SCP-1795

SCP-1795 (26 ธันวาคม 2555)

ระดับวัตถุ Safe

มาตรการกักกันพิเศษSCP-1795ทั้งหมดนั้นอยู่ในอวกาศที่ห่างไกลไปมาก และมีขนาดที่ใหญ่กว่าโลก ขณะนี้จึงไม่มีทางกักกันSCP-1795ได้ ให้ติดตามการเคลื่อนไหวของSCP-1795และจับตาดูวงจรการสร้างในกรณีที่มีอะไรใหม่ บุคลากรของสถาบันที่อยู่ในNASA ESA และหอดูดาวระยะไกลยืนยันว่าไม่มีSCP-1795ในระยะยี่สิบปีแสงจากโลก การวิเคราะห์สภาพของอวกาศในระยะสามสิบปีแสงนั้นกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ให้ทำการระงับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดใดๆ (อย่างเช่น การค้นหาดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ) จากดาวที่มีชื่ออยู่ใน เอกสาร B1795 โดยกลุ่มอื่นนอกจากสถาบันทันที เนื่องจากดาวทั้งหมดในนั้นล้วนแต่มีSCP-1795ในระยะการสร้างต่างๆอยู่ ให้จับตาดูการตรวจสอบดาวเกิดใหม่ใดๆทั้งของสาธารณะชนหรือรัฐบาลซึ่งยังไม่ถูกสถาบันตรวจสอบ เพื่อคอยระวังข้อมูลที่จะบ่งชี้ถึงการคงอยู่ในจักรวาลนี้ของSCP-1795 ในกรณีที่เกิดเรื่องขึ้นจริง ก็ให้ใช้การลบความจำแบบAกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกคน และอายัติข้อมูลทั้งหมดเพื่อให้สถาบันได้นำไปวิเคราะห์และลบออกจากข้อมูลสาธารณะตอนนี้ได้ค้นพบว่าความหนาแน่นของประชากร SCP-1795 นั้นแตกต่างกันไปตามบริเวณของกาแล็กซี พื้นที่ใกล้กับโลกนั้นมีน้อย ในระยะ 1,000 ปีแสงนั้น มีดาวเพียง 1 ใน 1,000,000 ดวงเท่านั้นที่มีSCP-1975 ในพื้นที่ที่มีดาวหนาแน่นอย่างคลัสเตอร์ทรงกลมหรือเนบิวลานั้น จำนวนของมันก็อาจเพิ่มขึ้นได้ถึง 1 ใน 1,000 จำนวนโดยประมาณของSCP-1795ในกาแล็กซีนี้อยู่ระหว่าง หนึ่งพันล้านตัว จนถึง มากกว่าห้าหมื่นล้านตัว

ลักษณะ

เนื่องจากพวกมันอยู่ห่างจากโลกมาก จึงไม่สามารถทำการสังเกตการโดยตรงได้ด้วยเทคโนโลยีของกล้องโทรทัศน์ในปัจจุบัน แต่จากการใช้ SCP-███จึงสามารถทำการสังเกตการณ์ทางอ้อมได้อย่างละเอียดทีเดียว และการใช้ลักษณะพิเศษของ SCP-███ยังสามารถสังเกตพฤติกรรมของSCP-1795ในช่วงสิบห้าล้านปีที่ผ่านมาได้ด้วย SCP-1795นั้นเป็นสิ่งที่มีรูปทรงแบบคล้ายทรงกลม ในบางมุมแล้วเหมือนกับหัวใจมนุษย์ โดยมีช่องกลมขนาดใหญ่เปิดอยู่ด้านบนสามช่องและภายในจะกลวง แม้ว่าดูภายนอกแล้วมันเหมือนจะประกอบจากวัตถุชีวภาพ การสังเกตอย่างใกล้ชิดก็พบว่ามันไม่อาจเทียบเคียงได้กับวัตถุชีวภาพอื่นๆ และโครงสร้างบางส่วนก็น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นเป็นอย่างน้อย ตัวอย่างของSCP-1795นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดที่สถาบันรู้จัก ส่วนใหญ่แล้วมีขนาดใหญ่กว่า 50,000 กิโลเมตร

ไม่ทราบว่าSCP-1795มีสติปัญญาหรือไม่ แม้มันจะสามารถทำงานที่ซับซ้อนได้ ตามที่ระบุไว้ในรายละเอียดด้านล่าง ก็ไม่ทราบว่ามันมีสำนึกรู้ตัวและกระทำการเหล่านั้นด้วยความตั้งใจเอง หรือว่ามันทำงานด้วยสัญชาตญาณแบบสัตว์ ไม่ปรากฏว่าพวกมันใช้วิทยาการใดๆ และเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่เร็วกว่าที่เทคโนโลยีด้านจรวดในปัจจุบันทำได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น พวกมันจึงใช้เวลานับล้านหรือพันล้านปีในการเดินทางระหว่างดวงดาว ตามแต่เป้าหมาย หากพวกในไม่เป็นอมตะแล้ว อายุขัยของพวกมันก็ต้องยาวมากเช่นกัน เป็นที่น่าสังเกตว่าที่สถาบันได้ทำการสังเกตการตลอดเวลา ████ ███████ปีนั้น ไม่มีกรณีที่SCP-1795 ตายหรือถูกทำลายเลย และก็ไม่มีกรณีของการขยายพันธุ์ สร้างตัวเองใหม่ หรือพบกับSCP-1795ตัวอื่นด้วย

SCP-1795นั้นมีลักษณะผิดปกติอยู่สองประการ ซึ่งเป็นพฤติกรรมธรรมชาติที่เรารู้ทั้งหมดของมัน ข้อแรกก็คือ SCP-1795นั้นจะตามหาดวงดาวเกิดใหม่และเข้าไปในวงโคจรของมันเสมอ แต่จากข้อเท็จจริงที่ว่าSCP-1795นั้นใช้เวลาเป็นพันล้านปีในการเดินทางระหว่างดวงดาว SCP-1795จึงต้องเริ่มเดินทางนับล้านปีก่อนที่ดาวนั้นจะก่อตัว คำอธิบายข้อหนึ่งของSCP-1795 เจ็ดตัวที่อยู่ในสภาพสงบ (ไม่มีการเคลื่อนไหว) นั้นก็คือ พวกมันเพียงแต่รอเวลาที่ดาวเป้าหมายก่อตัว

ลักษณะที่สองนั้นสังเกตเห็นได้ง่ายกว่าและเป็นที่เข้าใจมากกว่าด้วย เมื่อSCP-1795ไปถึงดาวเกิดใหม่ มันก็จะเข้าไปในวงโคจรบริเวณที่อำนวยต่อสิ่งมีชีวิต หรือ”เขตอาศัยได้” ซึ่งมีอุณหภูมิเหมาะสมต่อสิ่งมีชีวิตตามความเข้าใจของโลก จากนั้นมันก็จะสร้างดาวเคราะห์ วิธีการที่มันใช้สร้างดาวเคราะห์นั้นยังไม่เป็นที่เข้าใจนัก แต่สามารถแบ่งได้เป็นแปดระยะอย่างชัดเจน ตามที่ระบุในเอกสารด้านล่าง ดาวเคราะห์ทั้งหมดที่พวกมันสร้างเป็นดาวหินขนาดพอๆกับโลก มีชั้นบรรยากาศที่หายใจได้ มีขั้วแม่เหล็ก มีดวงจันทร์ที่สมบูรณ์ และเหมาะสมต่อการอยู่อาศัยอย่างมากเสมอ จากการใช้ SCP-███อย่างหนักเพื่อศึกษาปรากฏการนี้ และการที่สถาบันพบSCP-1795เกือบห้าร้อยล้านตัวแล้ว วงจรการสร้างของมันจึงได้รับกรศึกษาอย่างมาก

เอกสารA1795 วงจรการสร้างดาวเคราะห์ของ SCP-1795

ระยะที่หนึ่ง ช่องด้านบนของSCP-1795เปิดขยายออกและสูบเอาเทหวัตถุในอวกาศเข้าไป ทั้งที่เป็นก๊าซและเศษหิน วัสดุทั้งหมดถูกเอาไปรวมกันเป็นทรงกลมหยาบๆในSCP-1795 โดยส่วนที่เป็นหินจะถูกอัดเป็นทรงกลมแข็งแน่นซึ่งมีแรงโน้มถ่วงดึงก๊าซไว้ เหมือนการก่อตัวของดาวเคราะห์ตามธรรมชาติ เมื่อดาวเคราะห์เกิดใหม่มีแรงโน้มถ่วงพอจะคงสภาพบรรยากาศได้เองแล้ว ช่องด้านบนก็จะปิดแล้วเข้าสู่ระยะที่สอง

ระยะที่สอง ด้านนอกบางส่วนของSCP-1795จะเริ่มแผ่ความร้อน เชื่อว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และไนโตรเจนไดออกไซด์ จะถูกแปลงเป็นออกซิเจนและไนโตรเจนในบริเวณนี้ ดาวเคราะห์เกิดใหม่นั้นจะเริ่มมีการประทุของแม็กมาเมื่อปริมาณออกซิเจนในSCP-1795เพิ่มสูงขึ้น ไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นเงื่อนไขให้เกิดระยะต่อไป

ระยะที่สาม SCP-1795จะปล่อยใยออกมาจากในตัว ซึ่งจะยึดกับผิวของดาวเคราะห์ตามจุดต่างๆ รายละเอียดของกระบวนการนี้ยังไม่ทราบแน่ แต่สนามแม่เหล็กของดาวเคราะห์ก็จะก่อตัวในช่วงนี้ เมื่อสนามแม่เหล็กมีความเข้มข้นพอจะป้องกันลมสุริยะได้ก็จะเข้าสู่ระยะที่สี่

ระยะที่สี่ SCP-1795จะหดตัวลงโดยรอบดาวเคราะห์ในระยะนี้จึงสังเกตการณ์ได้ยาก แต่ก็อนุมานได้ว่าSCP-1795ใส่น้ำลงไปบนดาวเคราะห์ในช่วงนี้ ร่องบริเวณเส้นวงของSCP-1795จะเปิดออกแล้วปล่อยก๊าซสีขาวซึ่งไม่ทราบส่วนประกอบออกมา ก๊าซนั้นจะปกคลุมรอบตัวSCP-1795 และถูกทิ้งไว้เป็นทางตามวงโคจร ทำให้ไม่อาจทำการสังเกตการณ์โดยตรงได้ตลอดช่วงที่เหลือของระยะนี้ ซึ่ง ณ จุดนั้น ร่องรอบSCP-1795ก็จะปิด และดาวเคราะห์ก็มีมหาสมุทรกับพื้นดินที่ชัดเจนแล้ว

ระยะที่ห้า SCP-1795จะปล่อยวัตถุทรงกลมหยาบๆไม่ทราบส่วนประกอบขนาดประมาณสองกิโลเมตรออกมา ซึ่งจะกระแทกกับดาวเคราะห์และทำลายพื้นดินรอบๆบริเวณนั้นเป็นวงกว้าง ตอนแรกนั้นคณะนักวิจัยเชื่อว่า SCP-1795พยายามแก้รูปแบบของพื้นดิน แต่การศึกษาต่อมาจึงพบว่าทรงกลมนั้นอยู่ในสภาพดีและปล่อยสิ่งประดิษฐ์รูปร่างต่างๆออกมาเป็นจำนวนมาก มีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้เนื่องจากข้อจำกัดในการขยายของ SCP-███ แต่ก็ทราบว่าพวกมัน ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า SCP-1795-2 มีรูปร่างเหมือนแมงมุมและมีขนาดประมาณ 20 เมตร เชื่อว่าพวกมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่แท้จริง เนื่องจากดูเหมือนว่าพวกมันจะทำงานตามความต้องการของSCP-1795เท่านั้น โดยพวกมันจะทำลายตัวเองทั้งหมดเมื่อพ้นระยะที่เจ็ดไปแล้ว ไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นเงื่อนไขให้เกิดระยะต่อไป แต่นักวิจัยบางคนเชื่อว่ามันจะเริ่มเมื่อSCP-1795-2มีจำนวนมากกว่าห้าพันล้านตัว

ระยะที่หก สิ่งที่ออกมาจาก SCP-1795 จะเริ่มทำสิ่งที่เข้าใจกันว่าเป็นการปรับสภาพสิ่งแวดล้อม ในกรณีของSCP-1795-E พฤติกรรมที่เห็นนั้นเต็มไปด้วยความย้อนแย้งและมีกิจกรรมมากมาย ซึ่งรวมทั้งการขุดภูเขาเป็นเศษหิน การสร้างเกาะเทียม ทำให้มหาสมุทรสามแห่งลึกกว่าเดิม และการทำลายทวีปที่เล็กที่สุดจนราบคาบโดยทำให้ภูเขาไฟขนาดใหญ่ระเบิด โดยดูเหมือนจะแทบไม่สนใจที่พวกตนต้องตายไปเป็นจำนวนมากเลย เมื่องานทั้งหมดเสร็จสิ้นลง SCP-1795-2ทั้งหมดก็จะไปรวมตัวกันตามจุดต่างๆบนพื้นดิน และเข้าสู่ระยะต่อไป

ระยะที่เจ็ด ระยะก่อนสุดท้ายที่มีการศึกษามากที่สุด เมื่อSCP-1795-2ทั้งหมดไปรวมตัวกันตามจุดที่มีตำแหน่งทางภูมิศาสตร์อย่างแน่ชัดแล้ว พวกมันก็จะทำการสร้างสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่โดยใช้วัสดุที่หาได้ในบริเวณนั้น สิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นมีขนาดและรูปทรงต่างกันไปตามแต่ตำแหน่งและทรัพยากรที่มี แต่ก็สามารถแบ่งออกได้เป็นสามพวก

เมือง ตามบริเวณขอบทวีปนั้น ส่วนใหญ่แล้ว SCP-1795จะสร้างอาคารที่พักซึ่งคล้ายกับเมืองของโลกมาก เต็มไปด้วยตึกทรงสี่เหลี่ยมและล้อมด้วยถนนกับพื้นที่เปิดกว้าง ดูเหมือนว่าอาคารเหล่านี้จะออกแบบไว้สำหรับสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเท่ามนุษย์

ลาน ลึกเข้าไปในแผ่นดิน SCP-1795-2จะใช้หินสร้างลานทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่ ซึ่งแต่ละด้านจะยาวประมาณสามกิโลเมตรและมีถนนต่อไปถึงเมืองที่อยู่ใกล้ที่สุด อาจจะเป็นลานจอดยานอวกาศก็ได้

หอคอย ในส่วนที่เป็นเกาะ SCP-1795-2จะสร้างอาคารที่เหมือนหอคอยสูงตั้งแต่ 1-2 กิโลเมตร และมีฐานกว้าง ที่ยอดจะมีรูปทรงคล้ายมนุษย์กางแขนถือวัตถุทรงกลมใสอยู่ ไม่ทราบว่ามีไว้ทำอะไร

แม้จะทำการสังเกตสิ่งปลูกสร้างเหล่านี้อย่างละเอียด แต่สถาบันก็ไม่พบว่ามีสิ่งใดเข้าไปอาศัยหรือใช้งานอาคารที่SCP-1795-2สร้างไว้เลย แม้จะมีบริเวณที่แน่ชัดว่าเป็นสวนหรือฟาร์มใกล้กับเมือง ก็ไม่เคยพบพืชพรรณบนดาวที่SCP-1795สร้าง มีทฤษฏีว่าผู้อยู่อาศัยคงจะตั้งใจปลูกระบบนิเวศน์เองเมื่อไปถึง แต่สถาบันก็แคลงใจกับการไปถึงของผู้อยู่อาศัยมาก เพราะมีหลักฐานว่าเมื่อSCP-1795ไปจากดาวนั้นแล้ว อาคารเหล่านั้นก็จะทรุดโทรมและกลายเป็นซากปรักหักพังไปหลังจากหลายสิบปีที่SCP-1795จากไป เมื่อสร้างสิ่งปลูกสร้างจนเสร็จหมดแล้ว SCP-1795-2ทั้งหมดก็จะฆ่าตัวตายโดยการตัดคอตัวเอง และเข้าสู่ระยะที่แปด

ระยะที่แปด SCP-1795จะไปจากดาวดวงนั้น ด้านล่างของSCP-1795จะเปิดออกกว้าง แล้วSCP-1795ก็จะเคลื่อนที่ออกไปโดยทิ้งดาวเคราะห์ไว้ในวงโคจร มันจะเริ่มหาดาวเกิดใหม่ดวงอื่นทันที

แม้ว่าดาวทั้งหมดที่SCP-1795จะมีสภาพเหมาะสมต่อการอยู่อาศัยอย่างมาก และมีสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ที่แน่ชัดว่ามีไว้ให้สิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาอาศัยหรือใช้งาน (ดูข้อมูลเพิ่มเติมจาก เอกสารA1795) ก็ไม่เคยมีชีวิตเกิดขึ้นบนดาวที่SCP-1795สร้างเลย และไม่เคยพบสิ่งใดอาศัยหรือใช้งานอาคารที่SCP-1795สร้างทิ้งไว้ด้วย สถาบันค่อนข้างกังขาว่าจะมีอะไรไปถึงในเวลาต่อมา เพราะจากกรณี SCP-1795-███ อาคารที่ไม่ได้รับการดูแลเหล่านั้นจะทรุดโทรมและกลายเป็นซากปรักหักพังไปหลังจากหลายสิบปีที่SCP-1795ไปจากดาวนั้น

ได้มีการพบเห็นSCP-1795สร้างดาวจนสมบูรณ์ในวันที่ 22/03/██ โดยSCP-1795-██████ได้เปิดช่องด้านบนออกแล้วเคลื่อนออกไปจากดาวเคราะห์ SCP-1795-█ เริ่มเดินทางไปยังแถบ████████ทันที ดูเหมือนว่ามันจะเคลื่อนที่โดยการปล่อยก๊าซออกจากภายในตัวที่กลวง ระหว่างทางที่มันเคลื่อนที่ไปจึงมีส่วนตัวที่ยืดยาวขึ้นเพราะแฟบลงช้าๆจากการปล่อยก๊าซ

ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าSCP-1795สร้างดาวเคราะห์เพื่ออะไร หรือพวกมันมีจุดประสงค์ใด และก็ยังไม่ทราบเช่นกันว่าพวกมันมีแผนการร่วมกันหรือแยกกันทำงานอย่างเป็นอิสระ

ข้อมูลเพิ่มเติม I1795

จาก: ดร. แอล. ริชเตอร์

ถึง: O5-█

ผมขออนุญาตให้ใช้ SCP-███ติดต่อกับ SCP-1795-M/129อีกครั้ง จากการศึกษาSCP-1795ทั้งหมดสิบสามกรณีอย่างถี่ถ้วน ผมว่ามันจะแปลกมากถ้าSCP-1795สื่อสารกันไม่ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น ทำไมพวกมันถึงหลีกเลี่ยงการไปเจอกันที่ดาวดวงเดียวกัน หรือกลับไปดาวที่เคยมีSCP-1795อยู่ได้? และถ้าพวกมันสื่อสารกันได้ เราก็ย่อมจะทำได้ด้วยไม่ใช่หรือ?

ผมเชื่อว่า SCP-███ที่ดัดแปลงแล้วจำนวนหนึ่งจะสามารถใช้ส่งและรับสัญญาณได้ ทำให้มันเหมาะสมมากในการสื่อสารกับSCP-1795 ไม่ว่าพวกมันจะอยู่ห่างจากโลกขนาดไหน ด้วยเหตุนี้ ผมจึงขอคำอนุมัติการดัดแปลงSCP ตามรายละเอียดในเอกสาร U1795ที่แนบมาด้วย ความรู้ที่เราจะได้จากสัตว์พวกนี้น่าจะเป็นสิ่งที่สะเทือนแผ่นดิน และอย่างน้อยก็ทำให้เราเข้าใจพฤติกรรมของพวกมันได้ดีขึ้น

ผมต้องขอขอบคุณสำหรับความอดทนของท่าน และขอให้คิดเรื่องเอกสารU1795อย่างรอบคอบและถี่ถ้วนด้วย

ขอแสดงความนับถือ

ดร. แอล. ริชเตอร์

จาก: O5-█

ถึง: ดร. แอล. ริชเตอร์

ไม่อนุมัติคำร้อง จะไม่มีการดัดแปลง SCP-███ หรือสื่อสารกับSCP-1795ตัวใดๆจนกว่าพวกเราจะเข้าใจมันดีกว่านี้

ด้วยความนับถือ

O5-█

จาก: ดร. แอล. ริชเตอร์

ถึง: O5-█

ด้วยความนับถือ ผมคิดว่าท่านไม่เข้าใจสิ่งที่บ่งบอกจากพฤติกรรมของ SCP-1795 พวกมันเป็นเครื่องจักร อันนี้ผมแน่ใจเลยทีเดียว จักรกลชีวภาพ ใช่ แต่มันก็เป็นเครื่องจักรอยู่ดี มีเครื่องจักรก็ต้องมีผู้สร้าง และเมื่อมีผู้สร้าง ก็แปลว่าเครื่องจักรของเขาต้องมีหน้าที่ หน้าที่ของSCP-1795นั้นชัดเจนเลยทีเดียว นั่นคือการสร้างโลกที่เหมาะสมกับชีวิตของผู้ที่สร้างพวกมันขึ้นมาและเตรีมพร้อมสำหรับการมาเยือนของพวกเขา แนวทางที่พวกมันทำมาเป็นหลายร้อยล้านปีแล้ว

แต่มันอยู่นอกการควบคุมไปแล้ว! จากการศึกษาทั้งหมดของพวกเรา ไม่เคยมีใครไปอาศัยบนดาวพวกนั้น ไม่มี ‘เจ้านาย’ ไปครองดาวที่พวกมันสร้าง เป็นไปได้หรือไม่ว่า’เจ้านาย’พวกนี้จะตาย สาบสูญ หรือแยกกันไปคนละทิศทางหมดแล้ว? และเครื่องจักรพวกนี้ก็เป็นของที่เหลืออยู่ สร้างโลกใบแล้วใบเล่าอย่างไร้จิตใจ?

แต่ลองคิดดูอีกอย่าง โลกพวกนี้ถูกสร้างขึ้นมาเหมือนโลกของเรามาก จริงๆแล้ว พวกมันเหมาะจะให้มนุษย์อาศัยอยู่อย่างสมบูรณ์เลยทีเดียว อาคารพวกนี้ถูกออกแบบให้ใช้สอยโดยสิ่งที่มีขนาดและรูปร่างเท่ามนุษย์ ผมพูดได้เต็มปากเลยว่าโลกเหล่านั้นถูกออกแบบไว้ให้เรา สร้างไว้ให้เรา ได้โปรดเถอะ อารยธรรมใดก็ตามที่สร้างสิ่งที่เป็น SCP-1795 ได้ต้องไม่มีทางถูกทำลายราบคาบแน่ ต้องมีผู้รอดชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง กระจัดกระจายไปตามพื้นที่ห่างไกลในกาแล็กซีนี้ สิ่งนี้อนุมานได้หลายอย่าง แต่ผมคนหนึ่งล่ะ ที่เริ่มสงสัยแล้วว่า SCP-1795น่าจะยอมเชื่อฟังคำสั่งของมนุษย์

ผมได้แนบเอกสารU1795มาให้พิจารณาอีกครั้ง

ขอแสดงความนับถือ

ดร. แอล. ริชเตอร์

ข้อมูลเพิ่มเติม J1795

ต่อไปนี้เป็นเสียงที่ได้รับหลังจากที่ดร. แอล. ริชเตอร์ได้ทำการสื่อสารเบื้องต้นกับ SCP-1795-M/129 ด้วย SCP-███ เสียงนั้นคล้ายกับเสียงของหญิงสาว ภาษาที่ใช้นั้นตรงกับภาษา██████โบราณ ข้อความแปลแล้วดังนี้

++ข้อความเริ่มเมื่อ 12/06/██ 13:24++

โอ นายท่าน

[คลื่นแทรก]หายไปนานเลยนะคะ สงคราม น่ากลัว การล้างเผ่าพันธุ์ของ (แปลตรงๆได้ว่า ‘ผู้กรีดร้องอย่างมีรูปแบบ’) พวกเรา[คลื่นแทรก]สูญพันธุ์ พวกเราไม่รู้! พวกเราได้แต่หนีมา สร้างไว้รอผู้รอดชีวิต แต่เราก็กลัวว่างานของเราจะ (คลื่นแทรก อาจจะเป็น’ไร้ประโยชน์’หรือ’เสียเปล่า’) แต่เราก็ไม่กล้าแม้จะหวังว่ามีใครรอดอยู่ในส่วน[คลื่นแทรก]ของกาแล็กซี[คลื่นแทรก]

ชอบงานของพวกเราไหมคะ? ใช้เวลาตั้ง[คลื่นแทรก] และเราก็กลัวว่ามันจะไม่มีวันจบซะแล้ว อาณาจักรของพวกเราเคยรุ่งเรืองใน[คลื่นแทรก] และตอนนี้ มันก็จะเป็นเช่นนั้นอีกครั้ง

นายท่าน โอ นายท่าน

พวกเราจะกลับบ้านแล้ว

++จบข้อความ++