Epitaxis
Epitaxis Treatment
การรักษาเลือดกำเดาไหล
ภาวะเลือดกําเดาไหล คือ ภาวะที่มีเลือดออกทางจมูกเกิดจากเส้นเลือดฝอยภายในโพรงจมูกแตก ทําให้มีเลือดไหลจากจมูกอาจออกเพียงข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้
ส่วนมากไหลออกทางด้านหน้าออกจมูก อาจไหลจากด้านหน้าไหลลงส่วนหลัง ในกรณีที่ไหลจากด้านหลังจะไหลลงคอ ภาวะเลือดกำเดาไหลพบได้ทุกเพศทุกอายุ ทั้งเพศหญิงและเพศชาย เลือดกำเดาอาจออกปริมาณไม่มาก หรือออกครั้งละมาก ๆ ออกทั้งทางด้านหน้าและไหลลงคอ เลือดที่ออกอาจหยุดได้เองชั่วคราว แต่มักจะออกซ้ำถ้าไม่ได้รับการแก้ไขที่สาเหตุ
สาเหตุ
ของเลือดกำเดาในผู้ใหญ่มักสัมพันธ์กับภาวะความดันโลหิตสูง
สาเหตุทำให้เกิดกำเดาไหล ได้แก่
1.การระคายเคืองในเยื่อบุโพรงจมูก เป็นแผลภายในโพรงจมูกและผนังกั้นจมูก
2.การอักเสบติดเชื้อของโพรงจมูกและไซนัส
3.ได้รับอุบัติเหตุบริเวณจมูก
4.เนื้องอกหรือมะเร็งบริเวณโพรงจมูกและไซนัส
5.โรคเลือดและความผิดปกติทางกรรมพันธุ์
การรักษา
การรักษาภาวะเลือดกำเดาไหลตามมาตรฐานที่ใช้กัน คือ
การแพคจมูกโดยใช้ผ้าก๊อซอัดเป็นชั้น ๆ ในช่องจมูก (Anterior Posterior Nasal Packing) เป็นเวลาประมาณ 3-5 วัน
วิธีนี้แม้ว่าจะสามารถทำให้เลือดหยุดได้ แต่อาจทำให้ผู้ป่วยมีปัญหาเรื่องการหายใจ นำไปสู่การมีออกซิเจนในเลือดต่ำ ซึ่งต้องงระวังเป็นพิเศษในผู้ป่วยสูงอายุ หรือมีโรคหัวใจขาดเลือดอยู่แล้ว นอกจากนี้ อาจเกิดภาวะติดเชื้อแทรกซ้อนในช่องจมูกได้
การรักษาภาวะเลือดกำเดาไหลในผู้ใหญ่
โดยแก้ที่สาเหตุโดยตรงหากสามารถทำได้
ทำโดยการผ่าตัดโดยใช้กล้องขนาดเล็กเพื่อช่วยในการเข้าไปผูกเส้นเลือดที่มีเลือดออก หากได้ผลจะทำให้เลือดหยุดทันที ไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าอุดในช่องจมูก ผู้ป่วยหายใจและรับประทานอาหารได้ตามปกติ และลดระยะเวลาการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลให้สั้นลง การรักษาด้วยวิธีนี้จำเป้นต้องอาศัยเครื่องมือพิเศษ และแพทย์ที่ได้รับการฝึกฝนมาโดยเฉพาะเท่านั้น
การรักษาเลือดกำเดาไหลหากพบจุดเลือดออก แก้ไขสาเหตุของเลือดกำเดาได้ จำเป็นต้องจัดการที่สาเหตุ แต่หากไม่พบสาเหตุ และมีเลือดออกปริมาณมาก การทำการห้ามเลือดที่ออกด้วยการทำ Anterior Posterior Nasal Packing ในส่วนด้านหน้า หรือด้านหลังในส่วนที่มีเลือดออก ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อป้องกันการเสียเลือดอย่างต่อเนื่อง
จากการรวบรวมข้อมูลเชิงประจักษ์ในฐานข้อมูล Pubmed
จนถึงวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 พบข้อมูลระดับ Systematic review
ที่สัมพันธ์กับการรักษาภาวะเลือดกำเดาไหลดังนี้
1)การรักษาภาวะเลือดกำเดาไหล หากสามารถตรวจพบจุดเลือดออกได้
การใช้จี้ไฟฟ้า(cauterization)เพื่อหยุดห้ามเลือด สามารถแก้ไขสาเหตุของภาวะเลือดกำเดาและลดระยะเวลาการนอนโรงพยาบาลได้ ซึ่งดีกว่าการใช้สารเคมีเพื่อห้ามเลือด
2)ภาวะเลือดกำเดาไหลที่ควบคุมยาก มักมีภาวะความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยกระตุ้น
การควบคุมภาวะความดันโลหิตสูงจึงช่วยให้ควบคุมภาวะเลือดกำเดาได้ดีขึ้น
3)การใช้ยาTransamic acid ช่วยหยุดห้ามเลือดกำเดาได้
โดยสามารถใช้ได้ทั้งชนิดฉีดและชนิดใช้เฉพาะที่
4)การห้ามเลือดในกรณีที่ไม่เห็นจุดเลือดออกที่ชัดเจนการห้ามเลือด
โดยการแพคจมูก Anterior Posterior Nasal Packing ตามตำแหน่งที่เลือดออก
ทางด้านหน้าเพียงอย่างเดียว หรือ ด้านหน้าร่วมกับด้านหลัง
โดยจำเป็นต้องแพคจมูกไว้อย่างน้อย 3-5 วัน
การให้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการเกิดภาวะ toxic shock syndrome จึงเป็นสิ่งจำเป็น
กล่าวโดยสรุป
การรักษาเลือดกำเดาไหล โดยทำการหาจุดเลือดออกและจี้ห้ามเลือดในตำแหน่งต้นเหตุดีที่สุด
แต่หากไม่สามารถเห็นตำแหน่งที่ชัดเจนการทำการแพคจมูกเพื่อห้ามเลือดเป็นสิ่งจำเป็น
การใช้ยาห้ามเลือด รักษาปัจจัยกระตุ้น เช่น
รักษาภาวะความดันโลหิตสูง แก้ไขตามสาเหตุของโรค และการหยุดห้ามเลือดอย่างถูกต้อง ช่วยป้องกันการเสียเลือดในผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี
Reference
1.Joseph J et al , Tranexamic acid for patients with nasal haemorrhage (epistaxis).Cochrane Database Syst Rev. 2018 Dec 31;12:CD004328. doi: 10.1002/14651858.CD004328.pub3.
2. Kamhieh Y et al, Tranexamic acid in epistaxis: a systematic review. Clin Otolaryngol. 2016 Dec;41(6):771-776. doi: 10.1111/coa.12645. Epub 2016 Mar 18. Review.
3. Khan M et al, Initial assessment in the management of adult epistaxis: systematic review.J Laryngol Otol. 2017 Dec;131(12):1035-1055. doi: 10.1017/S0022215117002031. Review.
4. Lange JL et al, Are prophylactic systemic antibiotics necessary with nasal packing? A systematic review.
Am J Rhinol Allergy. 2017 Jul 1;31(4):240-247. doi: 10.2500/ajra.2017.31.4454. Review.
5. Lange JL et al , Are prophylactic systemic antibiotics necessary with nasal packing? A systematic review.
Am J Rhinol Allergy. 2017 Jul 1;31(4):240-247. doi: 10.2500/ajra.2017.31.4454. Review.