SCP-2406

SCP-2406 (26 พฤศจิกายน 2558)

ระดับวัตถุ Safe

มาตรการกักกันพิเศษ

ได้สร้างศูนย์เฉพาะหน้า 31 ไว้โดยรอบ SCP-2406 และใช้หน้าฉากว่าเป็นอาคารทหารของคาซัคสถาน การทำงานโดยตรงกับSCP-2406นั้นจะต้องใช้ชุดป้องกันแบบAเสมอและต้องทำการกำจัดสิ่งปนเปื้อนเมื่อออกมา จะต้องตั้งเขตรักษาความปลอดภัยพร้อมกับให้ยามติดอาวุธประจำการตอดเวลาเพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต การปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับ SCP-2406-1นั้นจะต้องได้รับอนุญาตจากผู้บัญชาการศูนย์

ลักษณะ

SCP-2406ป็นหุ่นกลไกอัตโนมัติ สูง 93 เมตรและหนักประมาณ 210 ตัน จากการศึกษานั้นชี้ว่าSCP-2406ไม่มีสำนึกและต้องการผู้ใช้งานอย่างน้อยหกคนเพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง ตามสมมุติฐานนั้นการบังคับSCP-2406จะใช้วาล์วและคันโยกที่แตกกต่างกัน 160 อันในตัวมัน ส่วนแขนขานั้นบังคับโดยการใช้ลูกสูบลม ไฮโดรลิค กับกลไกเฟืองลาน และใช้พลังงานจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ซึ่งอยู่ในส่วนลำตัวของมัน

SCP-2406นั้นถูกค้นพบเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 1985 ในทะเลทรายอารัลคัมซึ่งเดิมนั้นเป็นแอ่งด้านตะวันออกของทะเลอารัล (อดีตทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีพื้นที่ 68,000 ตารางกิโลเมตร มันเล็กลงเรื่อยๆตั้งแต่ในช่วงทศวรรษ 1960 หลังจากที่บรรดาแม่น้ำซึ่งไหลมาสู่มันถูกเบี่ยงเบนทิศทางไปตามโครงการชลประทานของโซเวียต) ระหว่างการตามรอยระดับรังสีที่สูงผิดปกติในน้ำ ในตอนแรกนั้น GRU แผนก"P" ได้กักกัน SCP-2406 ก่อนจะส่งผ่านมาอยู่ในการควบคุมของสถาบันหลังการการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ถึงจะพบมันที่นั่น แต่เชื่อว่าSCP-2406นั้นถูกสร้างขึ้นที่ไหนสักแห่งในทะเลอีเจียน

SCP-2406นั้นส่วนใหญ่แล้วประกอบจากโลหะผสมซึ่งมีส่วนประกอบเป็นทองแดง 75-80 % ซิงค์ 15-20 % และอีกเล็กน้อยเป็นนิกเกิล ตะกั่ว และเหล็ก ทั้งหมดนั้นผสมกันเป็นออกมามีลักษณะคล้ายกับสำริด ภายนอกของลำตัวด้านหลังนั้นมีหมายเลข 9 ของอีเจียนสลักไว้ ซึ่งบ่งบอกว่า SCP-2406 นั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่สร้างขึ้นมาเป็นเอกเทศ แต่จนถึงทุกวันนี้ก็เป็นเพียงตัวเดียวที่สถาบันรู้ว่ามีอยู่ ภายนอกของลำตัวด้านหน้านั้นมีรอยสลักเป็นรูปฆ้อนกับทั่ง

ลำตัวด้านนอกของ SCP-2406

แขนขวานั้นติดตั้งหัวฉีดซึ่งเชื่อมต่อกับถังเก็บขนาด 20,800 ลิตร แม้ว่าในตอนที่พบนั้นถังนี้จะแห้งแล้ว การทดสอบทางเคมีก็พบยางไม้สน แนฟทา ปูนเผา แคลเซียมฟอสเฟต และกำมะถัน อยู่ข้างใน (มีการวิเคราะห์ว่าเป็นส่วนผสมของไฟกรีก ซึ่งเป็นอาวุธเพลิงที่เชื่อกันว่ามีการใช้ครั้งแรกประมาณปี 672) ส่วนแขนซ้ายนั้นดูเหมือนจะถูกฉีกออกจาก SCP-2406 และไม่ได้ค้นพบพร้อมกับ SCP-2406 ดูรายละเอียดใน ข้อมูลเพิ่มเติม

ได้นำโครงกระดูกมนุษย์จำนวนหกโครงออกจากภายในของ SCP-2406 ซึ่งการหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสีนั้นระบุเวลาเสียชีวิตไว้ประมาณ 1200–1000 BCE (1σ) ทั้งหมดนั้นสวมใส่ชุดเกราะซึ่งแม้โดนรวมๆจะมีลักษณะคล้ายกับแบบไมซิเนียนก็ทำจากวัสดุที่ไม่เคยใช้ในสงครามยุคโบราณมาก่อน คือโลหะผสมตะกั่วกับทองแดงซึ่งภายในนั้นบุด้วยใยหิน หมวกนั้นเป็นแบบปิดทั้งหัวซึ่งมีครอบแก้วเจือสีเขียวบังหน้า มีท่อซึ่งทำจากลำไส้แพะถ่ายเทอากาศจากภายนอกไปยังปากของผู้บังคับ วาล์วหมายเลข #136 นั้นจะทำให้ปล่อยน้ำออกมาในม่อนี้เป็นเวลาสั้นๆซึ่งทำให้ผู้ที่บังคับมันได้รับน้ำในขณะที่ควบคุม SCP-2406 มีท่อซึ่งมีระบบคล้ายๆกันเชื่อมต่อไปที่ส่วนหว่างขาซึ่งเชื่อว่าใช้ในการปล่อยปัสสาวะ

ในขณะนี้นั้น SCP-2406 อยู่ในสภาพหยุดทำงาน (แต่ตามสมมุติฐานแล้วควรจะซ่อมแซมได้) และมีร่องรอยความเสียหายอย่างหนักจากการต่อสู้ ส่วนหัว ลำตัว และขาซ้ายนั้นพบว่าถูกแทงด้วยกระดูกหนามแบบอินทรีย์วัตถุ กระดูกหนามเหล่านี้ดูเผินๆแล้วเหมือนจะทำจากไคทินและแม้จะมีโครงสร้างซึ่งคล้ายกับปะการังอย่างมากก็มีDNAของมนุษย์อยู่ด้วย เชื่อว่าวัตถุเหล่านี้เป็นอาวุธยิงจากสิ่งมีชีวิตผิดธรรมชาติซึ่งยังไม่ได้รับการระบุตัวตน รอยบากที่อยู่รอบๆส่วนลำตัวนั้นบ่งบอกถึงการถูกรัดด้วยอวัยวะขนาดใหญ่ซึ่งยืดหยุ่นและใช้ยึดจับได้ ในตอนแรกนั้นเชื่อว่าเป็นการกัดกร่อนตามธรรมชาติ แต่ผิวชั้นนอกของSCP-2406นั้นได้รับความเสียหายจากสสารกรดซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตผิดธรรมชาติซึ่งยังไม่ได้รับการระบุตัวตนที่กล่าวไปแล้ว

หลักฐานทางกายภาพนั้นชี้ว่าแกนของเตาปฏิกรณ์นั้นได้หลอมทะลุออกไปทางลำตัวด้านหลังลงไปในดินและยังคงเผาไหม้อยู่ด้วยอุณหภูมิมากกว่า 1200 องศาเซลเซียส ประมาณการว่าในขณะนี้มันอยู่ลึกลงไป 820 เมตรจากผิวดิน มีสมมุติฐานว่าในตอนที่เตาปฏิกรณ์ยังดีอยู่นั้นมันคงจะทำงานในลักษณะเดียวกับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชันธรรมชาติ (เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชันธรรมชาตินั้นก็คือแหล่งสะสมของยูเรเนียมซึ่งเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ต่อเนื่องในตัวเอง) และแตกต่างจากที่ใช้ในปัจจุบันอย่างชัดเจน เป็นไปได้ว่าผู้ที่สร้าง SCP-2406 นั้นรู้ถึงปรากฏการณ์ดังกล่าวและได้ทำกระบวนการเลียนแบบขึ้น

มีม้วนคัมภีร์จำนวนหนึ่งซึ่งเก็บกู้ได้จากกระบอกกันน้ำภายใน SCP-2406 ส่วนหใญ่นั้นดูเหมือนจะมีลักษณะทางศาสนาและเชื่อมโยงกับผู้ติดตามแห่งเมคาน ซึ่งเป็นบรรพบุรุษตามประวัติศาสตร์ของศาสนจักรแห่งเทพผู้แตกหักในปัจจุบัน คัมภีร์เหล่านี้เขียนด้วยข้อความเฉพาะตัวซึ่งแปลงมาจากภาษากรีกไมซีเนียน นักภาษาศาสตร์ของสถาบันต้องใช้เวลา 10 ปีจึงจะถอดความของข้อเขียนแบบนี้ได้ ("บังเอิญจริงๆ นี่อาจทำให้แปลอักษรไลเนียร์Aได้ก็ได้" -ดร. จูดิธ ลอว์) เอกสารเหล่านี้รวมถึงส่วนที่เป็นสำนวนหนึ่งของ หนังสือแห่งชิ้นส่วน บทที่12 ด้วย

คัมภีร์ I

และเมื่อตื่นขึ้นข้าก็กล่าวว่า "ข้าเข้าใจดีใน[เหตุผล/รูปแบบ]เกี่ยวกับของเหลวแห่ง[ศาสตร์/งานช่าง]ของโลหะนี้"

และผู้ซึ่งถือดาบก็กล่าวว่า "เจ้าทำลุล่วงถึงขั้นทั้งเจ็ดเบื้องล่างแล้ว"

และอีกผู้หนึ่งก็กล่าวขึ้นพร้อมกับที่ทำ[การร่อน/การรีด]ตะกั่วออกจากของเหลวทั้งมวล "งานนี้ได้[เสร็จสิ้น/สมบูรณ์]แล้ว"

แล้วเขาก็อ้าปากพูดขึ้น "ข้าคือบุรุษแห่งตะกั่ว และข้า[ทนทาน/ทรมาน]ต่อกำลังอันมิอาจทนทานได้"

จากนั้นข้าก็ตื่นจากความหวาดกลัว และค้นหาในตัวข้าเองถึงสาเหตุของข้อเท็จจริงนี้ และอีกครั้งหนึ่งที่ข้าระลึกและกล่าวกับตนเอง "ข้าเข้าใจดีว่าผู้หนึ่งต้อง[ร่อน/รีด]ตะกั่ว — แน่ล่ะว่านิมิตรนั้นเกี่ยวพันกับส่วนผสมของของเหลว"

และอีกครั้งหนึ่งที่ข้ารู้ถึงวิวรณ์และก็เป็นแท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์นั่นอีก และข้าก็เห็นนักบวชผู้หนึ่งสวมใส่เสื้อผ้าขาวกำลังฉลองจ่อความลี้ลับที่น่าสะพรึงเดียวกันนี้ แล้วข้าก็ถามว่า "นี่คือผู้ใด?"

แล้วเขาก็ตอบกับข้า "นี่คือแกรนด์คาร์ซิสต์("ตอนแรกนั้นคิดว่าแปลว่า'นักบวช' แต่ตอนนี้ฉันเชื่อว่าการแปลว่า'ผู้ควบคุม'จะถูกต้องกว่า" -ดร. จูดิธ ลอว์)แห่งอดีทัม เขาปราถนาจะเติมโลหิตสู่ร่าง เพื่อให้ดวงตานั้นกระจ่างชัด และให้สิ่งที่ตายลุกขึ้น"

คัมภีร์ II

เหล่ายักษาถูกสร้างขึ้นในรูปลักษณ์ของนาง

เหล่ายักษานั้นถูกสร้างขั้นเพื่อ[ปกป้อง/ควบคุม/กักกัน?]

ศัตรู: แกรนด์คาร์ซิสต์ไอออน ผู้ทรยศมนุษย์ ผู้ทำลายความก้าวหน้า ราชาจอมเวทแห่งอดีทัม

ดินแดนอันโดดเดี่ยว การสร้างสรรค์ที่ล้มเหลวและตกต่ำ สร้างขึ้นบน[ร่างกาย/เนื้อหนัง]ของทวยเทพที่ตายแล้ว

บนบัลลังค์แห่งความทะเยอทะยานอันดำมืดนั้น ศัตรูได้วางอุบาย ศัตรูนั้นมิใช่นักบวช พวกมันเป็นนายวานิช และพวกมันได้ขาย[โลก/สรรพสิ่ง/ทั้งหมด]ไป

เหล่ายักษาถูกสร้างขึ้นในรูปลักษณ์ของนาง

เหล่ายักษานั้นถูกสร้างขั้นเพื่อ[ปกป้อง/ควบคุม/กักกัน?]

เครื่องมืออันจาบจ้วงนั้นต้อง[แตกหัก/"ลบล้าง"]

ดื่มเลือดเงินของเมคานให้เต็มคอเถิด

ขอให้การสังเวยของนางจะไม่[สูญเปล่า?]

คัมภีร์ III

นี่คือพินัยกรรมสุดท้ายของหัวหน้าสตรียูพราเซีย ทูตผู้เปี่ยมศรัทธา ข้ารับใช้แห่งเมคาน

ข้ามิใช่นักรบ

แต่เหล่านักรบนั้นล้วนสิ้นแล้ว แตกหักไปเองต่อร่างของศัตรู

ศัตรูได้ดำเนินแผนของพวกมัน ราชาจอมเวทห้อมล้อมตัวเขาด้วยซากศพ การต่อสู้นั้นทำให้กองทัพของเขา[เติบโต/เพิ่มจำนวน]

อียิปต์ได้ล่าถอยจาก[โลก/พวกเรา/การติดต่อกับพวกเรา]

เหล่าฮิตไทต์ได้ตกลงสู่[ความวุ่นวาย/การขัดแย้ง]

เหล่าผู้สมคบคิดแห่ง[ครีต]("ฉันออกจะแน่ใจว่าคำๆนี้หมายถึงครีต อาจจะหมายถึงมิโนอันในความหมายกว้างๆก็ได้" -ดร. จูดิธ ลอว์)ได้สังเวยพวกตนเอง

อีเจียน("ฉันคิดว่านี่คงหมายถึงรัฐกรีกทั้งหมดในตอนนั้น" -ดร. จูดิธ ลอว์)ได้ตกต่ำลงสู่ความป่าเถื่อน

[นครแห่งเสาพันต้น]("พวกเขาหมายถึงอิรามเหรอ? แต่นั่นไม่น่าจะเป็นไปได้ ไม่มีหลักฐานถึงการคงอยู่ของอิรามแห่งเสาหรือการกล่าวถึงมันจนถึงศตวรรษที่ 7" -ดร.จูดิธ ลอว์)ได้สาบสูญไปตลอดกาล มันสาบสูญไปเสมอ

แม้เหล่าเดวาก็เริ่มดิ้นรนที่ศัตรูมาประชิดพรมแดน

ศูนย์กลางล้มพัง - เหล่าอาณาจักรล่มสลาย ความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว

แสงของเหตุผล[จวบดับ/อ่อนลง]

แต่เมคานได้สังเวยตัวนางเพื่อให้พวกเราได้เป็นอิสระ

เราไม่ยอมกลับไปสู่ความมืดนั้น เรายอมตายเสียดีกว่า

แต่การปิดล้อมที่เกียรอสก็ได้ชัยมาแล้ว เราต้องตีมันในยามที่เหล็กยังร้อน

ดังนั้น เราจึงยาตราไปยังไคธีรา - ณ จุดจบของทุกสิ่ง

เราได้ข้ามทะเลที่คล้ำดั่งเหล้าองุ่นนั่นมาแล้ว

เราได้เห็นหมู่บ้านที่มรณะแดงล้างผลาญ เราได้เห็นคนตาย ที่กำลังจะตาย และที่ไม่รู้จักตาย เราโยนผู้ถูกสาปนั้นลงสู่เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์

เราเข้าถึงดินแดนอันโดดเดี่ยวของเขา

และในมือซ้ายของเรา เราถือคำตอบของเราไว้

เราไม่อาจแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว - แต่เราจะชะลอรุ่งอรุณแห่งเนื้อหนังได้

ข้อมูลเพิ่มเติม: ในวันที่ 12 ธันวาคม 1998 ได้พบแขนซ้ายของ SCP-2406 ห่างออกไป 32 กิโลเมตรจากตัวมัน ร่องรอยของการกระแทกนั้นบ่งชี้ว่าสิ่งนี้ถูกเหวี่ยงไปที่นั่นไม่นานนักหลังจากที่มันถูกแยกออกจากลำตัวของ SCP-2406 แขนข้างนี้ติดตั้งสิ่งที่คาดว่าเป็นอาวุธซึ่งไม่ได้ทำขึ้นบนโลกและสร้าง ออกแบบ และมีความสามารถที่ผิดปกติ เนื่องจากลักษณะที่โดดเด่นจากส่วนอื่นๆของ SCP-2406 จึงได้ระบุอาวุธนี้เป็น SCP-2406-1

วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของ SCP-2406-1 นั้นยังไม่ทราบ เครื่องกลไกนั้นแปลกประหลาดเสียจนทำให้มันอยู่เหนือความรู้ของสถาบัน SCP-2406-1 นั้นบิดเบือนมิติเวลาในพื้นที่ใกล้เคียงของมันซึ่งอาจจะเป็นเพราะความเสียหาย มาตรวัดคานต์ตรวจวัดได้ที่มากกว่า 70 Hm ซึ่งเป็นหนึ่งในความเป็นไปได้ของการบิดเบือนสภาพความเป็นจริงในระดับสูงสุดเท่าที่เคยพบมา ถึงกระนั้นก็ไม่มีการบิดเบือนสภาพความเป็นจริงจริงๆที่สังเกตเห็นได้เลยนอกไปจากผลกระทบกับมิติเวลาเล็กน้อยของ SCP-2406-1

มีสมมุติฐานว่าการใช้งาน SCP-2406-1 นั้นจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากกับสภาพความเป็นจริงในพื้นที่ ในขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเคยมีการใช้งาน SCP-2406-1 ก่อนที่ SCP-2406 จะถูกทำลายหรือไม่ ห้ามมิให้บุคคลากรพยายามเปิดการทำงานของ SCP-2406-1 เว้นเสียแต่จะได้รับการอนุมัติจากผู้บัญชาการศูนย์