ภาพรวม: สถาบันไม่ใช่เพียงกลุ่มเดียวซึ่งสนใจและศึกษาสิ่งผิดปกติและอภิปรัชญา มีกลุ่มอื่นๆมากมายซึ่งคอรบครอง ใช้งาน หรือพยายามสร้างวัตถุ SCP ทั้งเพื่อผลประโยชน์ของตนเองหรือเพื่อปกป้องมนุษย์ชาติ บ้างก็เป็นองค์กรคู่ปรับ บ้างก็แยกตัวไปจากสถาบัน และบ้างก็มีความสัมพันธ์ที่วางใจได้กับสถาบัน ไม่ว่าอย่างไร ก็มีความจำเป็นในการจัดทำและแจกจ่ายเนื้อหาโดยสรุปซึ่งตัวแทนของสถาบันรู้ และท่าทีของเราต่อพวกมัน
เราแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยอเล็กซิลวาหรือเป้าหมายของมันเลย หลักฐานบ่งชี้ว่ามันอยู่ในมิติคู่ขนานที่ภาษาละตินและกรีกเป็นภาษาหลักในโลกตะวันตก จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลใดๆเกี่ยวกับส่วนอื่นๆในโลกนั้น วัตถุที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยทั้งหมดนั้นพบในภาคใต้ตอนกลางของสหรัฐอเมริกา หรือระบุให้ชัดเจนกว่านั้นก็คือมลรัฐเทนเนสซี ทำให้นักวิจัยของสถาบันเชื่อว่าตัวมหาวิทยาลัยก็น่าจะอยู่ในแถบนั้น
วัตถุที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยนั้น (ซึ่งเชื่อว่าไม่ได้เป็นผู้สร้างเอง) ถูกเก็บมาระหว่างการถูกส่งข้ามประตูโดยตัวแทนที่ชื่อ "ฟิทรานซิมุนคอมไบน์" (Phitransimun Combine) พร้อมกับเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุและที่ที่พวกมันมา ถึงตอนนี้ เท่าที่รู้เกี่ยวกับการขนย้ายวัตถุพวกนี้ก็คือมันใช้เทคโนโลยีตามหลักการคล้ายกับของไอสไตน์-โรเซนบริดจ์ ซึ่งเป็นแนวคิดที่วิทยาศาสตร์ร่วมสมัยถือว่าเป็นแค่ทฤษฏี เชื่อว่าหน่วยงานในมหาวิทยาลัยที่เรียกว่าแผนกปรัชญาธรรมชาติเป็นผู้ดูแลการขนส่งวัตถุทั้งหมด โดยที่ภาคอื่นๆขององค์กรอาจไม่รู้เรื่องก็ได้
มีรากฐานอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของแปซิฟิก สถาบันให้ความสนใจต่อแอนเดอร์สันโรโบติกส์ในปี 2007 จากการจับตัว SCP-1360 มันมีผู้นำคือวินเซนต์ แอนเดอร์สัน และมีความเชี่ยวชาญในการจำหน่ายแอนดรอยด์ หุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ และเครื่องกลไซเบอร์ที่ผิดปกติ ในเวลาไม่นานแอนเดอร์สันโรโบติกส์ก็ได้สร้างศัตรูในโลกของเทคโนโลยีเหนือธรรมชาติไว้พอสมควรทีเดียว ด้วยขนาดเล็กของกลุ่ม ความสามารถในการจารกรรมข้อมูลที่โดดเด่น และทรัพยากรที่มีมากอย่างน่าประหลาดใจทำให้การจับกุมคนของแอนเดอร์สันกระทำได้ยากมาก มีผลิตภัณฑ์ของแอนเดอร์สันจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่สถาบันได้เก็บไว้
กลุ่มศิลปินก่อการร้าย สมาชิกของพวกเราเจ๋งอ๊ะยัง?มีความสามารถในการสร้างหรือเอาวัตถุผิดธรรมชาติมาไว้ในการครอบครองแล้วใช้มันสร้างงานศิลป์สำหรับแสดงได้ การแสดงงานศิลป์พวกนี้มักอยู่ในตำแหน่งที่สาธารณชนรับรู้ได้เต็มที่ และส่วนใหญ่แล้วก็มักเป็นอันตรายถึงชีวิตกับคนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย แต่ก็ไม่แน่เสมอไป ทุกครั้งพวกมันจะทิ้งข้อความว่า"พวกเราเจ๋งอ๊ะยัง?"ไว้ตรงไหนสักแห่งเสมอ
มีข้อมูลที่สามารถสรุปได้น้อยมากเกี่ยวกับบุคคลในความสนใจที่เรียกว่าราชินีดำนี้ เธอใช้ชื่อว่า "อลิสัน เฉา" ซึ่งเป็นชื่อลูกสาวของดร.██████ เกียร์ และ ██████ ███ เฉา ก่อนที่เกียร์จะได้รับเข้ามาในสถาบัน ราชินีดำนั้นมีความรู้อย่างผิดปกติเกี่ยวกับโครงสร้างกับกิจกรรมของสถาบัน และสิ่งผิดปกติที่ถูกกักกันไว้ สาเหตุของความรู้ผิดปกตินี้ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด แต่ดูเหมือนว่าส่วนหนึ่งนั้นจะได้มาจากวิธีการผิดธรรมชาติ (รวมถึงความเป็นไปได้ของแหล่งข้อมูลจักรวาลพิเศษ) เธอได้ทำให้การรักษาความปลอดภัยของสถาบันรั่วไหลบ่อยครั้งโดยใช้ข้อมูลนี้นอกเหนือไปจากวิธีการผิดธรรมชาติอันเป็นความลับ
มีรายงานที่ขัดแย้งกันถึงกิจกรรมและแรงจูงใจของราชินีดำ (ซึ่งน่าจะเป็นเพราะมีหลายบุคคลหรือข้อมูลลวงที่จงใจปล่อยออกมา) รายงานในระยะแรกนั้นเธอมีบุคลิกที่ชั่วร้าย อำมหิต และชอบการทำลาย รายงานอื่นๆนั้นบ่งบอกว่าเธอธรรมดาหรือนิสัยดี ข่าวสารทั้งหมดบ่งชี้ว่าเธอมีท่าทีคุกคามต่อสถาบัน
มีรายงานว่าราชินีดำนั้นมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มในความสนใจเกือบทั้งหมดที่สถาบันรู้จักเช่นเดียวกับรัฐบาลจำนวนหนึ่งในโลก แหล่งที่ไม่สามารถยืนยันได้อ้งว่าเธอเป็นบุคคลเดียวกับ L.S. ของพวกหัตถ์อสรพิษ และ L.S. นั้นหมายถึง "Little Sister" (น้องสาว) สาเหตุของความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดนี้ปเนไปได้ว่ามาจากการที่ราชินีดำใช้งานหอสมุดของผู้พเนจร
รายงานบ่งชี้ว่ามีผู้ที่เรียกตนเองว่า"ราชินีดำ"อยู่หลายคน ลักษณะและที่มาของบุคคลเหล่านี้ยังไม่สามารถระบุได้
กลุ่มที่ทรยศแยกตัวไปจากสถาบันโดยเอาSCPหลายๆชิ้นไปด้วยในปี 1924 หลังจากนั้นมาอินเซอร์เจนซีก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีอำนาจทางการเมืองของโลกในระดับสูง โดยใช้สิ่งผิดปกติที่รวบรวมไว้เพื่อประโยชน์ของตนเองและคงอำนาจในระดับโลก นอกจากสิ่งผิดปกติแล้วอินเซอร์เจนซียังค้าอาวุธและรวบรวมข้อมูลเชิงลับด้วยพวกมันใช้ประโยชน์จากอำนาจของเผด็จการโลกในประเทศยากจนและกำลังพัฒนา โดยมักใช้ประชาชนเหมือนที่สถาบันใช้Dคลาส อินเซอร์เจนซีจึงทำให้ประเทศเหล่านั้นอยู่ในภาวะสงครามและยากจนเสมอ พื่อให้สามารถดำเนินการทดลอง เกณฑ์บุคลากร และดำเนินธุรกิจกับกลุ่มกำลังต่างๆที่ขัดแย้งกันได้โดยง่าย
สิ่งผิดปกติที่อยู่ในการครอบครองของอินเซอร์เจนซีส่วนใหญ่นั้นยังไม่ทราบ วัตถุที่สำคัญก็คือ "ไม้เท้าของเฮอเมส" ซึ่งสามารถแปลงลักษณะทางกายภาพและเคมีของสสารใดๆที่มันสัมผัสได้ "กระดิ่งแห่งเอนโทรปี" ซึ่งมีผลด้านการทำลายตามแต่บริเวณที่มันสั่น วัตถุทั้งสองอย่างนี้เดิมทีนั้นสถาบันได้ทุ่มเททรัพยากรไปไม่น้อยเลยในการเก็บมาและถูกผู้ก่อตั้งของอินเซอร์เจนซีขโมยไป
วัตถุ SCP และสิ่งผิดปกติอื่นๆที่ถูกขโมยไปจากสถาบันนั้นโดยปกติแล้วจะมีแนวโน้มสูงที่ใช้ประโยชน์ได้โดยตรง แต่อินเซอเจนซีก็ใช้งานสิ่งผิดปกติที่มีประโยชน์โดยตรงน้อยกว่าด้วยเช่นกัน อย่างเช่น SCP-884
ยังไม่ทราบฐานปฏิบัติการหลักและผู้นำในปัจจุบันของอินเซอร์เจนซี องค์กรนี้ปฏิปักษ์ต่อสถาบันโดยตรงโดยใช้กำลังขัดขวางการกักกันสิ่งปกติหลายๆชิ้น สถาบันยังเคยถูกเจ้าหน้าที่ของอินเซอเจนซีเข้าแทรกซึมมาแล้วซึ่งทำให้เกิดการสูญเสียข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ สิ่งผิดปกติถูกขโมยไปจำนวนหนึ่ง และบุคลากรเสียชีวิต ให้บุคลากรทุกคนพร้อมรับมือจากการโจมตี วินาศกรรม หรือสายลับจากอินเซอร์เจนซีที่อาจเกิดขึ้นได้ และให้รายงานผู้บังคับบัญชาหากผู้ร่วมงานมีพฤติกรรมที่สอดคล้องกับข้อมูลของอินเซอร์เจนซีด้วย
หลังการกักกัน SCP-882 ได้ไม่นานนักก็มีสมาชิกของ"ศาสนจักร"นี้มาเรียกร้องให้สถาบันคืน"หัวใจของพระเจ้า" พวกมันเป็นกลุ่มคลั่งศาสนาที่นำโดยโรเบิร์ต บูมาโร ซึ่งเชื่อว่าSCPหลายๆชิ้นเป็นชิ้นส่วนของพระเจ้าที่แตกกระจายหลังการสร้างจักรวาล และเมื่อนำมารวมกันมันก็จะกลายเป็นพระเจ้าอีก หลังจากที่พบกับศาสนจักร ก็ได้พบ SCP ที่เป็นชิ้นส่วนของพระเจ้าเพิ่มขึ้นอีก SCP-217, SCP-271 และ SCP-1139 นิกายที่อุทิศตนให้ศาสนจักรยังได้สร้าง SCP-808ขึ้นมา
พวกมันเป็นศัตรูกับเจ้าหน้าที่ของสถาบันอย่างชัดเจน โดยจะตราหน้าเป็น"พวกนอกรีต"และหาทางฆ่าทิ้ง รวมทั้งพยายามทำลายการกักกันบ่อยๆด้วย ไม่ทราบเหมือนกันว่าพวกมันใช้วิธีไหนหาวัตถุ แต่ความแม่นยำของพวกมันก็สูงอย่างน่ากลัวทีเดียว พวกมันยังมีความต้านทานต่อSCPที่มีผลทางจิตอย่างเห็นได้ชัดด้วย โดยเฉพาะการล่อลวงทางจิตของ SCP-882
ศาสนจักรนี้เป็นภัยทั้งต่อสถาบัน SCP เองและมนุษยชาติ อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ใช้กำลังจับกุมหรือกำจัดสมาชิกของศาสนจักรได้ตามความจำเป็น
ด็อกเตอร์วันเดอเทนเมนท์ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลคนเดียวหรือกลุ่มองค์กร ก็มีความสามารถในการสร้างวัตถุหรือตัวตนที่มีคุณสมบัติผิดธรรมชาติซึ่งมีรูปแบบเป็นของเล่นเด็กได้ คุณสมบัติของวัตถุเหล่านี้มีความหลากหลายมาก แต่ทั้งหมดนั้นก็ชัดเจนว่าตั้งใจให้เด็กๆใช้ นอกจากนั้น ด็อกเตอร์วันเดอเทนเมนท์ยังเป็นผู้สร้างเหล่าลิตเติลมิสเตอร์ซึ่งเป็นตัวตนผิดปกติแบบมนุษย์ที่ผ่านการดัดแปลงเพื่อให้สะสม ที่ผ่านมานั้น ด็อกเตอร์วันเดอเทนเมนท์ได้เคยเลือกบุคลากรของสถาบันโดยตรงมาแล้วและท่าทีต่อสถาบันก็ยังไม่ชัดเจน โปรดดูข้อมูลเพิ่มของอิซาเบล วันเดอเทนเมนท์ในแฟ้มบุคคล
คาดว่ามันมีความสัมพันธ์กับเดอะแฟคทอรี แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้
"เมื่อเทียบศาสนจักรที่ห้ากับศาสนจักรอื่นๆแล้ว มันก็เหมือนเทียบตัวตลกกับคนธรรมดา มันมีความคล้ายคลึงกันอยู่ แต่สิ่งที่ผิดออกไปนั้นถูกเน้นและขยายให้เด่นชัดขึ้นจนคุณไม่อาจชี้ชัดได้ว่าผิดตรงไหนบ้าง...แน่ล่ะว่ามันไม่ได้ตามล่าคุณ แต่มันหมายความว่ายังไง? ทำไมมันอยู่ตรงนั้น? และอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อมันเรียกคุณ?" - ดร.█████ ศาสนจักรที่ห้า หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า ศาสนจักรแห่งอันดับห้า หรือ คณะผู้ติดตามแห่งส่วนที่ห้า เป็นองค์กรลับทางศาสนาที่มีความเกี่ยวพันกับอุตสาหกรรมบันเทิงอย่างลึกซึ้ง แม้จะทำการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง ก่อนยุติลงในปี 2007 ด้วยปฏิบัติการระดับชาติที่เราเรียกว่า ปฏิบัติการสตาร์เกเซอร์ ก็ยังไม่สามารถยืนยันด้านข้อมูลเกี่ยวกับคำสอน พิธีกรรม จำนวนสาวก หรือเป้าหมายของพวกมันได้เลย ถึงจะมีบุคคลสำคัญในรายการผู้ฝักใฝ่ในลัทธิที่ห้าทั้งที่ยืนยันแล้วและต้องสงสัยแล้วมากกว่า 100 คนก็ตาม ต้นกำเนิดของมันดูเหมือนจะอยู่ในช่วงกลางศตวรรษที่20 จากหลายๆตำแหน่งในอเมริกาและเอเชีย แม้ข้อมูลบางแหล่งจะระบุถึงเวลาหลายร้อยปีก่อนหน้านั้น
ถึงขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อโดยตรงระหว่างสถาบันSCPกับศาสนจักรที่ห้า แต่ให้ถือว่าเป็นภัยไว้ก่อน
"เกมเมอร์ต่อต้านเนื้อ" เป็นสมาพันธ์ที่มีการจัดการอย่างหลวมๆของกลุ่มบุคคลที่ผิดธรรมชาติและสิ่งที่เกี่ยวข้องซึ่งสร้างหรือเก็บสิ่งผิดปกติด้วยเหตุผลเพื่อการล้อเลียนและ/หรือความบันเทิงส่วนตัว แม้ว่ากลุ่มเกมเมอร์ต่อต้านเนื้อจะจัดการกิจกรรมของพวกมันผ่านช่องทางอินเทอเน็ตเป็นหลักก็มีสถานที่ในความเป็นจริงจำนวนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มที่ถูกระบุและเข้ากวาดล้างแล้ว ข่าวกรองในขณะนี้บ่งชี้ว่าเกมเมอร์ต่อต้านเนื้อนั้นกำลังเตรียมการสร้างและแจกจ่ายตัวตนแบบมนุษย์ซึ่งผิดปกติเพื่อล้อเลียน"ลิตเติลมิสเตอร์"ของดร.วันเดอเทนเมนท์อยู่ และหากพวกมันไม่รู้ถึงหน้าที่ของสถาบันแล้วอย่างน้อยพวกมันก็รู้ตัวถึงการปฏิบัติการของสถาบัน
การคุมตัวสมาชิกของเกมเมอร์ต่อต้านเนื้อนั้นพบว่าทำได้ยากกว่าที่คาดไว้ สมาชิกบางคนในกลุ่มนั้นเชื่อว่ามีความสามารถในการบิดเบือนความเป็นจริง ซึ่งอาจเป็นด้วยตนเองหรือใช้ทรัพยากรภายนอก ปฏิบัติการในขณะนี้นั้นให้มุ่งเน้นไปที่การกักกันความผิดปกติที่เกี่ยวข้องและระบุตัวพร้อมกับวิเคราะห์สมาชิกที่อันตรายที่สุดของเกมเมอร์ต่อต้านเนื้อ
GOC เป็นองค์กรที่ก่อตั้งหลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงจากการรวมตัวเป็นกลุ่มของนักไสยศาสตร์ มนุษย์พลังจิต นักบวช และนักวิทยาศาสตร์ จากนาซี โซเวียต และสัมพันธมิตร เมื่อขอบเขตในโลกกว้างขึ้น จำนวนของประเทศที่เกี่ยวข้องกับGOCก็เพิ่มมากขึ้นจนมันเป็นอย่างทุกวันนี้ GOCนั้นเป็นเหมือนกลุ่มการเมืองที่ถือว่าตนเป็นกองกำลังตำรวจในโลกแห่งสิ่งเหนือธรรมชาติ พวกมันมีความภาคภูมิในความสามารถในการทำลายวัตถุผิดธรรมชาติ และใช้เทคโนโลยีไฮเทคที่อยู่ระหว่างการทดลองเท่าที่ทำได้ โดยได้มาจากกลุ่มผู้สนับสนุน มีสิ่งที่อาจเป็นSCPหลายชิ้นที่ถูกGOCทำลายก่อนที่สถาบันจะได้เก็บมา
พวกมันทั้งอยู่ฝ่ายเดียวกับสถาบัน และต่อสู้ด้วย ตามแต่สถานการณ์ พวกมันไม่พอใจที่สถาบันกักเก็บและใช้งานSCPแทนที่จะทำลายทิ้ง GOCนั้นยำเกรงในพลังของสถาบันพอที่จะเลือกไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย แม้จะมีกรณีน่าสงสัยที่คาดว่าน่าเป็นฝีมือของGOCอยู่หลายครั้งก็ตาม
เจ้าหน้าที่ของ GOC นั้นให้ปฏิบัติด้วยอย่างต้องสงสัยไว้ก่อน
เดิมมีชื่อว่า ЧД АКН ("ChD AKN", หรือคณะกรรมการสิ่งผิดปกติแผนกที่สี่), ก่อตั้งในช่วงต้นปี 1935 ตามคำสั่งของ J.V สตาลิน โดยมีงานแรกคือสืบสวนการฆาตกรรมS.M คิรอฟ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง คณะกรรมการได้ปฏิรูปองค์กรตาม GRU เป็น แผนก"P" - Psychotronics โดยมีจุดประสงค์เพื่อตอบโต้ภัยเหนือธรรมชาติจาก หน่วยSS, Ahnenerbe กับวาติกัน รวมทั้งทำการยึดและศึกษาวัตถุผิดธรรมชาติเพื่อประโยชน์ของสหภาพโซเวียต แผนก"P"ได้คงบทบาทนี้ไว้ตลอดช่วงสงครามเย็น ทำให้การปฏิบัติการของสถาบันในประเทศกลุ่มองค์การคอมมิวนิสต์สากลเป็นไปอย่างยากลำบาก
หลังปี 1991 การปรับโครงสร้างและตัดงบประมาณ รวมทั้งการทิ้งหรือขายทรัพย์สินสำคัญหลายประการทำให้บุคลากรของมันผละออกไป (สมาชิกจำนวนมากของเคออสอินเซอร์เจนซีกับ MC&D ที่อยู่ในยุโรปตะวันออกนั้นเคยเป็นคนของGRUแผนก"P") และทำให้มีวัตถุที่เคยเป็นของพวกมันหลุดออกไปในตลาดมืด ในขณะนี้ กลุ่มนี้เป็นภัยโดยตรงต่อสถาบันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
คณะละครสัตว์อันอึกทึกของเฮอร์มาน ฟุลเลอร์ อ้างตนเป็นคณะละครสัตว์ที่มีกำเนิดและจุดมุ่งหมายอันผิดธรรมชาติ ในขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ยืนยันถึงการคงอยู่ของกลุ่มนี้ นอกจากคำกล่าวอ้างของSCPที่มีสำนึกและวัตถุซึ่งไม่ผิดปกติที่เสียหายจำนวนหนึ่ง ตัวอย่างวัตถุที่เกี่ยวข้องซึ่งระบุได้ว่าเป็นแบบมนุษย์นั้นจะมีลักษณะทางกายภาพที่ถูกทำให้พิการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น SCP-1884 และ SCP-1860 นอกนั้นแล้วก็เป็นวัตถุศิลป์ตามงานเทศกาลอย่าง SCP-1921 หรือมีณูปลักษณืเป็น'เครื่องเล่น'ในงาน อย่าง SCP-1956 หรือ SCP-1931 โดยปกติแล้ว วัตถุที่เกี่ยวข้องกับคณะละครสัตว์อันอึกทึกของเฮอร์มาน ฟุลเลอร์จะถูกพบในพื้นที่งานรื่นเริงที่กล่าวว่ามันมา'แสดง'
เดอะฮอริซอนอินิทิเอทีฟก่อตั้งในช่วงปี 1960โดยนิกายที่ทรงอิทธิพลของศาสนากลุ่มอับราฮัมทั้งสาม (ยูดาย-คริสต์-อิสลาม) เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์เหนือธรรมชาติและกลุ่มที่พวกมันเห็นว่าเป็นภัยซึ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้จะยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ทั้งหมด ก็รู้กันว่าเดอะฮอริซอนอินิทิเอทีฟนั้นเล็งเป้าหมายไปที่วัตถุSCP มีทั้งที่เก็บไปและทำลายทิ้ง ตามแต่ความเชื่อของศาสนาเกี่ยวกับวัตถุนั้นๆ
เดอะฮอริซอนอินิทิเอทีฟนั้นนำโดยคณะผู้นำของนิกายซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง แต่ความขัดแย้งภายในองค์กรก็มักทำให้ผู้นำควบคุมได้ไม่เต็มที่ หน่วยรบของHI โปรเจ็คท์มาลเลอุส นั้นมักออกปฏิบัติการในการกวาดล้างลัทธิไสยศาสตร์หรือเก็บSCP
ความสัมพันธ์ของอินิทิเอทีฟกับสถาบันและองค์กรอื่นๆนั้นดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แม้ว่าทุกฝ่ายในHIจะเห็นศาสนจักรแห่งเทพผู้แตกหัก กับ ศาสนจักรที่ห้า เป็นศัตรูอย่างเต็มที่ (และบางครั้งก็มีการต่อสู้กันด้วยอาวุธ) ความสัมพันธ์กับสถาบันและGOCนั้นกลับมีตั้งแต่เป็นศัตรูอย่างเปิดเผย จนถึงพร้อมร่วมมือด้วย ขึ้นอยู่กับฝักฝ่ายในองค์กรของบุคคลแต่ละรายไป
ก่อตั้งในปี 1971 โดยเป็นกลุ่มบรรเทาทุกข์หลากหลายความเชื่อ เอกสารที่เก็บกลับมานั้นระบุว่าเป้าหมายของมูลนิธิการกุศลแมนนาก็คือ "แบ่งปันปาฏิหารย์ทั้งมวลของพระเจ้าแก่บุตรตัวน้อยที่สุดของท่าน" พวกมันรวบรวมเงินทุนทางอ้อมผ่านองค์กรการกุศลและกลุ่มศาสนาต่างๆ และบางครั้งก็ได้รับการสนับสนุนอย่างเปิดเผยจากคนร่ำรวยที่ชอบบริจาคหรือสถาบันการศึกษา เป้าหมายของMCFก็คือการแจกจ่ายSCPหรือสิ่งที่เกิดจากพวกมันให้กับพลเมืองในประเทศยากจน หรือพื้นที่ที่ประสพกับสงคราม ความแห้งแล้ง หรือภัยธรรมชาติ
ขณะนี้สหประชาชาติรับรู้ถึงMCFในฐานะกลุ่มNGO และรู้กันว่าปฏิบัติการทั้งอย่างถูกต้องและผิดกฏหมายในพื้นที่ที่เป็นอันตรายหรืออยู่นอกเขตอิทธิพลของสถาบัน ถึงแม้ว่าในตอนนี้จะยังไม่มีอันตรายที่เกิดจากSCPที่MCFแจกจ่ายให้ประชาชน (และบุคลากรของMCFที่ควบคุมตัวได้นั้นก็มักจะมีท่าทีเป็นสันติอยู่มาก) การกักกันรั่วไหลที่เกี่ยวกับกลุ่มนี้ก็มักจะทำให้เกิดผู้เสียชีวิต หรือเป็นภัยคุกคามรุนแรงต่อความเชื่อในระดับโลกอันเนื่องมาจากผลอันไม่คาดคิดของวัตถุที่ถูกปล่อยไป รวมทั้งความเชื่อแบบหัวรุนแรงที่ต้องการแจกจ่ายสิ่งที่"มีประโยชน์"ทันทีโดยไม่ได้ทำการศึกษาพฤติกรรมในระยะยาวของมันก่อน
"คลับ"ที่อยู่ในลอนดอน อังกฤษ เป็นแหล่งรวมตัวของเหล่าคนมีฐานะซึ่งมีอิทธิพลทางการเมืองและเศรษฐกิจในระดับโลก กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ก่อปัญหาให้กับสถาบันมาก มาแชล คาเตอร์ แอนด์ดาร์ค จำกัดนั้นเป็นที่รู้กันว่าชอบรวบรวมเก็บวัตถุหายาก พร้อมกับให้คำสัญญาของประสพการณ์แสนพิเศษราคาแพงระยับให้แก่สมาชิก กิจกรรมของพวกมันทำให้ขัดแย้งกับสถาบันอยู่บ่อยครั้ง พวกมันไม่ค่อยใช้กำลัง แต่นิยมใช้อำนาจทางการเมืองและการเงินเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย หาต้องลงมือดำเนินการโดยตรง มาแชล คาเตอร์ แอนด์ดาร์คก็จะใช้บริการคนนอก ซึ่งทำให้การเชื่อมโยงผู้ปฏิบัติการกับพวกมันยากมาก
มาแชล คาเตอร์ แอนด์ดาร์คทำให้เกิดการกักกันรั่วไหลบ่อยครั้ง โดยมักใช้เงินหรือการกดดันทางสังคม มีบุคลากรที่ลักลอบเอารายงาน บันทึก หรือแม้แต่วัตถุเองไปให้เพราะถูกล่อด้วยเงินก้อนโต หรือคำขู่จะทำให้ติดคุกเป็นเวลานาน ที่สำคัญ ศูนย์กักกันสองแห่งเคยเกือบถูกเปิดโปงต่อสาธารณชนหลังจากที่สถาบันไม่ยอมให้มาแชล คาเตอร์ แอนด์ดาร์คเข้าถึง
ข้อมูลของมาแชล คาเตอร์ แอนด์ดาร์ค จำกัด ไม่ว่าชื่อของผู้ดูแลหรือรายชื่อสมาชิก นั้นหามาได้ยากมาก เจ้าหน้าที่ที่พบกับสมาชิกของกลุ่มนี้ให้ใช้ประวัติปลอมไว้ และอย่าเปิดเผยความสัมพันธ์กับสถาบันหรือข้อมูลของSCPโดยเด็ดขาด
มีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับบุคคล ตัวตน หรือกลุ่มที่เรียกว่า "ไร้ตัวตน" นี้ มันปรากฏตัวครั้งแรกในปี 1954 และได้พบเห็นอีกในเวลาต่อมาหลายครั้ง แต่ละครั้งจะปรากฏตัวเพียงคนเดียว เป็นชายเชื้อสายคอเคเซียนสวมชุดสีเทากับหมวก เมื่อถามว่าเป็นใคร เขาก็ตอบว่าเป็น"คนไร้ตัวตน" (Nobody) แต่ก็ไม่ทราบว่านี่เป็นคนๆเดียว หรือกลุ่มเจ้าหน้าที่ขององค์กรที่ยังไม่รู้จักกันแน่ เป้าหมายของมันก็ยังไม่ทราบ บางครั้งมันก็ช่วยสถาบัน บางครั้งก็ขัดขวาง ขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการระมัดระวังตัวหากเจอผู้ปฏิบัติการที่เรียกตัวเองว่า"ไร้ตัวตน"ด้วย
สำนักงานเก็บคืนวัตถุแห่งอิสลามเป็นกองกำลังทางทหารซึ่งรับคำสั่งโดยตรงจากผู้นำสูงสุดแห่งอิหร่าน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อการเก็บรวบรวมและใช้งานวัตถุผิดธรรมชาติในแถบตะวันออกกลางและเอเชียกลาง หลังจากที่กลุ่มปฏิวัติล้มรัฐบาลราชวงศ์อิหร่านในปี 1979 ตามมาด้วยการตั้งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน เจ้าหน้าที่ของสถาบันในพื้นที่นั้นถูกไล่ออกมาเนื่องจากเป็น"ตัวแทนของลัทธิล่าอาณานิคม" ความพยายามที่จะคงเจ้าหน้าที่ลับไว้ในประเทศนั้นล้มเหลว เจ้าหน้าที่เกือบทุกคนถูกจับกุมหรือไม่ก็ถูกฆ่าตาย และศูนย์██ ███ กับ ███ ก็ถูกกองทัพอิหร่านยึดไป เพื่อไม่ให้อิหร่านล้าหลังในการวิจัยเรื่องเหนือธรรมชาติ ORIAจึงตั้งขึ้นตามคำสั่งลับของผู้นำสูงสุด โคไมนี ในปี 1981 แม้จะมีชื่อแบบนี้ แต่กลุ่มนี้ก็ไม่ได้จำกัดตัวเองแค่การเก็บวัตถุที่มีต้นกำเนิดมาจากศาสนาอิสลามเท่านั้น
แม้ ORIAจะมีทรัพยากรมาก ความสามารถในการปฏิบัติการของพวกมันก็ลดลงไปด้วยการต่อสู้กันเองของฝักฝ่ายต่างๆในองค์กร บางครั้งความขัดแย้งนี้ก็มาจากแนวคิดที่ต่างกันในการปฏิบัติการ เช่นการใช้วัตถุเป็นอาวุธ ขณะที่บางครั้งก็เป็นเรื่องส่วนตัว การขยายตัวของกลุ่มย่อยต่างๆในองค์กรนั้นดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่จงใจ เพราะโครงสร้างองค์กรของORIAนั้นทำให้ผู้บังคับบัญชาหลายตำแหน่งมีอำนาจทับซ้อนกัน คาดว่าเป็นไปเพื่อไม่ให้มีใครสามารถสั่งสมอำนาจได้มากพอจะเป็นภัยต่อผู้นำสูงสุดได้
ด้วยอิทธิพลของอิหร่านที่แผ่เข้าไปทั่วตะวันออกกลางและเอเชียตะวันตก ORIAก็มีขอบเขตการปฏิบัติการที่กว้างขึ้นด้วย กลายเป็นองค์กรเหนือธรรมชาติที่มีอำนาจที่สุดในแถบตะวันออกกลาง ORIAนั้นถือเป็นศัตรู และให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังตัวอย่างยิ่งยวดเมื่อต้องข้องแวะด้วย
สถาบันได้ข้อมูลของกลุ่มออเนย์รอยมาจากการวิเคราะห์และสัมภาษณ์บุคคลที่เคยพบกับพวกมันหรือสิ่งผิดปกติที่พวกมันทิ้งไว้เท่านั้น เชื่อกันว่าพวกมันเป็นจิตสำนึกรวมของบุคคลที่กำลังฝันหรือกลุ่มตัวตนที่มีพื้นฐานจากความฝัน ข่าวกรองบ่งบอกว่ากลุ่มในความสนใจอื่นๆก็มีบันทึกถึงพวกมัน ซึ่งโดยทั่วไปก็อยู่ในระดับเดียวกับที่มีปฏิสัมพันธ์กับสถาบัน กลุ่มออเนย์รอยนั้นดูเหมือนจะสามารถติดต่อได้แม้แต่ตัวตนที่มีความโดดเดี่ยวสูง (เช่น ไร้ตัวตน) ในขณะนี้หากว่าพวกมันมีเป้าหมายใดๆก็ยังไม่ทราบ
ก่อตั้งโดย██████ ██████ในปี 1892 บริษัทพรอมเมธีอุสแล็บมีจุดมุ่งหมายในการเป็นบริษัทเพื่อการวิจัยวัตถุผิดธรรมชาติเพื่อพัฒนาวิทยาการใหม่ๆ ในตลอดช่วงเวลาหลายปีนั้นพรอมเมธีอุสแล็บได้ขยายตัวเป็นบริษัทนานาชาติซึ่งขายวิทยาการชั้นสูงและผิดปกติให้รัฐบาล กองทหาร และกลุ่มในความสนใจ ในประวัติของมันนั้นพรอมเมธีอุสแล็บได้ให้ความร่วมมือกับสถาบันในระดับหนึ่งเพื่อรักษาความปกติธรรมดา และบางครั้งก็ประสานงานกับสถาบัน แต่ก็ไม่ยอมยกเลิกการศึกษาสิ่งผิดปกติและต่อต้านการดูแลจากสถาบัน
ในปี 1998 หลังจากที่ประสพปัญหาทางการเงินเป็นเวลานาน กลุ่มพรอมเมธีอุสแล็บก็สลายตัวทำให้เกิดบรรดาบริษัทเล็กน้อยซึ่งเคยเป็นสาขาของมันขึ้นมาสืบทอด การสลายตัวของกลุ่มนั้นเต็มไปด้วยปัญหาทางเทคนิคและการจัดการที่ลำบาก ทำให้มีผลิตภัณฑ์จำนวนหนึ่งสูญหายและบุคลากรถูกเลิกจ้าง สิ่งที่เคยเป็นโครงงานของพรอมเมธีอุสแล็บที่กักกันอยู่ในขณะนี้นั้นส่วนใหญ่แล้วก็เก็บกู้มาในช่วงเวลานี้ และอดีตลูกจ้างของมันจำนวนมากก็ได้รับการจ้างงานจากสถาบัน
ลัทธิซาร์คิคเป็นศาสนา/ระบอบปรัชญาซึ่งรวมเอาวิถี ความเชื่อ และพิธีกรรมซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีรากฐานจากคำสอนซึ่งยกให้กับ “แกรนด์คาร์ซิสต์ไอออน” ผู้ก่อตั้งซึ่งนับถือเป็นเหมือนพระเจ้า พิธีกรรมที่ประกอบนั้นมีการกินเนื้อมนุษย์ การบูชายัญมนุษย์ การดัดแปลงร่างกาย เวทมนตร์ และการควบคุมมิติ เป็นความลับมาก โดยทั่วไปนั้นดูเหมือนจะไม่มีการรับรู้โดยตรงถึงการคงอยู่ของพวกมันเลย ข้อยกเว้นหนึ่งนั้นก็คือพวกเทพผู้แตกหักซึ่งมองพวกมันเป็นเหมือนความหายนะ การควบคุมอีนทรีย์นั้นทำให้สาวกซาร์คิคบางคนกลายเป็นสิ่งที่ผิดปกติซึ่งหลุดพ้นไปจากข้อจำกัดทางกายภาพของมนุษย์ โรคนั้นถูกมองอย่างเคารพและวิหารของซาร์คิคที่พบนั้นก็มีของถวายเป็นต่อมน้ำเหลืองที่บวมโตกับเนื้องอก ลัทธิซาร์คิคนั้นถือว่าโรคติดต่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีไว้เพื่อ"คัดผู้อ่อนแอ"และชำระล้างมวลชน จึงได้พยายามทำให้มันแพร่ออกไปอย่างต่อเนื่อง
สถาบันได้แบ่งลัทธิซาร์คิคที่รู้จักออกเป็นสองกลุ่ม โปรโตซาร์คิค และ นีโอซาร์คิค ลัทธิโปรโตซาร์คิคนั้นพบได้ในชุมชนเดี่ยวทั่วไปในพื้นที่โดดเดี่ยวของยูเรเซีย สาวกของมันมักจะยากจน (แต่พึ่งพาตัวเอง) และมีท่าทีคุกคามต่อคนนอก กลุ่มนี้จะชิงชังความเป็นสมัยใหม่ แสดงอาการหวาดกลัวเทคโนโลยีขั้นรุนแรง และถูกผูกมัดด้วยความเชื่อและจารีต ในทางตรงกันข้าม ลัทธินีโอซาร์คิคนั้นมีความเป็นสากล ยอมรับความเป็นสมัยใหม่อย่างเปิดเผยและดูเหมือนจะไม่มีความหวาดหวั่นต่อเทคโนโลยี ชีวิตที่เปิดเผยต่อสาธารณะนั้นมีความแตกต่างจากคนอื่นๆในฐานะและวัฒนธรรมเดียวกันเพียงเล็กน้อย พวกนี้มักเป็นตระกูลที่มีฐานะซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องอื้อฉาว
ที่สุดแล้ว เชื่อว่าสถาบันยังรู้จักลัทธิซาร์คิคเพียงส่วนหนึ่งจากที่มันเป็นและความประสงค์ของสาวกเท่านั้น จากข้อมูลที่มีอยู่ คาดว่าเป้าหมายของลัทธิซาร์คิคจะเป็นการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจระดับSK รวมถึงความเป็นไปได้ของสถานการสิ้นโลกระดับXK
หัตถ์อสรพิษเป็นกลุ่มองค์กรขนาดเล็กแต่อันตรายมากซึ่งทำให้เกิดการกักกันรั่วไหลหลายครั้ง ได้พบกับบุคคลในกลุ่มอย่างน้อยสามคน โดยทั้งหมดได้ใช้งานสิ่งที่อาจจะเป็นหรือยืนยันได้แล้วว่าเป็นวัตถุผิดธรรมชาติในการลักลอบเข้ามา (รวมถึง SCP-268ที่ถูกขโมยไปจากสถาบัน ซึ่งสถาบันก็เก็บมาจากการกวาดล้างฐานของเคออสอินเซอร์เจนซีอีกที) ไม่ทราบว่าพวกมันมีสมาชิกอยู่เท่าไหร่ รวมทั้งเรื่องระดับเทคโนโลยี จำนวนSCPที่มี หรือระดับภัยคุกคามโดยรวม แต่แน่ชัดว่าพวกมันมีความร่วมมือกันอย่างดีและเป็นอันตรายมาก ตัวผู้นำนั้นคือบุคคลที่เรียกกันว่า L.S ซึ่งคาดว่าเป็นผู้ที่ทำให้เกิดการกักกันรั่วไหลสองครั้งด้วยตัวเอง
สถาบันรู้ข้อมูลเกี่ยวกับหัตถ์อสรพิษน้อยมาก และส่วนที่รู้นั้นเกือบทั้งหมดก็เป็นข้อมูลที่หลุดมาจากฝ่ายข่าวกรองของ GOC พวกมันดูเหมือนจะยอมรับการคงอยู่และใช้งานของวัตถุเหนือธรรมชาติ โดยเฉพาะSCPแบบมนุษย์และมีสำนึก พวกหัตถ์อสรพิษตำหนิมาตรการและการทำลายSCPพวกนี้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะSCPมนุษย์ที่ไม่มีอันตรายนัก
พวกมันมีความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นมิตรกับกับเคออสอินเซอร์เจนซีและORIAนัก รวมทั้งเป็นศัตรูตัวฉกาจกับGOC กรณีที่หัตถ์อสรพิษที่ใช้ความรุนแรงกับอีกฝ่ายก่อนที่บันทึกไว้นั้นมีเฉพาะต่อ GOC เท่านั้น
พวกมันดูเหมือนจะมีศูนย์กลางอยู่ที่สถานที่เหนือธรรมชาติที่เรียกว่า หอสมุด อาคารที่สามารถเข้าถึงได้ทางประตูซึ่งมีอยู่ในที่ต่างๆทั่วโลก การโจมตีหอสมุดโดยตรงนั้นไม่สามารถกระทำได้แม้จะสามารถหาทางเข้าได้แล้ว แต่การสืบสวนเบื้องต้นนั้นบ่งชี้ว่าพวกหัตถ์อสรพิษก็ไม่ค่อยเข้าใจและควบคุมที่นั่นไม่ได้เหมือนกัน
แผนกเหตุการณ์ผิดปกตินั้นก่อตั้งหลังสงครามเย็นเริ่มขึ้น ซึ่งหลายๆส่วนในรัฐบาลอเมริกันได้มุ่งเน้นความสนใจไปที่การใช้งานสิ่งผิดปกติและขัดขวางการกระทำเดียวกันของฝ่ายคอมมิวนิสม์ ทำให้มีการจัดตั้งแผนกพิเศษของFBIซึ่งมีเป้าหมายเพื่อการตอบสนองต่อเหตุการณ์และคดีผิดธรรมชาติ ผู้อำนวยการณ์ J. เอ็ดการ์ ฮูเวอร์นั้นมีความเกี่ยวข้องโดยตรงในการจัดตั้งมันขึ้นมา
แม้ว่าในช่วงแรกจะได้รับเงินทุนและทรัพยากรจากรัฐบาลอเมริกันอย่างมาก หลังจากที่สงครามเย็นจบลงและองค์กรศัตรูอย่าง GRU-P สลายตัวไปแล้ว UIU ก็อยู่ในสภาพถดถอยเป็นเวลาหลายปี
กลุ่มผิดธรรมชาติที่ใหญ่กว่านั้นมักเรียกอย่างล้อเลียนว่า "Xไฟล์" และ "UIUseless" สมาชิกของUIUนั้นมักมีเจตนาดี แต่เนิ่องจากขาดแคลนทรัพยากรเงินทุน กำลังคน และความติดขัดจากขั้นตอนทางการของรัฐบาลสหรัฐจึงทำให้ดูว่าไร้ประสิทธิภาพ อิทธิพลของสถาบันและกลุ่มพันธมิตรไสยศาสตร์โลกในรัฐบาลสหรัฐอเมริกานั้นได้ยับยั้งมิให้ UIU และองค์กรอื่นในรัฐบาลสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ผิดปกติ อย่างเช่นฝูงบิน 616 ของกองทัพอากาศสหรัฐ (ผู้ล้างแค้นแห่งรอสเวลล์) หรือ หน่วยนาวิกโยธินซีล ทีมบราโวปาปาโรมิโอเดลตา ต้องปิดตัวลงเสียทีเดียว
เจ้าหน้าที่ FBI และเจ้าหน้าที่พิเศษที่เข้าแผนกเหตุการณ์ผิดปกตินั้นมักมีภูมิหลังด้านจิตวิทยา STEM และศิลปศาสตร์ ตามที่เป็นส่วนหนึ่งของกฏ PATRIOT เจ้าหน้าที่ของแผนกนั้นจะต้องรับตัวระงับมีมแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Memetic Silencing Agents - PMSA ซึ่งเจ้าหน้าที่ของ UIU เรียกกันว่า "คำสั่งมัดปาก") เพื่อป้องกันความลับรั่วไหล
ในอดีตนั้น UIU นั้นเคยทั้งร่วมมือและต่อสู้กับองค์กรผิดปกติต่างๆ ซึ่งรวมถึงการร่วมปฏิบัติการต่อสู้โดยมีสถาบันดูแลในช่วงปี 1950s และ 1960s กับเหตุการณ์ "แบล็คมัมบา" ในอัฟกานิสถานในปี 1976 ซึ่งเป็นการต่อสู้อันอื้อฉาวระหว่างเจ้าหน้าที่ UIU กับสมาชิกของ GRU-P
ในปัจจุบันนั้น สาขาหนึ่งของแผนกเหตุการณ์ผิดปกติเป็นผู้ดูแลรัฐอิสระซึ่งผิดปกติ ทรีพอร์ทแลนด์ สภาพที่ขาดแคลนเงินทุนและกำลังคนในแผนกเหตุการณ์ผิดปกตินั้นสามารถเห็นได้จากสาขาเดียวที่ยังคงเหลืออยู่ในภาคตะวันตกกลางของสหรัฐ
ชื่อของสถานวิจัยการสร้างสรรค์และพัฒนาชีวิตแห่งญี่ปุ่น (Japan Organisms Improvement and Creation Laboratory = JOICL) ปรากฏอยู่ในหลายๆกรณีที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตที่ผิดปกติตั้งแต่สัตว์ พืช และสิ่งของซึ่งมีพฤติกรรมเหมือนสัตว์สิ่งมีชีวิตที่พบเกือบทั้งหมดนั้นมีลักษณะผิดปกติหรือถูกดัดแปลงซึ่งตามธรรมชาติแล้วเป็นไปไม่ได้หรือไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ทั่วไป และดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่คำนึงถึงหลักจริยธรรมโดยทั่วไปด้วย เชื่อกันว่าสถานวิจัยหรือกลุ่มของนักวิจัยนี้มีเทคโนโลยีบางอย่าง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถยึดมาได้เลย
ก่อนหน้านี้นั้นเชื่อว่า JOICL ไม่ทำการจำหน่ายหรือแจกจ่ายสิ่งผิดปกติโดยตรง แต่ในส่วนน้อยอย่างกรณี SCP-483-JP และ SCP-1919-JP นั้นทำให้สามารถยืนยันได้ว่าพวกมันจำหน่วยสิ่งที่สร้างขึ้นเป็นผลิตภัณฑ์ด้วย แต่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจเป้าหมายขององค์กร