ซ้อมยิงเป้า
แมลงวันตัวนั้นร่อนลงบนจมูกของรูปปั้นอย่างแผ่วเบา จ้องมองไปรอบๆอย่างระมัดระวังเพื่อหาร่องรอยของผู้ล่า เมื่อพอใจว่าไม่มีเลยแล้วมันก็เริ่มทำความสะอาดตนเอง ใช้สองขาหน้าถูไปตามหัวและตัวซ้ำไปมาๆ ถูเอาเศษฝุ่นออกไปด้วยความเชี่ยวชาญซึ่งมีแต่รูปแบบทางชีวภาพผ่านเวลาหลายล้านปีเท่านั้นที่จะสร้างได้
ถ้ามันจะมีสติปัญญาใช้ความคิด หรือแม้แต่ได้ยินเสียง มันก็อาจจะได้ประหลาดใจสักวูบหนึ่งว่าเจ้าเสียงหวีดหวิวประหลาดที่ดังขึ้นเรื่อยๆนั้นคืออะไร แต่เพราะมันไม่มีทั้งสองอย่าง มันจึงสบายใจด้วยไม่รับรู้ถึงซึ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
รูปปั้นนั้นแตกกระจายอย่างรุนแรง เหลือแต่เพียงแอ่งตื้นๆ ฝนสั้นๆของเศษหิน ดิน เซรามิก แล้วก็แมลงวันที่ตายสนิทตัวหนึ่ง
“ยิงได้สวย ไอซ์” เคนแค่นเสียง มองไปยังบริเวณจุดกระทบจากพื้นที่ยิง
“โซเฟีย ตอนนี้คะแนนเท่าไหร่แล้ว?”
“พ่อยี่สิบสามแต้มกับของเขายี่สิบแต้มค่ะ” เด็กหญิงผิวซีดที่ยืนอยู่ทางขวาของเขาตอบ มองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างสนใจ
“เฮอะ ก็ชักจะสูสีแล้วสินะ แต่ชั้นว่าเราก็รู้กันว่าหุ่นยนต์ของใครดีกว่า” สุนัขตัวนั้นพูดขำๆ ค้อมตัวเหนือห้องบังคับแล้วพาดศีรษะกับแผ่นไหล่ของเอกวอล์คเกอร์
“ถ้าให้ชั้นใช้อาวุธทั้งหมดที่มีได้ล่ะก็นะ-” ไอซ์เบิร์กพูด ยกตัวขึ้นจากท่าเอนนอนบนเก้านวมถัดไปจากโซเฟีย ในมือของเขามีรีโมตขนาดใหญ่อันซับซ้อนอย่างยิ่งอยู่
“ถ้าให้นายใช้อาวุธทั้งหมดได้ล่ะก็ สนามยิงก็กลายเป็นหลุมนิวเคลียร์ไปน่ะสิ” เคนขัด หน้ายุ่งๆของเขาบิดเป็นสีหน้าที่คงจะเป็นการบึ้งตึงในแบบของเขา
สนามยิงเป้าดังกล่าวนั้นอยู่ในหุบเล็กๆ มีประชากรหลักๆเป็นเหล่ารูปปั้นอัปลักษณ์ขนาดใหญ่ซึ่งเป็นรูปลักษณ์ของสัตว์ประหลาด แล้วก็กลุ่มหลุมแอ่งขนาดใหญ่ โดยมากแล้วใช้ในการทดสอบวัตถุ SCP ซึ่งเป็นอาวุธ ในขณะที่ไม่มีการใช้งานนั้น ใครก็ตามที่มีระดับสูงพอและวันหยุดก็สามารถใช้ได้
สุนัขนั้นหยีตาอยู่กลางตะวันยามเที่ยง ความร้อนแผ่ลงมาอย่างไร้ปราณี
“ทีนี้ชั้นเก็บตัวไหนดีล่ะเนี่ย?”
“หนูว่าเอาตัวที่เหมือนหกแปดสองห่างไปสามร้อยฟิตทางซ้ายค่ะ” โซเฟียเสนอ ชี้ออกไปไกลๆ
เคนมองตามนิ้วไปยังรูปปั้นที่น่าเกลียดเป็นพิเศษซึ่งหมอบอยู่บนหินที่ยื่นออกมา มองมาทางทั้งสามอย่างชั่วร้าย
“นั่นไกลพอดูนะ แต่ชั้นว่าแม่หนูนี่แม่นพอ” เขาบอกอย่างมั่นใจ ตบเบาๆที่ข้างตัวเครื่อง
ในชั่วอึดใจ ป้อมปืนทรงประหลาดแบบหนึ่งก็กางออกจากไหล่ซ้ายเล็งไปยังตำแหน่งคร่าวๆจุดหนึ่งบนท้องฟ้า เคนพึมพำกับตนเอง บ่นเรื่องแรงต้านของลมกับมุมกระทบ ก่อนที่อาวุธนั้นจะเด้งกลับด้วยเสียงดังสนั่น ส่งกระสุนหมุนติ้วออกไปสู่ท้องฟ้าก่อนจะตกลงมาทำลายรูปปั้นนั้นด้วยควันรูปดอกเห็ดเจือสีเขียวอ่อนๆ
“ยี่สิบสี่ต่อยี่สิบ” โซเฟียบอก
เบื้องหลังพวกเขา ได้ยินเสียงไซเรนเตือนภัยอันโหยหวนดังแว่วๆ
เคนเลิกหูขึ้นรับลม
“เสียงเหมือนรหัสสีเหลือง เดลตา สองเก้าศูนย์”
ไอซฺเบิร์กขมวดคิ้ว มองไปทางศาสตราจารย์อย่างรำคาญ
“ไม่ นี่มันรหัสสีส้ม แลมดา สามห้าศูนย์” เขาแก้
“ที่ถูกคือ มันเป็นรหัสสีน้ำเงิน อัลฟา หนึ่งหนึ่งศูนย์ค่ะ” เด็กหญิงที่ยืนตรงกลางบอกโดยไม่่หันไป
สองบุรุษฟังต่อไปอยู่สองสามนาทีก่อนจะยักไหล่ยอมรับ
“ไม่ใช่เรื่องของชั้น วันนี้ชั้นหยุด ชั้นจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้นถ้าไม่ใช่รหัสสีแดงขึ้นไป” เคนบ่น มือของวอล์คเกอร์ดึงขวดเย็นๆสองขวดออกมาจากที่เก็บเล็กๆในตัวถังของมัน
“เอาเบียร์อีกมั้ย?”
“แน่นอนอยู่แล้ว” ไอซ์เบิร์กตกลง รับเครื่องดื่มเย็นเจี๊ยบที่ถูกโยนมาให้เขา
“ทีนี้เอาตัวไหนดี?”
“ฮึ่มมมม…”
“เอาไอ้ตัวที่เหมือนกิ้งก่าหน้าโง่ตรงนั้นเป็นไง?” เคนเสนอ โบกไปที่สัตว์เลื้อยคลานตัวยาวซึ่งหมอบอยู่บนหินใกล้ๆ
ไอซ์เบิร์กยักไหล่ ละเลงนิ้วไปบนแผงควบคุมในมือ
“ได้เลย”
หุ่นยนต์ขนาดเล็กที่อยู่หน้าเขาระดมยิงจรวดมิสไซล์สู่พื้นที่ ส่งเสียงหวีดหวิวในอากาศขณะที่มันพุ่งสู่เป้าหมายด้วยความเร็ว
ในจังหวะสุดท้ายนั้นเอง ก่อนที่พวกมันจะโดนเป้า เจ้ากิ้งก่านั้นก็หันมาทางพวกเขา บางสิ่งที่ดูคล้ายกับความตกใจแผ่อยู่บนใบหน้าพิลึกของมัน
แล้วมันกับทุกสิ่งรอบๆมันในระยะหลายเมตรก็แหลกเหลวเป็นขยะหนืดๆ
ทั้งกลุ่มเงียบอยู่หลายวินาที
“นั่น… นั่นมันขยับเหรอ?” ไอซ์เบิร์กถามตะกุกตะกัก
“ค่ะ มันขยับค่ะ” โซเฟียยืนยันให้
พวกเขาไปทางเศษซากที่เหลืออยู่ ตรวจดูรอยแยกที่เย็นลงเรื่อยๆ
“อ่ะนะ ชั้นว่าเรารู้แล้วว่าสัญญาณนั่นมันเรื่องอะไร…” เคนพึมพำ
"นายว่ามันจะกลับมาได้รึเปล่า?" ไอซ์ถามพร้อมใช้ไม้จิ้มเศษๆเหล่านั้น
เคนส่ายหน้า
"ชั้นว่าไม่นะ"
"แต่ชั้นคิดว่านั่นนับเป็นสองคะแนน นายยังตามอยู่แต้มนึง ไอซ์" เขาพูดอย่างร่าเริงแล้วกลับไปที่พื้นที่ยิง