ไม่อันตราย แต่อาจเป็นมากขึ้นกระทบคุณภาพชีวิตได้
และหากกินไม่ดี ฉีดไม่หาย ก็ต้องผ่าตัด
Ref
1.http://en.wikipedia.org/wiki/Synkinesis
2.http://www.drmethee.com/Hemifacial%20spasm.html
3.http://medinfo.psu.ac.th/smj2/smj25_3/pdf25_3/05suwanna.pdf
4.hemifacial spasm จาก KKU.ac.th