The Tundra

The Tundra (2 สิงหาคม 2556)

Credited to David Feuling

ชนพื้นเมืองในแถบนี้เล่าขานกันว่าส่วนหนึ่งของทุ่งทุนดราทางตอนเหนือของที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของวิญญาณที่เป็นมิตร วิญญาณเหล่านี้จะมอบความรอบรู้และคำเตือนให้แก่ผู้ที่ไปเยือนมันในยามค่ำคืน เมื่อพระอาทิตย์ลับไปแล้วและความมืดมิดปกคลุมโลก ผมขับรถออกไปกลางทุ่งน้ำแข็งนั่นแล้วก็รอ ด้วยความหวังว่าจะได้เห็นอะไรก็ตามที่ทำให้คนเหล่านี้เคารพมัน พวกเขาส่งลูกๆของตนออกมาในคืนก่อนครบรอบวันเกิด15ปีเพื่อพบกับวิญญาณเหล่านี้ ห่มด้วยขนสัตว์หนาเพื่อไม่ให้แข็งไปซะก่อน เมื่อพวกเขาผ่านมันมาแล้ว เด็กๆก็จะวิ่งกลับบ้านไปหาพ่อแม่และบอกเล่าสิ่งที่รู้ จากนั้นเด็กคนนั้นก็จะนับเป็นผู้ใหญ่ในหมู่บ้านนั้น คู่รักจะไปเยือนทุ่งทุนดราในคืนก่อนแต่งงาน ทั้งหมู่บ้านจะเฝ้ารอพวกเขากลับมาตลอดคืน เพราะเมื่อพวกเขากลับมานั้นทั้งคู่ก็จะตัดสินใจได้ว่าจะแต่งงานกันหรือล้มเลิกเสีย พวกผู้เฒ่าจะไปยังทุ่งทุนดราเมื่อพวกเขาเจ็บป่วย และบ่อยครั้งที่อาการหนักขึ้นเพราะการอยู่ท่ามกลางอากาศเย็นตลอดคืน แต่เมื่อพวกเขากลับมานั้น มีบ่อยครั้งที่จะมีท่าทีสงบอย่างมาก

ด้วยเหตุนั้นผมจึงเฝ้ารอ ด้วยใคร่เห็นในปรากฏการณ์ที่อาจมีอิทธิพลต่อผู้คนอย่างใหญ่หลวง ผมเฝ้ารออยู่หลายชั่วโมง สวมเสื้อขนสัตว์กันหนาวนั่งรอบนกระโปรงรถกระบะของตัวเอง ผมรอจนกระทั่งรู้สึกเหมือนกำลังจะแข็งตายทั้งที่สวมชุดหนาขนาดนั้น

ผมได้ยินเสียงของวิญญาณก่อนจะเห็นตัวมัน เสียงบดหิมะท่ามกลางความเงียบงันนั้นทำให้ผมกระโจนลงจากรถแล้วหันกลับไป ชายผิวสีเทาหลังค่อมยืนห่างออกไปไม่กี่เมตร ดวงตาสีเหลืองเศร้าสร้อยนั้นมองผมกลับมาจากหัวกะโหลกที่มีผมมันๆขึ้นอยู่ไม่เท่าไหร่ เขาหอบหายใจอย่างหนักสั่นสะเทือนซี่โครงอันบอบบางนั่น และแขนข้างหนึ่งก็ดูเหมือนมันจะแตกละเอียดแล้วก็ไม่ได้รับการดูแล ปล่อยให้มันต่อกันเองอย่างผิดรูป ขาที่กางออกนั้นเต็มไปด้วยรอยแผลร้ายแรง ชายคนนั้นมองผมอยู่ราวสิบวินาทีได้ หายใจเอาอากาศเย็นเข้าไป แล้วหายใจออกเป็นไอชื้นน่าขนลุก ก่อนจะหายตัวไปเมื่อผมกะพริบตา

ผมมองหาเขาไปรอบๆ แต่เขาหายไปแล้วจริงๆ เมื่อไปที่ที่เขาเคยยืนอยู่ ผมพบรอยเท้าเปื้อนเลือดคู่หนึ่งบนผืนหิมะ ด้วยความคุ้มคลั่งเพราะหวาดกลัว ผมขึ้นรถแล้วกลับไปหมู่บ้านอย่างเร็วที่สุดเท่าที่หิมะอำนวย ชาวบ้านสองสามคนรอผมอยู่ตอนที่ผมไปถึง รู้ว่าผมไปไหนมาและอย่างรูในสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ผมรีบลงจากรถลงไปหาชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่สุด "ไอ้วิญญาณพวกนี้มันเป็นมิตรยังไง? อะไรที่มันรอบรู้นัก? พวกมันช่วยพวกคุณยังไง?"

"คุณเห็นอะไรเหรอ?" เขาถาม สีหน้าของเขาตอนนี้สะท้อนความกลัวของผมราวกับกระจก "ผมเห็นผู้ชายที่พิการอย่างน่ากลัวแล้วก็ป่วยหนักด้วย!" ผมตะโกนใส่หน้าเขา แล้วชาวบ้านที่อยู่รอบๆก็ถอยออกไปห้าวหนึ่ง "ทำไม? นั่นหมายถึงอะไรกันแน่?" ผมขอร้องเขา "วิญญาณพวกนี้บอกอยู่เรื่องเดียว" ชายคนนั้นอธิบาย "พวกเขาให้เห็นตัวผู้ไปเยือนเอง หนึ่งปีในอนาคต"