ความหมายของความหวาดกลัว

The Meaning of Fear (30 มีนาคม 2557)

"แล้ว กำหนดการวันนี้มีอะไรบ้างล่ะ?" ดร.อัลเบิร์ต เวนส์ลีย์เพ่งไปยังตารางเวลาที่เลขาของเขาพิมพ์ออกมาอย่างสวยงาม

"วันนี้ 10 โมง คุณต้องไปพบกับพวกนักวิจัยผู้ช่วย การตรวจสอบรายไตรมาสเรื่องวัตถุที่คุณดูแล พบกับดร.ลูฟตอนบ่าย 3 แล้วก็มีนัดกับผู้อำนวยการโอวิงส์ตอนบ่าย 5ค่ะ ดร.เวนส์ลีย์" เลขาของเขาอ่านกำหนดการ "นี่ค่ะ กาแฟของคุณ"

"ขอบคุณนะ ลิซ ผมต้องไปทำการตรวจสอบสินะ" ดร.เวนส์ลีย์จิบจากถ้วยที่มีไอขึ้นขณะที่เดินออกจากห้องทำงานไปยังห้องขังที่ใช้กักกันตัวตนที่มีชื่อเสียงที่สุดในศูนย์118 Keterประจำที่นี่ SCP-2006

"อืม ไปตรวจเจ้า2006ก่อนละกัน ไม่น่าจะนานนะ แล้วการตรวจสอบที่เหลือให้พวกเด็กใหม่ร่วมด้วยก็ได้" ดร.เวนส์ลีย์คิดกับตัวเอง

หลังจากที่โบกบัตรรักษาความปลอดภัยให้กล้อง ยืนสแกนม่านตา ยืนยันตัวกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือ และมองมีมมือสังหาร ดร.เวนส์ลีย์ก็รออย่างอดทนขณะที่ประตูเหล็กกล้าของพื้นที่กักกันSCP-2006เปิดออก

เมื่อเข้าไปในห้อง เขาก็ได้รับการทักทายโดยการทำความเคารพและรับรู้จากพวกผู้ช่วยนักวิจัยกับพนักงานอื่นๆในห้องควบคุมของSCP-2006 เขาโบกมือให้แบบรวมๆแล้วก็เดินไปที่พื้นที่สังเกตการ ที่ซึ่งมีชายหนุ่มนั่งอยู่ เคาะดินสอไปเรื่อยๆขณะที่มองไปที่จอภาพ

"อรุณสวัสดิ คาม" ดร.เวนส์ลีย์พูดพร้อมกับวางมือบนไหล่ของชายคนนั้น

ชายคนนั้นสะดุ้งก่อนหันกลับมาและเห็นรอยยิ้มอันเป็นมิตรของดร.เวนส์ลีย์

"เอาะ-อ้อ อรุณสวัสดิครับ ดร.เวนส์ลีย์ คุณทำให้ผมตกใจแน่ะ สบายดีไหมครับ?" นักวิจัยผู้ช่วย คาเมรอน เฮย์วอร์ธ ถาม

"ดี ดี เช้านี้เจ้า2006เป็นยังไงบ้าง? ตอนนี้เป็นร่างอะไรล่ะเนี่ย?" เวนส์ลีย์จิบจากถ้วยขณะมองจอภาพ

"เอ่อ...สัตว์ประหลาดตัวทากน่ะครับ อ้อ จำได้ล่ะ จากเรื่อง 'The Creeping Terror' ปี 1964" นักวิจัยหนุ่มตอบ

"ดีมาก ชั้นว่าวันนี้จะเข้าไปดูมันหน่อยนะ" เวนส์ลีย์วางถ้วยลง แล้วเดินไปที่ประตูทางเดินไปห้องกักกันSCP-2006

"ดูจอไว้นะ คาม Keterก็คือKeter"

ดร.เวนส์ลีย์ยืนอยู่หน้าประตูห้องกักกัน แล้วก็ผ่านระบบป้องกันไปอีกชุดซึ่งเข้มงวดยิ่งกว่าที่ผ่านมา ประตูเปิดออกอีกครั้ง แล้วเขาก็เดินเข้าไปตามทางเดิน

"เวลาทำงานกับเจ้า2006นี่น่าสนใจทุกทีนะ อย่างน้อยๆ มันก็ดีที่พอคุณออกจากห้องแล้วคุณก็ยิ้มได้" เวนส์ลีย์คิดกับตัวเอง

เมื่อเขามาถึงประตูสุดท้ายที่กันห้องกักกันออกจากส่วนอื่นๆในอาคาร เขาก็มองไปที่กล่องสีดำเล็กๆที่อยู่บนผนังของประตูสุดท้าย ดร.เวนส์ลีย์พูดด้วยเสียงที่เยือกเย็นและราบเรียบ "ดร.อัลเบิร์ต เวนส์ลีย์ ผู้อำนวยการแผนกและนักวิจัยอาวุโสอันดับ 3 พวกหนูมาอยู่ในเค้กซูเฟลอีกแล้ว"

"การสแกนร่างกายเต็มรูปแบบกับข้อมูลเสียงผ่าน เตรียมการรับมือการรั่วไหลห้องกักกันKeter" เสียงเครื่องจักรตอบกลับมา

ประตูเลื่อนเปิดเงียบๆ ห้องนั้นดูเหมือนจะว่างเปล่าแต่เวนส์ลีย์รู้ดี เมื่อเขาเข้าไปและระลึกถึงสิ่งที่จำมาจากชั้นเรียนการแสดง สัตว์ประหลาดตัวทากที่เหนียวเหนอะ น่าเกลียด เปียกโชก และดูงี่เง่าสุดๆก็คลานออกมาอย่างรวดเร็ว

"ถึงเวลาของเจ้าแล้ว เจ้าลูกลิงน่าสมเพช ความสยองที่คืบคลานมาแล้ว และความน่าสะพรึงกลัวที่เหนือกว่าที่เจ้าจะเข้าใจก็จะมล้างพวกเจ้า หายนะอยู่นี่แล้ว นั่นคือใบหน้าของข้า" เจ้าสัตว์ประหลาดตัวทากคำราม หนวดบนหน้าโบกไปมา

"โอ้ไม่! โปรดไว้ชีวิตผมเถอะ! ผมเป็นแค่มนุษย์ตัวจ้อยที่อยากพูดกับSCP-2006เท่านั้นเอง! ได้โปรดเถอะ อย่า!" เวนส์ลีย์ร้องออกมาด้วยความกลัวปลอมๆ พร้อมกับล้มลงตัวสั่นบนพื้น

เจ้าสัตว์ประหลาดตัวทากคำรามเป็นเสียงหัวเราะ แล้วโบกหนวดระยางไปรอบๆ "อ้อ ด็อค ผมเองครับ! ผมไม่ใช่ความสยองที่คืบคลานหรอก คุณชอบอันนี้มั้ย ด็อค? ผมว่ามันดีทีเดียวเลยนะ"

"อ้อ SCP-2006...นายทำชั้นอายุสั้นไปหน่อยเลยนะ นั่นน่ากลัวมาก ชั้นเห็นด้วยเลยว่ามันดีทีเดียว น่ากลัวมากจริงๆ"

"ขอบคุณครับ ด็อค! อันนี้ผมตั้งใจจริงๆนะ...นี่รู้มั้ย ด็อค ผมกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่"

"โอ อะไรเหรอ?"

"แฮ่!"

เวนส์ลีย์กระโดดและทำเป็นล้ม เมื่อเขาลุกขึ้นมายืน SCP-2006ก็หัวเราะอีก

"ฮะฮะ...แต่จริงๆนะ ผมคิดอะไรอยู่จริงๆ"

"โอ-โอเค นายคิดอะไรล่ะ?"

"ทำยังไงคนถึงจะกลัวมากที่สุด คุณก็รู้ว่าผมหาวัตถุดิบใหม่อยู่เรื่อยๆนะ"

"อ้อ นายเก่งที่สุดเรื่องทำให้คนกลัวอยู่แล้วนะ SCP-2006 ชั้นว่าชั้นไม่เคยเห็นอะไรน่ากลัวกว่านี้"

"จริงเหรอครับ? เจ้าสัตว์ประหลาดตัวทากนี่มันเหมือนเด็กน้อยผู้คาดหวัง อยากได้การยอมรับจากพี่ๆนะ"

"จริงสิ"

"ขอบคุณครับ ด็อค! แต่คุณก็รู้นะ ผมว่าจริงๆแล้วนั่นบ่งชี้ถึงความกลัวและผลสะท้อนถึงสถานภาพของมนุษย์นะ แล้วก็ความหมายจริงๆของมันด้วย"

"แน่ละ-" เวนส์ลีย์ชะงักกลางวลี เขาไม่เคยได้ยินSCP-2006พูดเป็นปรัชญาแบบนี้มาก่อน

"อะ-อะไรนะ?" เขาถาม ช็อกเล็กน้อย

"ความกลัว มันหมายถึงอะไรกันแน่? ถ้าคนคนนึงกลัวอะไรบางอย่าง มันหมายถึงอะไร? เขาคิดว่ามันทำร้ายเขาได้งั้นหรือ? แล้วโรคกลัวล่ะ? จริงๆแล้วมันมีอะไรอันตรายหรือเปล่า? ไม่เลย แล้วความกลัวคืออะไรแน่?"

เสียงของตัวทากที่เป็นมิตรเมื่อครู่ตอนนี้ช้าลงและมีการวิเคราะห์ ด้วยจังหวะที่ตั้งใจ ความเบิกบานสนุกสนานในน้ำเสียงอันตื่นเต้นของSCP-2006ตอนนี้กลั้วการเย้ยหยันนิดๆ และมันมาถึงหูของดร.เวนท์ลีย์อย่างที่ไม่น่าสบายใจเลย

"ฮะ-ฮ่า...เยี่ยมเลย SCP-2006 นั่นเป็นความคิดที่น่ากลัวมากเลยนะ!" เวนท์ลีย์ตอบ ยังรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง

"จริง...มั้ยล่ะครับ? มนุษย์กับความกลัวของพวกนั้น แต่คุณรู้มั้ยว่าอะไรที่น่ากลัวจริงๆ ด็อคเตอร์?"

"อะไรเหรอ?"

"การรู้และรับรู้ถึงแนวคิดที่ละเมิดความรู้สึกปลอดภัย พวกมนุษย์สร้างความคิดกับฟองสบู่เล็กๆที่พวกเขาเชื่อว่าตัวเองปลอดภัย แม้แต่คุณในสถาบันของคุณก็คิดว่าคุณปลอดภัยเพราะความรู้ของคุณกับมาตรการกักกันพิเศษของพวกคุณ ทุกๆอย่างมีพื้นฐานมาจากความคิดเรื่องความปลอดภัยและแข็งแรง" เจ้าสัตว์ประหลาดตัวทากอยู่นิ่งๆพร้อมกับมองไปทางห้องกักกัน เสียงของมันมีน้ำหนักและสำเนียงที่ขัดกับพฤติกรรมของมันก่อนหน้านี้ทุกอย่าง

"นายกำลังพูดเรื่องอะไร?"

"ที่ผมจะบอกก็คือ แนวคิดของคุณยึดอยู่กับความเชื่อว่าคุณกักกัน'วัตถุSCP'ได้สำเร็จแล้ว ทีนี้ ลองคิดดูนะครับ คุณมีของมากมายที่ถูกกักกันไว้ได้ด้วยกำลังแห่งคำลวงของคุณ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคำลวงนั้นไม่อาจใช้การได้ และสถาบันของคุณก็อยู่ภายใต้คำหลอกลวงเอง?"

ความหวาดกลัวอันเย็นยะเยือกก่อตัวในท้องของเวนท์ลีย์ เขากลืนน้ำลายเบาๆพร้อมกับที่คิดถึงความนัยนั้น

เจ้าสัตว์ประหลาดตัวทากซึ่งเดิมเหมือนจะไร้พิษสง ค่อยๆหันหัวมากมองเวนท์ลีย์แล้วยิ้ม

"คุณกลัวหรือเปล่า ด็อคเตอร์?"

เวนท์ลีย์เริ่มถอยออกมา

"คุณจะไปแล้วสินะ โชคดีครับ ด็อคเตอร์"

ตอนที่เวนท์ลีย์เปิดประตูด้านหลังเขานั้น เขาไม่ได้ละสายตาจากSCP-2006และรอยยิ้มของมันเลย

"อ้อ แล้วก็นะ ด็อคเตอร์? แฮ่"

เวนท์ลีย์ล้มหงายหลังด้วยความกลัวจริงๆพร้อมกับที่ประตูเปิด เขารีบคลานออกไปจากห้องแล้วประตูก็ปิดลงหลังเขา

ตอนที่เขาลุกขึ้นนั้น เขาได้ยินเสียงSCP-2006เริ่มหัวเราะ