وبَعدُ هذى زُبَدٌ نظَمتُهَا = أبياتُها ألفٌ بما قد زِدتُها
(4)หลังจากที่ได้กล่าว บัสมาละห์ ฮัมดาละห์ ซอลาวาต และ สลาม
นี่คือหนังสือชื่อซูบัด(ก) ข้าพเจ้าได้ประพันธ์ เป็นบทกลอน
........................................................................................
ข้าพเจ้าได้เขียน เป็นจำนวนหนึ่งพันเบต(บรรทัด โดยมีบรรทัดละสองวรรค ) และแท้จริง ข้าพเจ้าได้แต่งเพิ่มเข้าไปอีก 74 เบต
(ก)ความหมายของ ซูบัด คือ สิ่งที่ได้ถูกคัดสรรแล้ว ซึ่งหมายถึง มัสอาละห์ต่างๆที่สวยงาม ซึ่งได้เอาเปลือกและถ้อยคำที่ฟุมเฟือยออกไปแล้ว
يَسهُلُ حِفظُها على الأطفال = نافعةٌ لمُبتدِى الرِّجال
(5)ทำให้ง่าย สำหรับการท่องจำ(ข)หนังสือเล่มนี้ ของผู้ที่เริ่มเรียนที่ต้องการจะท่องจำ อีกทั้งยังมีประโยชน์ในการทำความเข้าใจ สำหรับผู้ที่เริ่มเรียน(ค)
.....................................................................................
(ข) การท่องจำโคลงกลอนนั้นง่ายกว่าการท่องจำการเขียนเป็นร้อยแก้ว หนังสือเล่มนี้จะอ่านแบบ بحر رجز คืออ่าน
مستفعلن مستفعلن مستفعلن مستفعلن مستفعلن مستفعلن
وبَعدُ ه/ذى زُبَدٌ/ نظَمتُهَا = أبياتُها/ ألفٌ بما /قد زِدتُها
(ค) ผู้เริ่มเรียนตรงนี้ คือผู้ที่เริ่มแสวงหาความรู้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง และยังไม่ถึงขั้นที่สามารถสร้างรูปมัสอาละห์เองได้ ก็เรียกว่า "มุบตะดีย์" แต่ถ้าหากสามารถสร้างรูปมัสอาละห์เองได้แล้ว จะเรียกว่า "มุตะวัสสิต" หรือ ผู้ที่อยู่ในระดับปานกลาง และถ้าหากว่าสามารถสร้างรูปมัสอาละห์เองได้ สามารถตัดสินในวิชานั้นๆได้ พร้อมทั้งสามารถหาหลักฐานได้ด้วยตัวเอง ก็จะเรียกว่า "มุนตะฮา" หรือ ผู้ที่สำเร็จการศึกษาแล้ว
และการที่ได้กล่าวคำว่า "มุบตะดีย์" นั้นก็เพื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง จากการไม่รู้ไปสู่ การรู้
تكفِي مع التوفيق للمُشتَغِل = إن فُهِمَت وأُتْبِعَت بالعمل
(6) เป็นการพอเพียงแล้ว หนังสือเล่มนี้ พร้อมด้วยการช่วยเหลือจากอัลลอฮ์ (1) สำหรับผู้ที่ได้ศึกษากับหนังสือเล่มนี้ ถ้าหากแม้นว่าเขามีความเข้าใจ(2) และได้นำไปปฏิบัติ(3)
.....................................................................
(1) หนังสือมัตตันซูบัดนี้มีความเหนือกว่าหนังสือเล่มอื่นๆ สำหรับผู้ที่อัลลอฮ์ทรงเตาฟีก ให้เขามีความอยากเรียนถ้อยคำจากหนังสือเล่มนี้
(2) เข้าใจจุดมุ่งหมายของหนังสือ
(3) เพราะผู้ที่เข้าใจในวิชาความรู้นั้น เขาได้หลุดพ้นจากความญาเฮล และการที่เขานำความรู้ที่ได้ไปปฏิบัตินั้น แสดงว่าเขาได้รับประโยชน์จากความรู้ เพราะความรู้นั้นเสมือนกับต้นไม้ และการปฏิบัติจากความรู้นั้นก็เสมือนกับผลของมัน
مَنْ عَمِلَ بِمَا عَلِمَ وَرَّثَهُ اللَّهُ عِلْمَ مَا لَمْ يَعْلَمْ
ผู้ใดที่ปฏิบัติ จากสิ่งที่เขารู้ อัลลอฮ์จะให้เขาได้รับมรดกความรู้ ซึ่งเขายังไม่รู้
และอัลลอฮ์ทรงตรัสว่า
وَاتَّقُوا اللَّهَ ۖ وَيُعَلِّمُكُمُ اللَّهُ
ท่านจงเกรงกลัวอัลลอฮ์ พระองค์จะประทานความรู้ให้กับท่าน
หมายความว่า ท่านจงเกรงกลัวอัลลอฮ์ ด้วยการปฏิบัติ สิ่งที่พระองค์ทรงใช้ และละทิ้งสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม ซึ่งสิ่งที่ใช้และสิ่งที่ห้ามนั้น ได้มาจากความรู้ และไม่สามารถจะปฏิบัติสิ่งที่พระองค์ทรงใช้ และห่างไกลจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้ามได้ นอกจากด้วยความรู้ และพระองค์จะทรงสอนท่านด้วยบารอกัตของความรู้ที่ท่านมีนั้น ต่อความรู้ที่มากกว่าที่ท่านมีอยู่ก่อน จงกระทั่งว่า สามรถแยกแยะระหว่างสิ่งที่เป็นสิ่งแท้จริง กับ สิ่งที่ไม่ถูกต้องได้
ดังนั้น การเกรงกลัวอัลลอฮ์ จะเพิ่มพูนความรู้จักต่อพระองค์ขึ้นในหัวใจของคน อารีฟบิลลาฮ์