มันไม่ได้สะกดแบบนั้นสักหน่อย!

It's Not Spelled Like That!

"หมอนั่นอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหนแล้ว?" ผู้อำนวยการศูนย์ถามขณะที่เดินไปตามระเบียงที่เชื่อมต่อกับทางเข้า

"ประมาณสามชั่วโมงค่ะท่าน" ผู้ช่วยของเขาตอบพร้อมกับพลิกกระดาษอย่างกังวล "เราว่าจะยิงเขา แต่คิดได้ว่าถ้าเขาอุตส่ามาถึงประตูศูนย์19แล้วเอาแต่ยืนตะโกนอยู่ตรงนั้น เขาก็คงไม่เป็นอันตรายสักเท่าไหร่"

ผู้อำนวยการศูนย์พยักหน้าช้าๆ เขาเคยรับมือกับพวกที่พยายามบุกเข้ามาแล้ว แต่การมีคนมายืนตะโกนโหวกเหวกอยู่หน้าประตูศูนย์นี่นับได้ว่าเป็นสิ่งแปลกใหม่จริงๆ ถ้าโชคดี พวกเขาก็จะทำการลบความจำหมอนั่นแล้วส่งมันกลับไปได้ภายในสิบนาที แล้วก็กลับไปกินข้าวเที่ยง ถ้าไม่ เขาก็จะสั่งให้ยิงหัวไอ้งั่งนั่นให้หมดเรื่องไป แต่ไม่ว่ายังไง ปัญหาก็จะคลี่คลาย

ทั้งคู่มาถึงกำแพงเหล็กมหึมาซึ่งเป็นประตูนิรภัยของศูนย์ ใครก็ตามที่พยายามบุกเข้ามาจะต้องหยุดลง ต่อให้ผ่านเหล่าสไนเปอร์และรั้วไฟฟ้ามาได้ก็เถอะ พ้นจากนั้นไปแค่สองเมตร คือไอ้บ้าผู้เพ้อเจ้อ "ครู่นึงนะครับท่าน" ยามรักษาการบอกแล้วกดรหัสเปิดประตูนิรภัย พร้อมกับเสียงกึกก้องของแผ่นเหล็กยักษ์ที่เลื่อนออกไปนั้น ก็ได้ยินเสียงแบบเดียวกันดังจากด้านหลัง ไม่ว่ามันจะดูไร้พิษสงเพียงใดก็ไม่มีคนบ้าที่ไหนมีค่าพอจะเสี่ยงกับการกักกันรั่วไหลหรอก

เมื่อประตูนิรภัยขยับเร็วขึ้นและเปิดเร็วขึ้นเรื่อยๆ แสงเล็กๆก็สาดส่องมาที่ผู้อำนวยการศูนย์กับผู้ช่วย เงาของกำแพงต่ำชั้นนอกปกคลุมไปทั่วภูมิทัศน์ที่เต็มไปด้วยฝุ่น ไกลออกไปนั้ก็สามารถมองเห็นรั้วไฟฟ้าเล็กๆกับทะเลทรายอันกว้างใหญ่ที่อยู่พ้นออกไปได้ แต่ผู้อำนวยการเคยเห็นภาพเหล่านี้มาแล้ว ที่ทำให้เขาสนใจก็คือเจ้าผู้ชายที่วิ่งหัวซุกหัวซุนมาหาทั้งคู่ต่างหาก

"แกรู้รึเปล่าว่าชั้นต้องยืนอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหนน่ะ?" เขาโพล่งออกมาพร้อมแกว่งแขนไปมาอย่างลุกลน "นี่มันกลางฤดูร้อนนะโว้ย! ชั้นจ่ายไปซักแปดร้อยเหรียญได้เพื่อมาที่นี่ กลางเดือนกรกฎาคมนี่ แล้วพวกแกก็ปล่อยให้ชั้นยืนอยู่กลางทะเลทรายตอนเที่ยงๆเนี่ยนะ! เวรเอ๊ย!"

ผู้อำนวยการศูนย์มองชายผู้ซูบผอมนั่นอย่างถี่ถ้วน เขามีเคราโกโรโกโสที่ยาวถึงท้อง แล้วก็ผมสีน้ำตาลเข้มที่ท่าทางเหมือนไม่ได้หวีมาเป็นอาทิตย์ ดวงตากรอกไปมาระหว่างผู้อำนวยการศูนย์กับยามที่ยืนถืออาวุธเตรียมพร้อม เครื่องแต่งกายมีเพียงเสื้อยืดสีขาวชุ่มเหงื่อกับกางเกงยีนส์ขาดๆ ไม่สวมรองเท้า ที่เลวร้ายที่สุดคือกลิ่นเหม็นหึ่งที่มาจากตัวหมอนี่ ซึ่งผู้อำนวยการศูนย์คิดว่ามันเป็นข้าวโพดเน่าชัดๆ

"นาย..." เขาเริ่มพูด สำลักกลิ่นของชายคนนั้นนิดนึง "นายต้องการอะไร?"

"ฟังนะ เราพยายามติดต่อพวกแกทางจดหมาย แต่ไม่เคยมีการตอบกลับ พวกเราก็เลยส่งชั้นมาที่นี่ ถ้าถามชั้นล่ะก็มันยุ่งยากน่าดู แต่ว่า..."

"เราเผาจดหมายที่ไม่มีชื่อผู้ส่งแล้วก็ลบอีเมลน่าสงสัยทิ้งทั้งหมดน่ะ" ผู้อำนวยการตอบ ชักจะทนไอ้หมอนี่ไม่ไหวแล้ว "ชัดๆซิว่าแกมาที่นี่ทำไม?"

"ชั้นมาประกาศสงครามกับพวกแก!" บุคคลเหม็นตุนั้นตะโกน กระโดดขึ้นลงพร้อมชกลมเบาๆ "เราได้ยินเรื่องของคนกลุ่มที่มีชื่อคล้ายๆของพวกแก แล้วก็รำคาญที่พวกแกไปขัดขวางพวกมันอยู่เรื่อย รู้รึเปล่า? พวกนั้นกับเราก็เลยรวมตัวกันแล้วคิดว่า 'เฮ้ย ชื่อของพวกเราก็คล้ายๆกันด้วยนี่นา แล้วพวกเราก็คิดว่าพวกนายมาขัดขวางจุดมุ่งหมายของเราด้วย ฉะนั้นเราต้องประกาศสงครามกับพวกมัน!" คงจะเพื่อเป็นการเพิ่มเอฟเฟคท์ ชายคนนั้นเตะไปรอบๆแล้วส่งเสียงแหลมออกมา

"อย่างนี้นี่เอง..." ผู้อำนวยการศูนย์ว่า เอามือถูคางแล้วก็หวังว่าแสงสะท้อนจากแว่นตาจะช่วยปิดบังสายตาอันหลุกหลิกได้ "แล้วพวกเราไปทำอะไรให้พวกแกล่ะเนี่ย?"

ชายผู้ไม่อาบน้ำนั้นหยุดยืนนิ่งเงียบๆ "เอ่อ...ตรงนั้นเราก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกัน มันแบบเป็นความคิดชั่วแล่นน่ะ เข้าใจมั้ย? เราไปถึงตรง'ชื่อคล้ายๆกัน' แล้วก็ข้ามไปตรง'ยำมันให้เละ'เลย" ตาของเขาเป็นประกายแล้วก็เริ่มโดดขึ้นลงอีก "แต่เราก็จะรู้! พวกแกต้องขัดขวางเราอยู่ทางใดทางหนึ่งแน่! ฉะนั้นเราจึงมานี่เพื่อประกาศสงครามกับสถาบันSCP!"

ผู้อำนวยการศูนย์พยายามเต็มที่เพื่อห้ามไม่ให้ตัวเองเอามือซุกหน้า "องค์กรพวกแกชื่ออะไรเนี่ย?"

"กลุ่มคนขี้เป็นเลื่อย! (People Shitting Chipperly)"

เป็นที่แน่ชัดแล้ว ว่าการต่อสู้เพื่อแยกฝ่ามือกับใบหน้าออกจากกันนั้นไร้ประโยชน์

ร่างของผู้อำนวยการศูนย์สั่นสะท้านพร้อมกับที่เขาหายใจเขาลึกๆถี่ๆสองสามครั้ง ทั้งผู้ช่วยและไอ้บ้านั่นมองเขาอย่างสงสัยว่ามีอะไรผิดปกติ ครู่ใหญ่ เขาก็ยกมือออก สูดหายใจหนึ่งครั้ง จัดเน็คไทให้เข้าที่ แล้วก็พูดออกมา

"ไม่ ไม่ ไม่" ฉันไม่ยอมรับ ยังไงฉันก็ไม่ยอมรับมันอย่างเด็ดขาด SPCน่ะฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจว่าคนเราสะกดผิดกันได้ แล้วก็เข้าใจด้วยว่าไอ้ 'โอ้ว ชกฉลาม ฮ่าๆ!' นี่มันมาได้ยังไง แต่ไม่ ฉันไม่ยอม ฉันไม่ยอมข้องแวะใดๆกับองค์กร PSC หรอก!"

"แกรู้มั้ย?" เขากล่าว พยายามบังคับไม่ให้ตัวเองตะโกน "รู้สักนิดมั้ยว่าไอ้พวกศูนย์ชกฉลามนั่นสร้างปัญหาให้เราแค่ไหน? เราต้องทุ่มทรัพยาการไปมากมายเพื่อกันพวกมันออกไป เฉพาะอาทิตย์ที่แล้วก็เสียไบรท์ไปหกหรือเจ็ดคนเพราะเส้นเลือดสมองแตกแล้ว ไอ้การจัดการกับพวกบ้าอย่างพวกแกแบบจริงจังน่ะมันยุ่งยากเกินไปแล้ว"

"ฉะนั้นไปให้พ้น" เขาพูดแบบทื่อๆ "ฉันจะไม่ขังแก ไม่ลบความจำ และก็ไม่ฆ่าแกดื้อๆด้วย มันวุ่นวายเกินไปสำหรับปัญหาที่เราไม่น่าจะต้องไปยุ่งด้วยแต่แรก ฉะนั้นกลับบ้านไป ไปขี้อย่างสบายใจหรือทำอะไรก็ได้ที่พวกแกทำ แล้วก็อย่าโผล่หน้าเหม็นหึ่งของแกมาที่นี่อีก ฉันพูดชัดเจนมั้ยเนี่ย?"

"แต่..."

"ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจนะ" ผู้อำนวยการศูนย์คำรวม

ชายคลั่งผู้โสมมกะพริบตาครั้งนึง ก่อนหันกลับแล้ววิ่งหายไปกลางทะเลทราย หวังว่าคงจะไม่กลับมาอีก ผู้อำนวยการศูนย์โบกมือให้ยามปิดประตูนิรภัย "ไปกันเถอะ ลูซี" เขาถอนใจ "กลับโรงอาหารกันดีกว่า"

ตอนนั้นเอง ก็มีบุคคลอีกผู้หนึ่งวิ่งมาที่ทางเข้า ดูๆไปแล้วก็เสียสติและรุ่งริ่งพอๆกับที่เพิ่งจากไปเมื่อครู่ "หยุดก่อน" เขาตะโกน "ข้าใช้เวลาตั้งสองอาทิตย์เพื่อหาพวกเจ้า และสมาคมมะพร้าวแห่งประชาชน(People's Coconut Society)จะไม่มีวัน...!"

"ไปไกลๆเลย" ผู้อำนวยการศูนย์แหวดใส่ แล้วประตูนิรภัยก็ปิดลงใส่หน้าชายคนนั้น