SCP-2082 (28 เมษายน 2557)
ระดับวัตถุ Neutralized
มาตรการกักกันพิเศษ
ให้เก็บตัวอย่างDNAทั้งหมดที่รู้ของSCP-2082ไว้ในยูนิตกักกันชีวภาพแบบมาตรฐานในศูนย์190 ให้แจกจ่ายของปลอมที่ไม่มีลักษณะผิดปกติไปให้องค์กรวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่ทุกแห่งที่เชื่อว่ามีส่วนหนึ่งของSCP-2082เก็บไว้ ให้เจ้าหน้าที่แฝงตัวในสังคมวิทยาศาสตร์ขัดขวางการพยายามสร้างวิทยาการนี้นอกสถาบันทั้งหมด อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการสร้างตัวอย่างของSCP-2082นั้นให้เก็บไว้ในสภาพแยกชิ้นส่วนแล้วในศูนย์77
ลักษณะ
SCP-2082เป็นสายพันธุ์ย่อยที่สูญพันธุ์ไปแล้วของสัตว์ที่เรียกกันว่าแมมอธขนยาว (Mammuthus primigenius) ในขณะที่ยังมีชีวิตนั้นความสูงถึงไหล่ของมันอยู่ที่ประมาณ 2.7 ถึง 3.4 เมตร และหนักได้ถึง 6 ตัน มันสูญพันธุ์ไปเมื่อประมาณ 4,000 ปีก่อน โดยประชากรส่วนใหญ่นั้นได้ตายไปเมื่อ10,000ปีก่อน
การสังเกตการตัวอย่างของSCP-2082นั้นทำได้จำกัด ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีสิ่งที่ใช้ระบุรูปลักษณ์ของSCP-2082อย่างแม่นยำได้ เพราะผลกระทบเชิงทำลายล้างของSCP-2082ต่อสภาพแวดล้อมรอบตัวมัน เมื่อตัวอย่างของSCP-2082ถูกสร้างขึ้นก็จะส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิในระยะ250เมตรรอบตัวมันทันที อุณหภูมิพื้นผิวจะลดลงไปที่ -10 องศาเซลเซียสอย่างฉับพลัน ซึ่งมักจะทำให้ผู้ที่อยู่ในระยะของผลกระทบทั้งหมดเสียชีวิต เมื่อตัวอย่างของSCP-2082เริ่มเคลื่อนไหว พื้นที่ของผลกระทบก็จะเคลื่อนที่ตามไปด้วยโดยที่พื้นที่ที่มันเคยอยู่นั้นก็จะยังคงมีผลกระทบอยู่
เมื่อพื้นที่ผลกระทบครอบคลุมพื้นที่ไปอีกมากกว่า 20 ตารางเมตร พื้นที่รอบตัวมันก็จะเริ่มมีน้ำแข็งและหิมะจำนวนมากจับตัวตามผิวหน้าของวัตถุแข็งทั้งหมด นอกจากนั้น 4นาทีหลังจากที่มาถึงจุดนี้ รัศมีผลกระทบของSCP-2082ก็จะขยายเพิ่มเป็น 1 กิโลเมตร หิมะและน้ำแข็งที่เกิดจากSCP-2082นั้นจะเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งพื้นที่นั้นดูราวกับเกิดพายุหิมะ SCP-2082นั้นมีความทนทานต่อผลกระทบของมันเอง
การพัฒนาวิทยาการที่ทำให้สร้างSCP-2082ได้นั้นเริ่มขึ้นในปี 1962 ซึ่งสถาบันได้พัฒนาวิทยาการโคลนนิงเพื่อสร้างตัวอย่างของSCP-2082ขึ้นมาใหม่ โดยใช้เนื้อเยื่อและส่วนที่ยังเหลืออยู่ด้วยการแช่แข็งอื่นๆซึ่งซื้อมาจากพิพิธภัณฑ์ต่างๆและ[ข้อมูลปกปิด] โครงการนี้กำกับและนำโดยดร.แอสเชอร์ และทีมวิจัยเล็กๆของแอเรียวิจัย908 ระหว่างเดือนตุลาคม 1962 ถึง มิถุนายน 1983 นั้น พวกเขาได้พยายามสร้างSCP-2082ขึ้นมาใหม่โดยการใช้วิทยาการ วิทยาการที่ใช้ในการสร้างSCP-2082นั้นไม่ใช่สิ่งผิดธรรมชาติ และวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ก็เป็นเพื่อบุกเบิกด้านกระบวนการโคลนนิง
เครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับSCP-2082
ในขณะนี้ การศึกษาเพื่อทำการโคลนตัวอย่างเผ่าพันธุ์อื่นๆเพิ่มนั้นได้ล้มเลิกไปทั้งหมด เนื่องจากความเสียหายใหญ่หลวงที่เกิดจากเหตุการณ์2082-Prime
ข้อมูลเพิ่มเติม:
ไฟล์2082-01: เอกสารที่เก็บมาได้จากศูนย์ภายนอก62-B เกี่ยวกับเหตุการณ์2082-Prime เอกสารนี้เป็นข้อมูลสำรองที่ไว้โดยอัตโนใติ เนื่องจากข้อมูลเดิมทั้งหมดนั้นถูกทำลายไปแล้ว
ปูมการทดลองสุดท้าย: วันที่ 4 กรกฎาคม 1983 ได้รับการอนุมัติโดยนักวิจัยสตีเวนส์ นักวิจัยรุ่นเยาว์ บอยด์ และทำการกำกับจากทางไกลโดย เจ้าหน้าเฟรเดอริคส์
การทดลองเครื่องมือโคลนนิงในช่วงแรกนั้นจบลงด้วยความหายนะอย่างเต็มรูปแบบ อาคารทดลองเหลือเพียงเศษผงที่แข็งตัว และเชื่อว่าบุคลากรผู้วิจัยหลักทั้งหมดนั้นเสียชีวิตแล้ว ได้ดำเนินการปิดกั้นศูนย์ และทีมวิจัยที่เหลือก็เชื่อว่าระเบิดนิวเคลียร์ประจำศูนย์จะทำงานหากเกิดความเสียหายเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งก็มีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่าเป็นเช่นนั้น
สิ่งที่ออกมาจากห้องทดลองนั้นดูเหมือนจะเป็นโคลนวัยรุ่น (Mammuthus primigenius) ทันทีที่เปิดประตูห้อง อุณหภูมิก็ลดลงไปที่-10 องศาเซลเซียสและลดลงไปเรื่อยๆ บุคลากรฝ่ายวิจัยทั้งหมดในห้องทดลอง หอพัก และอาคารภายในนั้นถูกเชื่อว่าเสียชีวิตแล้วเมื่ออุณหภูมิในสถานที่ทั้งหมดลดลงไปถึง -190 องศาเซลเซียส
หากว่ามีบุคลากรของสถาบันพบบันทึกนี้แล้ว โปรดบันทึกไว้ว่าเจ้าสิ่งนี้ดูเหมือนจะไม่มีลักษณะโดดเด่นทางกายภาพเลย นอกจากที่มันทนต่อผลกระทบของมันเองได้ อ[ข้อมูลขาดไป]
หลังปฏิบัติการเก็บกู้และเก็บกวาดแอเรียวิจัย908 จึงได้พบซากของSCP-2082ห่างไปจากศูนย์ประมาณหนึ่งกิโลเมตร ผลการชันสูตรบ่งชี้ว่ามันเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ซึ่งเป็นผลจากกระบวนการโคลนนิงที่ไม่สมบูรณ์