CN6 Palsy
CN 6 Palsy : ตาเหล่เข้าใน ในข้างที่เป็น
เส้นประสาทสมองเส้นที่ 3, 4 และ 6
(3 - oculomotor nerve, 4- trochlear nerve, 6 - abducen nerve)
ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการขยับลูกตาแต่ละข้าง
เส้นประสาทสมองเส้นที่ 6 (abducen nerve) โดยเส้นประสาทนี้ทอดออกมาจากก้านสมอง (brain stem) ทางด้านหน้า ผ่านไปในบริเวณฐานกะโหลกศีรษะ แล้วผ่านเข้าไปภายในเบ้าตา และไปควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ lateral rectus muscle
กล้ามเนื้อ lateral rectus muscle นี้เกาะอยู่ที่ด้านข้างของลูกตา ทำหน้าที่ในการขยับลูกตาออกไปด้านข้าง ดังนั้นความผิดปกติของเส้นประสาทสมองเส้นที่ 6 จะทำให้ตามองออกไปด้านข้างไม่ได้
ทำให้ ตาเหล่เข้าใน
อาการและอาการแสดง
ตาเอียงเข้า (esotropia) ตาข้างที่เป็นโรคจะหันเข้าหาจมูก
มองภาพซ้อน (diplopia) โดยเฉพาะเมื่อมองไปทางด้านข้าง
ตาฝ่อ (ptosis) เปลือกตาตก
ตาเหล่ (strabismus) กล้ามเนื้อตาทำงานไม่ประสานกัน
ปวดศีรษะ
คลื่นไส้ อาเจียน
สาเหตุของเส้นประสาทสมองเส้นที่ 6 ทำงานผิดปกติ มีดังนี้
เส้นประสาทขาดเลือด – เกิดจากเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กที่ไปหล่อเลี้ยงเส้นประสาทสมองเส้นที่ 6 อุดตันทำให้เส้นประสาทขาดเลือดไปเลี้ยงและทำงานไม่ได้ เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด มักพบในผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจขาดเลือด ไขมันในเลือดสูง สูบบุหรี่ อาการมักจะเกิดขึ้นโดยฉับพลัน และอาการมักจะคงที่ไม่ลุกลาม การรักษาโดย ควบคุมโรคประจำตัวให้ดี งดสูบบุหรี่ อาการจะค่อยๆดีขึ้นอย่างช้าๆ ภายใน 3-4 เดือน
เส้นประสาทถูกกดทับ – เช่น มีก้อนเนื้องอก หรือมีการอักเสบของเนื้อเยื่อบริเวณข้างเคียงแล้วบวมมากดทับ อาการในกลุ่มนี้จะค่อยๆเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ การรักษาในกลุ่มนี้ขึ้นกับสาเหตุที่มากดทับ เช่น การผ่าตัดเอาเนื้องอกออก หรือการให้ยาลดการอักเสบ
อุบัติเหตุ – อุบัติเหตุที่มีการกระแทกศีรษะหรือเบ้าตา จะทำให้เกิดการบาดเจ็บที่เส้นประสาทโดยตรง หรือทำให้เกิดการดึงรั้งตัวเส้นประสาทขณะถูกกระแทก อาการตาเหล่และภาพซ้อนมักเกิดทันทีหลังจากอุบัติเหตุ ผู้ป่วยกลุ่มนี้อาการจะค่อยๆฟื้นตัวได้บ้าง แต่มักจะไม่กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ซึ่งอาจจะต้องพิจารณาใส่แว่นปริซึม(prism) หรือผ่าตัดแก้ไขตาเหล่
ความดันในกะโหลกศีรษะขึ้นสูง – เช่น มีก้อนเนื้องอกในสมอง (ที่ไม่ได้กดเบียดเส้นประสาท) ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง เส้นเลือดดำในสมองอุดตัน ทำให้ความดันภายในกะโหลกศีรษะขึ้นสูง จนมากดเส้นประสาทสมองเส้นที่ 6 ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีอาการเป็นมากขึ้นอย่างช้าๆ การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุที่เป็น
ภาวะปวดศีรษะไมเกรน – การปวดศีรษะไมเกรนทำให้เส้นประสาทสมองเส้นที่ 3,4 และ 6 ทำงานผิดปกติได้ โดยยังไม่ทราบกลไกอย่างชัดเจน อาการมักจะเป็นหลังจากเกิดอาการปวดศีรษะค่อนข้างเร็ว และมักจะหายเป็นปกติได้ใน 2 – 3 สัปดาห์
เป็นตั้งแต่แรกเกิด – จะพบในกลุ่มอาการบางอย่าง เช่น Duane retraction syndrome, Mobius syndrome เป็นต้น อาการจะคงที่ตลอดตั้งแต่แรกเกิด ผู้ป่วยกลุ่มนี้รักษาที่สาเหตุไม่ได้ การรักษาจะเน้นการแก้ปัญหาให้ผู้ป่วย เช่น ผ่าตัดแก้ไขตาเหล่
ความผิดปกติที่ตัวกล้ามเนื้อ lateral rectus muscle เองก็ทำให้มีอาการเหมือนเส้นประสาทสมองเส้นที่ 6 ผิดปกติได้ เช่น โรค myasthenia gravis, การอักเสบที่ตัวกล้ามเนื้อจากเหตุต่างๆ
ref.
https://eyewiki.aao.org/Abducens_Nerve_Palsy