เมื่อกล่าวถึงหัวใจในหนังสือเล่มนี้ เป้าหมายก็คือหัวใจ ด้วยความหมายที่สองนี้เอง[1] และหัวใจแห่งวิญญาณนี้ ก็คือสิ่งที่เป็นจุดมุ่งหมาย ในพระดำรัสของพระองค์อัลลอฮ์ ตะอาลา คือ
قُلِ الرُّوحُ مِنْ أَمْرِ رَبِّي
ความว่า จงกล่าวเถิด โอ้มูฮัมมัด วิญญาณ[2] นั้นเป็นการงานแห่งพระผู้อภิบาลของฉัน[3]
กล่าวโดยสรุปแล้วคำว่า กอลบูน( قلب ) คำว่า รัวะห์( روح ) คำว่า นัฟซู( نفس ) ทั้งสามคำนี้มีความหมายเดียวกัน ในความหมายใดความหมายหนึ่ง จากความหมายทั้งสามนี้ ดังที่ท่านฮุจญตุลอิสลาม ฆอซาลี ได้กล่าวไว้ในหนังสือเอียะห์ยาอ์ อุลูมิดดีน
[1] กอลบุนรูฮานีย์(قلب روحاني ) หรือ หัวใจแห่งวิญญาณ
[2] เป้าหมายของคำว่า รัวะห์( روح ) ในที่นี้คือ กอลบุนรูฮานีย์(قلب روحاني )
[3] อายะห์นี้ มีที่มาคือ กาเฟรมักกะห์ ชาวกุรอ็ยช์ได้พยายามหาวิธีพิสูจน์ว่า สิ่งที่นบีมุฮัมมัด ซ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม นำมาประกาศนั้นเป็นเรื่องโกหก แต่เนื่องจากนบีมุฮัมมัด ก็ได้อยู่ร่วมกับพวกเขามาตั้งแต่ยังเยาว์ โดยที่ท่านไม่เคยโกหกเลย แล้วฉไนครั้งนี้ท่านจะมาโกหกได้ กาเฟรมักกะห์จึงปรึกษากันว่าจะไปถามบรรดาผู้รู้ของชาวยะฮูดี(ยิว) ณ นครมาดีนะห์ดู ว่าจะทำอย่างไรเพื่อพิสูจน์ว่านะบีมุฮัมมัดนั้นโกหกหรือเป็นความจริง เพราะชาวยะฮูดีนั้นได้รับการประทาน คัมภีร์เตารอตมาก่อน กาเฟรกุร็อยช์สามคน จึงได้พากันไปหาชาวยะฮูดีย์ ที่มาดีนะห์ เพื่อถามวิธีการ ผู้รู้ยะฮูดีย์จึงได้ปรึกษากัน แล้วจึงบอกให้ตัวแทนกาเฟรกุร็อยช์ลองถามคำถามแก่ นบีมุฮัมมัด สามคำถาม ถ้าหากนบีสามารถตอบคำถามได้สองข้อ แต่ตอบไม่ได้หนึ่งข้อ นั่นแสดงว่าท่านเป็นนบีจริงๆ หาได้โกหกไม่ คำถามทั้งสามก็คือ
1) ใครคือชายหนุ่มคนแรกๆ ที่ได้หนีออกจากพรรคพวกของตัวเอง ท่านนบีตอบว่า ชาวถ้ำ ( اصحاب الكهفي )เพื่อต้องการรักษาศาสนา
2) ใครคือที่ได้วิ่งไปรอบดุนยา ท่านนบีตอบว่า ซุลก็อรนัยน์
3) ใครที่จะอธิบายเรื่องวิญญาณได้ ท่านนบีตอบว่า ฉันไม่รู้ ฉันมอบหมายความรู้ไปยังอัลลอฮ์ เรื่องวิญญาณ ไม่ใช่การงานของฉัน แท้จริงแล้วเป็นการงานของพระเจ้าของฉัน พระองค์ทรงดำรัสไว้ในอัลกุรอ่าน สูเราะฮฺ อัลอิสรออ์ อายะฮฺที่ 83 ว่า
وَيَسْأَلُونَكَ عَنِ الرُّوحِ ۖ قُلِ الرُّوحُ مِنْ أَمْرِ رَبِّي وَمَا أُوتِيتُم مِّنَ الْعِلْمِ إِلَّا قَلِيلًا
โอ้ มุฮำมัด พวกเหล่านั้นที่เป็นชนยะฮูดีจะไต่ถามเจ้าถึงเรื่องวิญญาณ อันเป็นภาวะซึ่งทำให้ร่างกายเป็นอยู่ได้ เจ้าจงกล่าวตอบพวกเหล่านั้นเถิดว่า อันวิญญาณนั้นเป็นกิจหนึ่งภายใต้ความรู้ขององค์พระผู้อภิบาลของฉัน พวกท่านจะรู้ได้ก็แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ท่าน ญูนัยด์ ได้กล่าวว่า วิญญาณนั้น เป็นเอกสิทธิ์ของอัลลอฮ์เท่านั้น ที่จะรู้ได้ ไม่อณุญาตให้กล่าวอธิบายเกี่ยวกับวิญญาณ นอกจะบอกว่าวิญญาณนั้นมีเท่านั้น