บทสัมภาษณ์ 882-1

Interview 882-1 (23 สิงหาคม 2556)

ผู้รับสัมภาษณ์ ริชาร์ด ไรท์

ผู้สัมภาษณ์ ดร.เกียร์

คำนำ ริชาร์ด ไรท์ ได้รับการระบุตัวว่าเป็นผู้รอดชีวิตจากชุมชนเล็กๆซึ่งอยู่ใกล้กับพื้นที่ที่พบSCP-882ในตอนแรก

<เริ่มการบันทึกเสียง [13:04]>

ดร.เกียร์: เชิญนั่งลง กรุณาบอกชื่อคุณเพื่อการบันทึกไว้ด้วย

นายไรท์: ริชาร์ด โลแกน ไรท์...แต่ใครๆก็เรียกผมว่า "ริช" น่ะ

ดร.เกียร์: ดี ขอบคุณ คุณไรท์ คุณจำวันที่พบเจ้าวัตถุนั้นครั้งแรกได้มั้ย?

นายไรท์: พระเจ้า เมื่อไหร่แล้ว...ผมไม่แน่ใจนะ มันผ่านมานานพอดูแล้ว...อัลเลนไปเจอมันก่อน เรือเขาไปเกยมันพังน่ะ เขาไปบอกเพื่อนคนอื่นๆอีกสองสามคน บอกว่าพวกเขาน่าจะเอามันไปขายแยกเป็นเศษเหล็กได้ พวกเราคิดว่ามันเป็นเศษที่หลุดออกจากเครื่องบินไม่ก็เรือขนส่ง

ดร.เกียร์: เครื่องนั่นเริ่มทำงานเมื่อไหร่?

นายไรท์: วันต่อมา ไอ้เครื่องริยำนั่นสลัดสนิมออกไปเหมือนหมาที่มีหมัดบนตัว เริ่มแรกก็หมุนช้าๆ แล้วก็เร็วขึ้น ตอนที่ผมไปเห็นมันนั่นมันก็วิ่งจี๋เลยล่ะ จิมมีพยายามเข้าไปใกล้ ดูว่ามันทำงานด้วยอะไร หรือทำไมมันถึงเงียบนัก แต่เขาลื่น ได้แผลฉีกมาเหนือตาขึ้นไปหน่อยแล้วก็รีบออกมาจากตรงนั้น อัลเลนดูเหม่อๆ เอาแต่ถามพวกเราว่าได้ยินเสียงอะไรมั้ย คุณนายปาร์คเกอร์คิดว่าส่วนหนึ่งของมันเป็นทอง แล้วก็พยายามใช้ท่อไปขัดมันไว้จะได้เอามันออกมา ท่อนั่นติดอย่างเร็วแล้วก็ฟาดเธอเข้าเต็มรักตอนที่เฟืองที่มันติดอยู่หมุนไปรอบๆ หลังจากนั้น ทุกคนก็อยู่ห่างๆมันไว้เป็นส่วนใหญ่

ดร.เกียร์: มีกรณีอื่นที่มีคนบาดเจ็บหรือได้ยินเสียงอีกมั้ย?

นายไรท์: ตอนแรกไม่มีนะ นั่นล่ะที่สำคัญ มันเงียบสุดๆ ไม่นานทุกคนก็เลยลืมมันไป อัลเลนเอามันไปเก็บไว้ในห้องเก็บของเก่าๆใกล้ท่าเรือ แล้วก็ไม่ค่อยมีใครไปแถวนั้นหรอก เขาชักจะดูโทรม บอกว่าเขานอนไม่หลับ บอกว่าเขาได้ยินเสียงเจ้าสิ่งนั้นเสียดสีกันตลอด หลวงพ่อแพทเริ่มแวะไปหา พยายามคุยกับเขา บอกเขาให้เอามันไปให้พ้นๆซะ เขาหายไปสองวัน แล้วอยู่ๆทั้งคู่ก็กลับมาพร้อมกัน ท่าทางมีความสุขเหมือนปลาได้น้ำ...(ผู้รับสัมภาษณ์เงียบไป ตัวสั่นเล็กน้อย)

ดร.เกียร์: ...คุณไรท์?

นายไรท์: (ผู้รับสัมภาษณ์ถูหน้าตัวเองแล้วส่ายหัว) ผมไม่เป็นไร ขอโทษที ทีนี้ก็หลวงพ่อแพทกับอัลเลนเจ้าเก่าโผล่มาอย่างสดชื่นราวกับดอกเดซี บอกว่าพวกเขาคิดออกแล้ว ตอนนั้นผมไม่ค่อยสนใจนัก ไอ้เรื่องนี้ทำให้ผมขนลุก ได้ยินเสียงจากห้องเก็บของ...หมุนบดอย่างเงียบๆ ไม่ว่ายังไง พวกเขาก็บอกว่าเจ้าของเวรนั่นมาจากที่อื่น...ว่าพระเจ้าสร้างมันขึ้นมา นั่นพอแล้วสำหรับผม แล้วผมก็ออกมา

ดร.เกียร์: คุณเชื่อพวกเขามั้ย?

นายไรท์: อะไรล่ะ ที่ว่ามันมาจากพระเจ้าน่ะเหรอ? ไม่ ไม่...ผมไม่รู้สิ...ผมไม่รู้ว่าจะคิดยังไงดี ไอ้เครื่องจักรนั่นหมุนไปเรื่อยๆ ไม่มีไฟต่อให้ แล้วก็กินเหล็กด้วย! แท่งที่คุณนายปาร์คเกอร์ใช้แทงมันน่ะเหรอ? ตอนนั้นกลายเป็นเพลาเกลียวอันใหญ่แล้ว ยังกะว่ามันอยู่ตรงนั้นมาตลอด มีคนสนใจมันมากขึ้น เริ่มฟังอัลเลนกับหลวงพ่อแพท ที่บอกให้เอาเหล็กมาให้มัน บอกว่าเฟืองพวกนี้เป็นเสียงของพระเจ้า บอกว่ามันเสียงดังขึ้นเมื่อเราหันเหออกไป และจะเบาลงเมื่อเรานำบรรณาการไปให้มัน

ดร.เกียร์: คุณเอาโลหะไปให้มัน หรือว่าเคยอยู่ใกล้ๆมันเป็นเวลานานด้วยมั้ย?

นายไรท์: (ผู้รับสัมภาษณ์เงียบไปหลายวินาที)...มันสำคัญด้วยเหรอ? คุณได้ยินเสียงมันได้ทั้งเมือง ลองมาเป็นคนที่ไม่ได้นอนดูบ้างสิ! เสียงเสียดสี บด กรีดร้องอยู่ตลอดทั้งคืน...เอาเหล็กไปให้มันก็ช่วยได้ บ้าเอ๊ย ผมไม่ได้อยากทำ ผมรู้ว่ามันไม่ใช่พระเจ้า ผมไม่เคยบอกว่ามันเป็น! ทุกๆคนไปหมอบอยู่ให้อัลเลนกับหลวงพ่อแพทดีใจ ผมก็แค่อยากได้นอนบ้าง! ไม่เห็นมีอะไรผิดเลยนี่! (ผู้รับสัมภาษณ์ใช้มือทุบโต๊ะ โมโหมากแล้วก็หอบหายใจ)

ดร.เกียร์: คุณ ผมขอให้คุณสงบอารมณ์ลงนะ ผมกำลังถามคำถาม ไม่ได้กล่าวโทษอะไร ช่วยนั่งลงด้วย

นายไรท์: (หายใจเข้าลึกๆหลายๆที) ผมขอโทษ ผ่านไปสองสัปดาห์ ทุกอย่างก็ถูกเอาไปป้อนเจ้านั่นหมด มันก็...เป็นอย่างที่มันเป็น พวกเราค่อนข้างโดดเดี่ยวน่ะ คุณรู้มั้ย? ไม่ใช่ว่าเรามีอะไรอื่นมากนักหรอก คุณก็แค่ออกไปที่โรงเก็บของสักสองเที่ยว แล้วก็โยนเหล็กที่คุณหาได้เข้าไป ดูเหมือนว่าที่นั่นจะมีคนตลอดเลย ก็แค่มองดูมัน ผ่านไปสักระยะมันก็ฉีกหลังคาเป็นรู หลวงพ่อแพทเริ่มทำตัวแปลกๆ บอกพวกเราว่ามันไม่พอ ผมว่าเสียงนั่นทำให้เขาเพี้ยน บอกว่ามันต้องการสิ่งที่มีความหมายกว่านั้น...(ผู้รับสัมภาษณ์เงียบไป)

ดร.เกียร์: ...คุณไรท์?

นายไรท์: (ผู้รับสัมภาษณ์เงียบไป48วินาที) คืนหนึ่งผมก็ไปที่นั่นเพราะได้ยินเสียงคนตะโกนจากโรงเก็บของ หลวงพ่อแพทนำทุกคนสวดมนต์ให้เจ้านั่นอยู่ แต่มันฟังไม่เหมือนบทสวดที่ผมรู้จักเลย ผู้คนเข้าไปใกล้ แล้วเขาก็ค้อมตัวเหนือพวกนั้น พวกนั้นกรีดร้อง แล้วเขาก็หันกลับไปหาเจ้ากองเหล็กยักษ์นั่น ผม...ตอนแรกผมคิดว่าเขาทำพิธีศีลมหาสนิท...จนผมเห็นคีมตัดลวดในมือเขา

ดร.เกียร์: ขอโทษนะ คีมตัดลวดเหรอ?

นายไรท์: เขาดึงเหล็กอุดฟันของพวกนั้นออกมา เขาดึงฟันพวกนั้นมาโยนให้ไอ้นั่น! (ผู้รับสัมภาษณ์ตะโกน ท่าทางดูเหมือนอารมณ์เสียมาก) เขาเริ่มตะโกนว่ามันไม่พอ! มันต้องการอีก แต่ไม่มีอะไรอีกแล้ว แทบไม่มีเหล็กเหลืออีกแล้ว! แล้วเขาก็ชี้ไปที่อัลเลน บอกว่าเขาซ่อนเหล็กไว้จากมหาเครื่องจักร อัลเลนตะโกนว่าเขาไม่ได้ซ่อนอะไร หลวงพอ่แพทบอกว่าเขามีเหล็กยึดข้ออยู่ที่เอว ทุกคนลุกขึ้นพร้อมกัน โอพระเจ้า พระเจ้า...พวกนั้นจับเขา ทุกคนจับเขาไว้...เขากรีดร้อง...(ผู้รับสัมภาษณ์ร้องไห้และตะโกน) เขาร้องแล้วก็ร้อง แล้วก็ไม่มีใครสนใจ...ผมเห็นแขนเขาเข้าไป เห็นนิ้วหักทั้งหมด แล้วก็ดึงเข้าไปทั้งแขน...แล้วผมก็วิ่งหนี ผมจะทำยังไงดี? พระเยซูเจ้า ผมช่วยอะไรไม่ได้ พวกนั้นมีหลายคนเกินไปแล้วเจ้าสิ่งนั้นก็กรีดร้อง แล้วก็กรีดร้อง อัลเลนก็กีดร้อง แล้วหลวงพ่อแพท...(ผู้รับสัมภาษณ์ทรุดลงกับพื้น สะอื้นและตะโกน)

ดร.เกียร์: จบการสัมภาษณ์แค่นี้ ขอบคุณนะ คุณไรท์ ยาม ช่วยพาตัวคุณไรท์ไปที

<จบการบันทึก>

ข้อมูลปิดท้าย: นายไรท์ได้พยายามฆ่าตัวตายหลังการสัมภาษณ์ไม่นานนัก ขณะนี้ผู้รับสัมภาษณ์อยู่ภายใต้จับตาดูเพื่อสังเกตการและเฝ้าระวังการฆ่าตัวตาย