SCP-953

SCP-953 (29 ตุลาคม 2555)

ระดับวัตถุ Keter

มาตรการกักกันพิเศษSCP-953ถูกขังไว้ในห้องขังแบบ4 (4 x 3 x 3 เมตร) ซึ่งอยู่สุดทางเดิน99ในศูนย์17 มันมีสิทธิในการรับของต่อไปนี้* ตับสดๆ1.5กิโลกรัม เป็นอาหารแต่ละวัน* น้ำดื่มสะอาดคุณภาพดี* เตียงสะอาด (ฟูกกับผ้าห่ม) ให้มันเอาไปเปลี่ยนและซักล้างอาทิตย์ละครั้งอาจให้ของหย่อนใจเล็กๆน้อยๆ(เหล้าพลัมหมัก หนังสือ ฯลฯ)ได้บ้าง เป็นการให้รางวัลในการทำตัวดี ตามมาตรการควบคุมสภาพจิตห้ามไม่ให้มนุษย์พบกับSCP-953โดยตรงเนื่องจากความสามารถในการเปลี่ยนสภาพจิตใจของมัน ด้วยเหตุนี้ ให้บุคลากรทุกคนรักษาระยะปลอดภัย100เมตรในขณะที่ประตูห้องขังเดี่ยวนั้นเปิดออก การส่งอาหารและสิ่งของอื่นๆนั้นให้ใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติ ในกรณีที่การกักกันล้มเหลวนั้น ตามทฤษฏีแล้วสามารถกำจัดSCP-953ได้ด้วยอาวุธปืน แต่การระบุตัวSCP-953นั้นอาจจะเป็นเรื่องยากเนื่องจากลักษณะของมัน

เนื่องจากมาตรการกักกันทางกายภาพนั้นไม่เพียงพอต่อการกักกันSCP-953 จึงต้องทำการกักกันทางจิตวิทยาด้วย ทางไปห้องกักกันของSCP-953จะเรียงรายด้วยคอกสุนัขแบบเปิด ควรจะเป็นพันธุ์จินโดเกาหลี หรืออเมริกันฟ็อกซ์ฮาวด์ SCP-953นั้นมีอาการกลัวสุนัขบ้านอย่างมากและจะไม่เข้าไปใกล้ในระยะ10เมตรเลย โดยเฉพาะถ้าสุนัขนั้นเห่าอยู่หรือตื่นตัว

SCP-953เป็นภัยคุกคามมนุษย์ อันตราย และมีอาวุธตลอดเวลา การเคลื่อนย้ายใดๆจะต้องมีบุคลากรติดอาวุธอย่างน้อยหกคนคอยดูแล วิธีการที่มันชอบใช้ฆ่าคนก็คือการใช้มือเปล่าเสียบใส่ส่วนท้อง ทะลุเข้าไปภายในและดึงตับออกมากิน แต่ถ้ามีเวลา มันก็จะฆ่าเหยื่ออย่างช้าๆและทรมาน โดยดูเหมือนว่ามันจะมีความสุขกับการสร้างความเจ็บปวดให้สิ่งมีชีวิตอื่นที่มีสำนึก

ลักษณะ

SCP-953เป็นจิ้งจอกแดง(Vulpes vulpes)เพศเมีย หนักประมาณ8กิโลกรัม ซึ่งมีกระดูกสันหลังแยกออกไปตรงข้อที่26เป็นเก้าหาง แต่มันมีความสามารถในการแปลงร่างตนเองวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตอื่น (ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้หญิงเกาหลีหน้าตาดี) ไม่ว่าจะแปลงร่างยังไงมันก็จะมีลักษณะของจิ้งจอกบางส่วนเสมอ (หู หาง อุ้งเท้า ตา ขน เสียง พฤติกรรม) ซึ่งสามารถใช้ระบุตัวมันเวลาปลอมตัวได้ แต่SCP-953ก็จะพยายามปิดบังลักษณะเหล่านั้นด้วยเสื้อผ้าหรือวิธีการอื่นๆ

นอกจากความสามารถในการแปลงร่างแล้ว SCP-953ยังมีพลังจิตในระดับหนึ่งอีกด้วย โดยเฉพาะด้านโทรจิตและการโน้มน้าวจิตใจ แม้ว่ามันจะไม่สามารถหลอกผู้สังเกตการณ์ภายนอกได้ แต่มันก็สามารถหลอกคนที่เข้าไปใกล้ให้เชื่อในเรื่องผิดๆได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลักษณะของSCP-953 ลักษณะของตนเอง และสภาพแวดล้อม ที่ผ่านมานั้น SCP-953เคยใช้ความสามารถนี้หลอกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับรายงานเรื่องเสียงกรีดร้องจากห้องพักในโรงแรม หลอกให้มารดาย่างและกินบุตรของตนเอง ร่วมรักกับศพของคู่หมั้นเจ้าหน้าที่แรมซีย์โดยที่เจ้าหน้าที่คนนั้นเห็นเต็มตา และทำการฆาตกรรมผู้ร่วมงาน Anthrocon 2███ ไป27คนอย่างเป็นขั้นตอน

ข้อมูลเพิ่มเติม1 ประวัติก่อนหน้า

SCP-953นั้นเคยพบกับสถาบันSCPและองค์กรก่อนหน้ามาแล้วหลายครั้ง โดยครั้งแรกก็คือที่เมืองปูซาน เกาหลี หลังสงครามโลกครั้งที่สองไม่นานนัก ถึงตอนนี้ SCP-953หนีการกักกันและถูกจับกลับมาทั้งหมดหกครั้ง ทำให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตทั้งหมด █คน ในเหตุการณ์ต่างๆกัน

ในตอนที่หนีไปครั้งล่าสุดนั้น SCP-953หายตัวไปเป็นเวลา██ปี จนกระทั่งมันปรากฏตัวที่พิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย เดือนมิถุนายน 2███ ในงาน YiffCon 2███ โดยมันปลอมตัวไปร่วมงานเป็นผู้นิยม furry ก่อนถูกจับตัวได้นั้น มันฆ่าพนักงานและผู้ร่วมงานไปมากกว่าสองโหล ซึ่งมากกว่าเหตุการณ์อื่นๆถึงตอนนี้ ศพที่ถูกชำแหละนั้นพบในที่ต่างๆทั่วโรงแรม ซึ่งรวมถึง ยัดไว้ในฟูกนอน แขวนไว้กับม่านอาบน้ำ และเอาไปเสิร์ฟในห้องอาหาร ผู้ร่วมงานที่รอดมาได้นั้นได้รับการลบความทรงจำแบบAและปล่อยตัวไป

ข้อมูลเพิ่มเติม2 คำสั่งฉุกเฉินพิเศษ

การเรียกเผ่าพันธุ์ของเธอผิดจะทำให้SCP-953โมโหอย่างรุนแรงมาก ให้บุคลากรทุกคนเรียกเธอว่า “กูมิโฮ” ไม่ใช่ “คิตสึเนะ” คนที่สงสัยว่ามันต่างกันยังไง ก็นึกถึงความแตกต่างระหว่างอินเดียนเผ่าเชอโรกี กับอินเดียนนิวเดลี ก็แล้วกันบ O5-██

ข้อมูลเพิ่มเติม3 แก้ไขการเลือกพนักงาน

เนื่องจากความตายอันโชคร้ายและจริงๆแล้วป้องกันได้ของเจ้าหน้าที่กาลาเกอร์ บุคลากรคนไหนก็ตามที่เคยมีความเกี่ยวพันกับกลุ่ม “โอตาคุ” หรือ “furry” จะถูกย้ายไปดูแลโปรเจ็คท์อื่นทันที O5-██

ข้อมูลเพิ่มเติม4 มาตรการควบคุมตามเรื่องปรัมปรา

จำไว้ให้ขึ้นใจว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับSCP-953นั้นต้องทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ไม่ว่ามันจะฟังดูแปลกหรือไร้สาระแค่ไหน อย่าลืมว่าชาวเอเชียพบกับสิ่งนี้มาหลายศตวรรษแล้ว สิ่งที่พวกเราคิดว่าเป็นนิทานนั้น มันก็คือสิ่งที่เราเรียกว่ามาตรการพิเศษของพวกเขานั่นล่ะ O5-██