SCP-539

SCP-539 (28 พฤศจิกายน 2555)ระดับวัตถุ Euclidมาตรการกักกันพิเศษให้เก็บSCP-539ไว้ในกล่องบุนวมและล็อกไว้ตลอดเวลา เว้นแต่จะมีบุคลากรระดับ2ขึ้นไปเป็นผู้สังเกตการณ์ และระหว่างการทดสอบลักษณะพิเศษของมันเท่านั้น ห้ามสัมผัสกับSCP-539เว้นแต่จะได้รับอนุมัติให้ทำการทดลองแล้วลักษณะวัตถุมีลักษณะเป็นจานกลมบางที่ทำจากวัสดุซึ่งระบุประเภทไม่ได้ แม้จะมีรอยกร่อนที่ขอบบ้าง แต่การทดสอบก็ระบุว่ารอยเหล่านั้นไม่ได้เกิดจากสนิม เมื่อขว้างมัน ก็จะเกิดเหตุการณ์บางอย่างในละแวกใกล้เคียงซึ่งจะหันเหความสนใจไปจากตัวคนขว้าง การหันเหความสนใจนี้จะไม่มีรูปแบบใดๆ แต่ดูเหมือนว่าความรุนแรงของเหตุการณ์นั้นจะเพิ่มขึ้นตามความยากลำบากในการเบี่ยงเบนความสนใจ เนื่องจากคุณลักษณะที่คาดเดาไม่ได้ของSCP-539 จึงแนะนำว่าให้ผู้ขว้างขว้างมันให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้

เพิ่มเติม บันทึกการทดลอง

การทดลอง 531-1 ยามได้เข้าแถวในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นผู้ทดลองได้ชัดเจน และได้รับคำสั่งว่าอย่าละสายตาจากผู้ทดลองโดยเด็ดขาด เมื่อขว้างจาน พวกยามก็ประสพกับ”การคงอยู่ล้มเหลวของเครื่องนุ่งห่มอย่างฉับพลัน” ทำให้ทุกคนละสายตาจากผู้ทดลอง เนื่องจากสนใจเสื้อผ้าที่หายไปและสภาพอากาศที่ไม่สบายสำหรับยามเปลือยนัก

การทดลอง 531-2 ผู้ทดลองสวมเสื้อผ้าสะดุดตาสีฉูดฉาด ผู้ทดลองอยู่กับยามสองคนในห้องทำงานว่างๆ ยามได้รับคำสั่งให้จับตาดูผู้ทดลองไว้ เมื่อขว้างจาน สัญญาณเตือนไฟไหม้ก็ดังทั้งตึกและไม่สามารถปิดได้จนกระทั่งเก็บจานกลับมาและรีเซ็ตระบบคอมพิวเตอร์

การทดลอง 531-3 บุคลากรคลาสDได้รับคำสั่งให้”เรียกความสนใจจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น”แล้วใช้SCP บุคลากรถูกตำรวจวิ่งไล่หลังจากที่ไปทุบกระจกรถตำรวจ เมื่อขว้างจาน สัตว์ขนาดใหญ่ในวงศ์ Carcharhinus leucas (ปลาฉลามหัวบาตร) ก็ปรากฏออกมาขวางทางรถตำรวจที่ไล่ตามอยู่ ทำให้ต้องจอดรถและลงไปตรวจดู หลังจากที่ให้Dคลาสไปพักแล้ว ทั้งSCPและฉลามก็ได้รับการเก็บกลับมาโดยเจ้าหน้าที่ภาคสนาม เป็นที่น่าสังเกตว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องมิได้รายงานเรื่องนี้ต่อผู้บังคับบัญชาแต่อย่างใด

การทดลอง 531-4 นี่เป็นการทดลองที่ไม่ได้รับอนุมัติ และได้ทำการลงโทษทางวินัยระดับต่างๆกับผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว กลุ่มนักวิจัยได้ตกลงทดลองดูเป็นการ”แกล้งหยอก”ว่าจะสามารถหันเหความสนใจของดร.██████ผู้จดจ่อกับงานได้หรือไม่ เมื่อขว้างจาน กลุ่มของ Varanus komodoensis (มังกรโคโมโด)อย่างน้อยสิบตัวก็พังช่องเพดานลงมาและวิ่งไล่ดร.██████ออกนอกห้องทดลองไป พวกกิ้งก่านั้นวิ่งอย่างไม่มีใครคุมอยู่ไปทั่วอาคารจนกระทั่งเก็บจานกลับมา ซึ่งหลังจากนั้นก็หาพวกมันไม่พบอีกและคาดว่าน่าจะออกนอกบริเวณไปแล้ว “การทดลอง”ครั้งนี้อาจบ่งชี้ได้ว่าการใช้สัตว์นั้นเป็นวิธีการหลักในการเบี่ยงเบนความสนใจ

ฟังนะ ผมก็ชอบเรื่องตลกเหมือนทุกคนนั่นล่ะ แต่มันอาจจะจบดีกว่านี้หรือเปล่าถ้าคณะวิจัยได้รับอนุญาตแล้ว? อีกอย่างนึง ผมว่ามันเป็นไปได้มากเลยที่การหันเหความสนใจจะมีสัตว์ด้วย ในเมื่อพวกมันเป็นที่สนใจของมนุษย์อยู่แล้ว - ดร.██████

การทดลอง 531-5 การทดสอบวัดประสิทธิภาพของมันต่อผู้สังเกตการณ์ทางอ้อม ผู้วิจัยได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในอาคารอีกหลัง โดยคอมพิวเตอร์จะบันทึกภาพและถ่ายทอดภาพให้ผู้เฝ้าดูในเวลาเดียวกัน กล้องถูกตั้งให้หันไปทางผู้ทดลอง ส่วนบุคลากรคนอื่นๆก็ย้ายไปเฝ้าดูทางคอมพิวเตอร์กันหมด เมื่อขว้างจาน คอมพิวเตอร์ก็มีปัญหาเออเรอร์ขั้นรุนแรงซึ่งเกิดจากไดรเวอร์ฮาร์ดแวร์ที่จำเป็นในการถ่ยทอดภาพถูกลบทิ้ง ไฟล์วีดีโอที่บันทึกไว้เสียและกู้คืนไม่ได้