Ebola
Ebola hemorrhagic disease
"ผมไม่กล้วเชื้อไวรัสอีโบล่าแม้แต่น้อย ผมไม่เคยกังวลว่ามันอาจคร่าชีวิตผมในสักวันหนึ่ง
ตราบไดที่ผมสามารถใช้วิชาชีพแพทย์ที่ผมมีติดตัวในการช่วยชีวิตผู้อื่น"
ส่วนหนึ่งจากคำให้สัมภาษณ์เดือนมิถุนายน 2557
ของ นายแพทย์ชีคห์ อูมาร์ ข่าน
ขณะนี้ 24 กรกฎาคม 2557 นายแพทย์ท่านนี้ได้รับเชื้ออีโบล่าอาการอยู่ในภาวะโคม่า
และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
มีพยาบาลอย่างน้อย 3 รายที่ทำงานกับนายแพทย์ท่านนี้ได้เสียชีวิตจากการติดเชื้ออีโบล่า
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000083642
Ebola virus disease หรือ Ebola hemorrhagic fever
คือ โรคไข้เลือดออกจากเชื้ออีโบล่า หรือไข้ตกเลือด
โดยผู้ติดเชื้อจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ เจ็บคอ มีผื่นและ มีเลือดออกในอวัยวะภายใน ช็อคเสียชีวิต
ความสำคัญ
ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ มีอัตราตายสูง 30-80%
ระบาดในแอฟริกา ส่วนในไทยยังไม่มีรายงาน
แต่ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัวเดินทางโดยเครื่องบินและอาจติดต่อข้ามประเทศได้
และการติดต่อก็สามารถผ่านทางเลือด และสารคัดหลั่งต่างๆได้
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อ Ebola virus เป็น RNA virus ใน family Faloviridae (filo แปลว่า ยาวๆเหมือนเส้นด้าย) จีนัสFilovirus ซึ่งมี Marburgvirus รวมอยู่ด้วย ในจีนัสเดียวกัน ทำให้เกิดอาการไข้เลือดออกคล้ายกัน โดยโรคมาร์บูร์กเคยพบระบาดในเยอรมันนี,ยูโกสลาเวีย,ยูกันด้า,ซิมบับเว,เคนยา
ภาพ : Ebola virus
ต่างกับ Dengue hemorrhagic fever ที่เกิดจากเชื้อ Dengue fever virus เป็น RNA virus แต่อยู่ใน familyFlaviviridae genus Flavivius ซึ่งเชื้อในจีนัสนี้มีหลายตัวเช่น West Nile virus, yellow virus, Japanese encephalitis virus, tick-borne encephalitis virus เป็นต้น ซึ่งจะติดต่อผ่านทางยุง หรือ พวกหมัดเห็บไร จึงเรียกเป็น arbovirus แต่ Ebola ไม่ใช่
ภาพ: Dengue virus
ระบาดวิทยา
ยังไม่มีรายงานในไทย
พ.ศ.2519(1976) ระบาดในซูดานและซาอีร์(ปัจจุบันคือคองโก)
ประเทศที่มีการระบาด คองโก กาบอง ยูกานด้า แอฟริกาใต้ ไอวอรี่โค้ส ที่ระบาดบ่อยสุดคือ คองโก
ต้องดูในแต่ละปีด้วยจะมีระบาดในประเทศต่างๆในกลุ่มดังกล่าว เช่น
2001-2003 คองโก 2004 ซูดาน 2005 คองโก
2007 คองโก เสียชีวิต 187 ราย
2012 ยูกันดา เสียชีวิต 17 ราย
2014 ระบาดในกินี ระบาดติดเชื้อมากกว่าร้อยราย เสียชีวิตถึง 90% และระบาดไปประเทศไกล้เคียงทั้งมาลี ไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน
20/7/2014 ระบาดในแอฟริกาตะวันตก-กินี,เซียราลีโอน และไลบีเรีย
การระบาดครั้งนี้มีผู้ติดเชื้อ 1093 ราย เสียชีวิตแล้ว 670 ราย
29/7/2014 นายแพทย์เคนท์ แบรนท์ลีชาวอเมริกัน ติดเชื้อจากการรักษาผู้ป่วยอีโบล่าในไลบีเรีย
ก่อนนี้นพ.ซามูเอล บริสเบน ชาวไลบีเรียเสียชีวิตจากการติดเชื้อ
นพ.ซีค อูมาร์ คาห์น ติดเชื้ออีโบล่าจากการดูแลรักษาผู้ป่วยเช่นกัน
20/8/2014 ไลบีเรียประกาศเคอร์ฟิว ที่เขตเวสต์พอยต์ กรุงมอนโรเวีย
22/8/2014 แพทย์ชาวอเมริกัน 2 ราย ระหว่างติดจากไปช่วยรักษาผู้ป่วยในไลบีเรีย
รอดจากการติดเชื้อหลังถูกส่งกลับมารักษาที่ประเทศสหรัฐ โดยได้เซรุ่มทดลอง Zmapp
25/8/2014 เจ้าหน้าที่ WHO ติดเชื้อเป็นรายแรกหลังเป็นพยาบาลอาสาสมัครช่วยดูแลผู้ป่วย
27/8/2014 ไนจีเรียประกาศสั่งปิดโรงเรียนทุกแห่ง ในจีเรียพบผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย
30/8/2014 เซเนกัล เป็นประเทศทีี่ 5 ในแอฟริกาที่พบผู้ติดเชื้ออีโบลาเป็นรายแรก
8/9/2014 มีแพทย์ของ WHO รายที่ 2 ที่ติดเชื้ออีโบลา
9/9/2014 วิกฤตหนักวันเดียวยอดผู้เสียชีวิต 200 ราย ยอดสะสม 2,296 ราย จากผู้ติดเชิ้อทั้งหมด 4,239 ราย
เซียร์ราลีโอนประกาศปิดประเทศ 4 วัน
ไลบีเรีย พบว่า ร้อยละ 60 ของผู้ติดเชื้อหรือเสียชีวิต เกิดขึ้นแค่ภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
กินิและเซียร์ราลีโอน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 39% และ 29% ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ถือว่าจัดการได้ดีกว่า
พบว่าเจ้าหน้าที่การแพทย์ติดเชื้อ 152 คน เสียชีวิต 79 คน
ไนจีเรียพบ 21 คน
เซแนกัล พบผู้ติดเชื้อใหม่ 2 คน
ระยะฟักตัว 2-21 วัน
ดังนั้นผู้ติดเชื้ออาจบินข้ามประเทศแพร่ระบาดในประเทศอื่นได้
แหล่งโรคหรือพาหะนำโรค
ไม่ทราบเลย แต่เคยมีการแยกเชื้อที่มีลักษณะคล้ายกันได้จากลิง
การแพร่เชื้อ
สัมผัสกับเลือด สารคัดหลั่ง อวัยวะ น้ำอสุจิผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัส
สำคัญคือ การแพร่เชื้อในโรงพยาบาลพบได้บ่อย และผู้ที่จัดการศพในขั้นตอนต่างๆ จากเข็มฉีดยาที่ใช้ร่วมกัน
อาการ ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะมาก เจ็บคอตาพร่ามัว อาเจียน ท้องเดิน ต่อมามีผื่นแบบ maculopapular rash
และมีเลือดออกในอวัยวะภายในทั้งตับไตกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้ช็อคเสียชีวิตได้ ใช้เวลา 4-10 วัน
อัตราตาย 30-80% ในผู้ป่วยที่มีอาการชัดเจนพบอัตราตาย 50-90%
การวินิจฉัย
1.RT-PCR จากตัวอย่างโดยตรง จากชิ้นเนื้ออวัยวะต่างๆ หรือส่องตรวจโดยตรงจาก กล้องจุลทรรณศ์อิเล็กตรอน
2.แยกเชื้อไวรัสในเซลล์เพาะเลี้ยงจากเลือดในระยะไข้ ไม่เกิน 8 วัน หลังจากนี้จะแยกไม่ได้
3.Ab IgM,IgG โดย ELISA,RF
*การตรวจสอบเชื้อนี้ถือเป็น กลุ่มอันตรายทางชีวภาพสูงสุด*
การป้องกัน
1.ผู้ป่วยและผู้ต้องสงสัย ต้องมีการกักกันโรคอย่างเข้มงวด แยกของทุกอย่าง
2.ผู้สัมผัสโรค วัดไข้วันละ 2 ครั้ง หากมีไข้ให้รับไว้ในโรงพยาบาลแยกห้องทันที เฝ้าระวังเป็นเวลา 3 สัปดาห์นับจากวันสัมผัส
3.ผู้เดินทางไปประเทศที่มีการระบาด ต้องสำรวจตัวเองเรื่องไข้ รีบพบแพทย์หากมีไข้ และแจ้งแพทย์ถึงการเดินทาง
4.สถานพยาบาลที่รับชาวต่างประเทศ ในรายที่มีไข้ควรสอบถามเรื่องการเดินทางจากแหล่งระบาด
การรักษา ยังไม่มีวิธีทางรักษาแบบจำเพาะ และไม่มีวัคซีนป้องกัน
ref.
http://www.thailabonline.com/sec8ebola.htm
http://www.boe.moph.go.th/fact/Ebola.htm
http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=9718
http://en.wikipedia.org/wiki/Ebola
http://en.wikipedia.org/wiki/Dengue_fever
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000037946
http://visualscience.ru/en/projects/ebola/poster/ poster Ebola virus