เรื่อง การถือศีลอด ตอนที่2
بسم الله الرحمن الرحيم
กีตาบมุฏลาอีน บัดรัยน์ น.62
สาเหตุที่ทำให้เสียศีลอด มีหลายประการด้วยกัน
1. เอาสิ่งหนึ่งสิ่งใดเข้าไปในอวัยวะที่เป็นรู นั่นคือการกลืนเสมหะ หลังจากที่มันได้ออกถึงขอบเขตภายนอกของปากเรา(ตำแหน่งการออกเสียงح) ถ้าหากเลยตำแหน่งนั้นมาแล้ว แล้วเรากลืนกลับเข้าไปก็ถือว่าเสียศีลอด และถ้ามีอุจจาระออกมา(อุจจาระแข็ง) ออกมาครึ่งหนึ่งแล้วอุจจาระกลับเข้าไปในรูทวาร ดังนั้นถือว่าเสียศีลอด และไม่เป็นการเสียศีลอดจากการที่น้ำออกมาจากท่อน้ำลายใต้ลิ้นโดยตรง โดยที่น้ำลายนั้นไม่ได้ปนกับอะไร แล้วเรากลืนเข้านั้นมันไม่เสียศีลอดแต่อย่างใด ดังนั้นถ้าน้ำลายออกมาภายนอกของริมฝีปาก (ขอบเขตคือเราปิดปากให้ริมฝีปากบนล่างปิด ถ้าอยู่ภายนอกถือว่าอยู่นอกริมฝีปาก) แล้วเรากลืนเข้าไป ก็ถือว่าเสียศีลอด
(ดังนั้นมี 3 สาเหตุการกลืนน้ำลายทีทำให้เสียศีลอด คือ
1.น้ำลายออกมาปนกับเศษอาหาร
2.น้ำลายออกมาภายนอกริมฝีปาก
3.น้ำลายปนกับนายิส เช่น เลือดออกตามไรฟัน)
แต่ต่างกัน(ไม่เสียศีลอด)ถ้าเขารวมรวมน้ำลายไว้บนลิ้น โดยที่ไม่ได้ปนกับเศษอาหารและสิ่งสกปรก แล้วแลบลิ้นออกมา แล้วกลืนกลับเข้าไป เพราะถือว่าลิ้นนั้นเป็นอวัยวะภายใน(และลิ้นต้องไม่กระทบริมฝีปาก)
และหากมีปัญหาเลือดออกตามไรฟัน เป็นอยู่ตลอดเวลา แบบนี้ก็มาอัฟให้ไม่เสียศีลอด
และเช่นกันไม่เสียศีลอด ถ้าหากมีแมลงวันหรือฝุ่นจากถนนหนทาง เข้าไปในอวัยวะที่เป็นรู และแป้ง(ร่อนแป้งทำขนม)มีละอองแป้งกระจายเข้าไปในรูจมูกหรือปาก ก็ไม่เสียศีลอดแม้ว่าเขาจะตั้งใจอ้าปากก็ตาม และน้ำที่ใช้ในการอาบน้ำละหมาด (อาบน้ำละหมาดตามปกติไม่ใช่การบ้วนปากอย่างรุนแรงหรือทำเกิน3ครั้ง) และการอาบน้ำสุนัต เช่น สุนัตวันศุกร์ เราไม่ได้ใช้น้ำมากจนเกินไปมันเข้าไปเล็กน้อย และการทีเราล้างอุจจาระใช้น้ำมาก แล้วมีน้ำเข้ารูทวาร ดังนั้นไม่เสียศีลอด แต่ถ้าหากว่าน้ำนั้นเป็นน้ำที่ชาเราะอ์ไม่ได้ใช้ เช่น เราอาบน้ำเพื่อความเย็นสบาย ถ้าน้ำเข้าไปก็ถือว่าเสียศีลอด และการอาบน้ำละหมาดครั้งที่4(สุนัตให้ทำ3ครั้ง) น้ำนั้นได้เข้าไปก็ถือว่าเสียศีลอด และสำหรับน้ำที่เราอมในปากเพื่อลดความกระหายน้ำ ถ้าน้ำนั้นเข้าไปบางส่วนก็ถือว่าไม่เป็นไร
2. การอาเจียนและการเรอโดยเจตนา โดยการเรอนั้นมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดออกมาจากกระเพาะของเขาด้วย ซึ่งการออกมานั้น เลยตำแหน่งح ก็ถือว่าเสียศีลอดเช่นเดียวกัน
3. การมีเพศสัมพันธ์ ระหว่างชายหญิง โดยเจตนา ทำให้เสียศีลอด (แต่ถ้าเกิดจาการลืม ถือว่าไม่เสียศีลอด ถ้าหากนึกได้ต้องหยุดทันที ซึ่งการเสียศีลอด จากการมีเพศสัมพันธ์นั้น ต้องมีการสอดใส่หัวองคชาติเข้าไปทั้งหมด จึงจะเสียศีลอด และในกรณีที่ไม่มีหัวองคชาติแล้ว(โดนตัดหัวองคชาติไป) การที่จะบอกว่าเสียศีลอดคือการสอดใส่เข้าไป ที่เราประมาณการความยาวเท่าความยาวของหัวองคชาติ โดยการสอดใส่นั้น ไม่ว่าจะเป็นการสอดใส่ในอวัยวะเพศหญิงหรือทวารหนัก ไม่ว่าจะเป็นของมนุษย์หรือสัตว์ ทวารหน้าหรือทวารหลัง ก็เสียศีลอด แต่ถ้าหากการสอดใส่ไม่หมดความยาวของหัวองคชาติ ผู้ที่สอดใส่จะไม่เสียศีลอด แต่สำหรับผู้ถูกสอดใส่จะเสียศีลอด เพราะว่าถือเป็นการนำสิ่งหนึ่งสิ่งใดเข้าไปสู่อวัยวะที่เป็นรูนั่นเอง
4. มีน้ำอสุจิหลั่งออกมาโดยเจตนา ตั้งใจทำให้น้ำอสุจิหลั่งออกมา หรือการกระทบกันระหว่างผิวหนังของผู้ชายและผู้หญิงโดยไม่มีสิ่งใดขวางกั้นจนทำให้มีการหลั่งของน้ำอสุจิ โดยที่ไม่มีการมีเพศสัมพันธ์กันก็ตาม เช่น. การหลั่งของน้ำอสุจิโดยมีการสัมผัสหรือการกอดหรือจูบโดยที่ไม่มีสิ่งขวางกั้นระหว่างชายหญิง
และถือว่าไม่เสียศีลอดในกรณีมีน้ำมาซีย์(น้ำหล่อลื่น ออกมาในขณะที่มีอารมณ์ทางเพศ) แม้ว่าจะมีการสัมผัสระหว่างชายหญิงและมีน้ำมาซีย์ออกมา แบบนี้ถือว่าไม่เสียศีลอด.
ในกรณีต่อไปนี้ ไม่เสียศีลอด นั่นคือการฝัน แล้วมีการหลั่งน้ำอสุจิ( ฝันเปียก ) และการที่มีน้ำอสุจิหลั่งเนื่องจากการมองดูผู้หญิง หรือมีการคิด/จินตนาการแล้วมีหลั่งอสุจิ ก็ไม่เสียศีลอด แต่ต้องมีเงื่อนไขว่า โดยปกติเขานั้นไม่เป็นแบบนี้ (คือ ปกติมองผู้หญิงแล้วไม่เคยหลั่งน้ำอสุจิ) แต่หากว่าเป็นอาดัตของเขา(โดยปกติวิสัย) นั่นคือเมื่อเขามองผู้หญิงแล้วมีน้ำอสุจิหลั่งออกมาเสมอ ดังนั้น ก็ถือว่าเสียศีลอด
5. เสียสติ แม้แต่เพียงชั่วกระพริบตาเดียว แม้ว่าช่วงเวลาสั้นๆก็ทำให้เขาเสียศีลอด
6. เป็นลม ซึ่งการเป็นลมนั้นเป็นตั้งแต่เมื่อกินข้าวซาโฮร(หัวรุ่ง) เนียตบวด แล้วเป็นลมยาวมาจนตะวันตกดินได้เวลาละศีลอดแล้วเขาเพิ่งตื่นมา ถือว่าเสียศีลอด แต่ถ้าเขาตื่นมาเพียงเวลาสั้นๆก่อนพระอาทิตย์ตก ยังถือว่าใช้ได้ การถือศีลอดนั้น
7. เขานั้นทำการละศีลอด โดยที่การละศีลอดนั้น ก่อนที่เขาจะมั่นใจ( ยากีน )ว่าพระอาทิตย์ตกแล้ว(มั่นใจ โดยการมองเห็นด้วยตาว่าพระอาทิตย์ตกแล้ว ด้วยตาตัวเอง ) หรือละศีลอด ก่อนที่จะค่อนข้างมั่นใจว่าอาทิตย์ตกแล้ว (ซ็อน) ( ซ็อน เกิดจากการดูนาฬิกา หรือฟังเสียงสัญญาณหรือแมลงกลางคืนร้อง เป็นต้น)
ถ้าขณะที่เขาละศีลอด เขาไม่มีความยาเกนหรือซ็อน เมื่อมันไม่ปรากฏความชัดเจน ว่าความจริงแล้ว พระอาทิตย์ตกแล้ว หรือยังไม่ตก ดังนั้นการถือศีลอดของเขาใช้ไม่ได้
8. การตกมุรตัด(สิ้นสุดการเป็นมุสลิม)
9. มีเฮด(เลือดประจำเดือน) หรือนิฟาส(เลือดหลังการคลอดบุตร) ถึงแม้ว่าการมีเลือดออกนั้น จะตามหลังการมีก้อนเลือดหรือก้อนเนื้อ (เลือดที่ออกหลังจากการแท้งบุตร) เลือดนี้นับว่าเป็นเลือดนิฟาส และถือว่าเสียศีลอดเช่นกัน เพราะว่าก้อนเลือดและก้อนเนื้ออันนั้นคือเลือดเฮดที่ค้างอยุ่ในมดลูก
10. การคลอดบุตร(วิลาดะ) พร้อมกับการเปียกของทารก ถ้าหากว่าถ้าคลอดออกมาแล้วเด็กไม่เปียก ถือว่าไม่เสียศีลอด
วัลลอฮุอะลัม