สุหยูดซะห์วีย์
สิ่งต่างๆที่เราได้ละทิ้งการปฏิบัติในละหมาดนั้นมีอยู่ 3 ประการ
1 รุก่น
2 สุนัตอับอาฎ
3 สุนัตฮัยอะห์
1 รุก่น
การที่เราได้ละทิ้งรุก่นของละหมาดนั้น ไม่สามารถทดแทนได้ด้วยสุหยูดซะห์วีย์ ถ้าเขานึกขึ้นได้ในขณะละหมาดว่าได้ลืมทำรุก่นใด วายิบให้กลับไปทำรุก่นนั้นโดยเร็ว และทำละหมาดต่อไปหลังจากนั้นจนเสร็จ
- ถ้าหากว่า การลืมทำรุก่นของเขานั้นดำเนินต่อไป จนกระทั่งว่าเขานึกขึ้นได้ขณะที่กลับมาทำรุก่นนั้นอีกครั้ง ( เช่น ลืมรุกัวะในรอกาอัตที่ 1 แล้วมานึกได้ตอนที่กำลังรุกัวะรอกาอัตที่ 2 ) ให้ถือว่าการทำครั้งหลังนั้นเป็นการทำแทนครั้งที่เขาลืมไป และให้ถือว่า สิ่งที่อยู่ระหว่างทั้งสองนั้น ( คือ สิ่งที่ได้กระทำมาระหว่างรุกุนที่ลืมกับรุก่นที่ทำใหม่นั้น เช่น ลืมรุกัวะในรอกะอัตที่ 1 นึกได้ตอนกำลังรุกัวะรอกาอัตที่ 2 ก็นับการรุกัวะในรอกาอัตที่ 2 นั้นเป็นรุกัวะของรอกาอัตแรก เมื่อเสร็จรอกาอัตนั้น แสดงว่าเขาได้ทำ 1 รอกาอัต เพราะสิ่งที่ทำระหว่างรุกัวะรอกะอัตที่ 1 กับ 2 นั้น ไม่นับ ) แล้วทำละหมาดต่อไปจนเสร็จ
- ถ้าหากว่า นึกขึ้นได้หลังจากให้สลามแล้ว โดยระยะเวลาระหว่างสลามกับการนึกขึ้นได้นั้นไม่นาน ( ในความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ เท่ากับเวลาในการพูด 6 คำ ) วายิบให้เขากลับไปทำในสิ่งที่เขาทิ้งไปในละหมาดนั้น เช่น ละหมาดดรุริ 3 รอกาอัต พอนึกขึ้นได้ หลังสลามไม่นาน ก็กลับไปทำเพิ่มอีก 1 รอกาอัต และสุนัตให้สุหยูดซะห์วีย์
2 สุนัตอับอาฎ
ถ้าหากละทิ้งสิ่งที่เป็นสุนัตอับอาฎ ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือลืม สุนัตให้สุหยูดซะห์วีย์
3 สุนัตฮัยอะห์
ไม่ต่องสุหยุดซะห์วีย์ ถ้าหากว่าไม่ได้ทำสุนัตฮัยอะห์
- ผู้ที่ปฏิบัตสิ่งหนึ่งที่ทำให้เสียละหมาด ถ้สิ่งนั้นทำโดยเจตนาถือว่าเสียละหมาด แต่ถ้าทำไปเพราะสาเหตว่าลืม เช่น การทำให้รุก่นที่สั้นให้ยาวออกไปโดยที่เขาลืม ( เช่น เอียะติดาล , นั่งระหว่าง 2 สุหยูด ) หรือ การพูดที่น้อยๆ ( น้อยกว่า 6 อักษร ) โดยที่ลืมไปว่ากำลังละหมาด หรือ ทำรอกาอัตเกินเพราะเขาลืม ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น สุนัตให้สุหยูดซะห์วีย์
- การที่คนหนึ่งเขาได้อ่านในสิ่งหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ที่สำหรับอ่านสิ่งนั้น ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นรุก่น เช่น เขาอ่านฟาติฮะห์แล้วขณะยืน ต่อมา เขาก็ไปอ่านฟาติหะห์ เมื่อนั่งตะชะฮุดอีก
หรือการอ่านอันนั้นเป็นสุนัตอับอาฎ เช่น ตะชะฮุดตรั้งแรก หรือ กุนูต อ่านในที่ที่ไม่ใช่ที่สำหรับการอ่านนั้น
หรือ สุนัตฮัยอะห์ เช่นอ่านซูเราะห์ในที่ที่ไม่ใช่ที่ของมัน
ทั้ง 3 กรณีนี้ ไม่ว่าจะเจตนา หรือลืม สุนัตให้สุหยูดซะห์วีย์
- ถ้าหากมีความสงสัยในขณะที่ละหมาดว่า ได้ละทิ้งสุนัตอับอาฎ เช่น กุนูต ตะชะฮุดเอาวาล เช่น สงสัยว่าอ่านกุนูตหรือยัง หรือ อ่านตะชะฮุดเอาวาลหรือยัง แบบนี้สุนัตให้เขาสุหยูดซะห์วีย์
- ถ้าเขามีความสงสัยว่าได้ทำรอกะอัตเกิน หรือเขาเกิดความสงสัยขณะที่ละหมาดชนิด 4 รอกะอัต ว่าเขาทำ 3 หรือ 4 รอกะอัตแล้ว วายิบให้เขาเพิ่ม อีก 1 รอกะอัต เพราะโดยรากฐานแล้วถือว่าเขายังไม่ได้ทำ และสุนัตให้สุหยูดซะห์วีย์ และถ้าแม้ว่าเขาหายสงสัย (ว่ารอกะอัตที่เขาสงสัยนั้น เป็นรอกะอัตที่สี่แล้ว)ก่อนที่เขาจะให้สลาม ก็สุนัตให้เขาสุหยูดซะห์วีย เช่นกัน เนื่องจากเพราะความลังเลใจนั่นเอง
- ถ้าลืมอ่านตะชะฮุด ครั้งแรก หรือ กุนูต โดยที่เขานั้นได้ไปทำฟัรฎูลำดับถัดไปแล้ว คือ
1.เขาไม่ได้อ่านตะชะฮุดเอาวาล แล้วลุกขึ้นไปยืนตรงเรียบร้อยแล้ว
2.เขาไม่ได้อ่านกุนูต แล้วลงไปสุหยูดโดยที่ได้วางอวัยวะทั้ง 7 เรียบร้อยแล้ว.
ต่อมาเขาได้กลับ ไปนั่งอ่านตะชะฮุดเอาวาลอีกครั้ง ( ในกรณีที่ 1) หรือเขาได้กลับขึ้นไปยืนอ่านกุนูต ( ในกรณีที่ 2 ) โดยที่เขากลับไปทำนั้น ทำโดยเจตนา และรู้ว่าการทำแบบนั้น ฮาราม แบบนี้ถือว่าเสียละหมาด แต่ถ้าเขาทำไปเพราะลืม หรือ เพราะเขาไม่รู้ (ยาเฮล)ว่าทำแบบนั้นฮาราม ก็ไม่ถือว่าเสียละหมาด และสุนัตให้เขาสุหยูดซะห์วีย
แต่ถ้าหากว่า เขายังไปไม่ถึงตำแหน่งฟัรฎู ( คือยังไม่ทันจะยืนตรง แต่ใกล้จะยืนตรงแล้ว แล้วกลับลงไปนั่งอ่านตะชะฮุดเอาวาลใหม่ ในกรณีที่ 1 หรือ ลงจะไปนั่งตะชะฮุดและไปถึงเขตรุกัวะแล้วแล้วกลับมายืนตรงอ่านกุนูต ในกรณีที่ 2 ) แบบนี้สุนัตให้เขาสุหยูดซะห์วีย
แต่ถ้าเขายัง ไปไม่ถึงตำแหน่งที่ใกล้จะยืนตรง ในกรณี1 หรือ ยังไปไม่ถึงเขตการรุกัวะในกรณีที่2 แบบนี้ไม่สุนัตสุหยูดซะห์วีย
กรณีทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเฉพาะตอนที่ละหมาดคนเดียว หรือเป็นอิมามเท่านั้น
- ในกรณีที่เราเป็นมะมูม ถ้าหากว่าเราลืมนั่งอ่านตะชะฮุดแล้วลุกขึ้นไปยืนตรงแล้ว ในขณะที่อิมามกำลังนั่งอ่านตะชะฮุดอยู่ วายิบให้เรากลับไปนั่งอ่านตะชะฮุดพร้อมกับอิมาม แม้ว่าเราจะยืนตรงแล้วก็ตาม
ยกเว้น ในกรณีที่อิมามได้ทำในสิ่งที่ทำให้เสียละหมาด เช่น อิมามได้ยืนตรงเรียบร้อยแล้ว แล้วอิมามก็ลงไปนั่งอ่านตะชะฮุดเอาวาลอีกครั้ง หรืออิมามลงไปสุหยูดเรียบร้อยแล้ว แล้วกลับขึ้นมายืนอ่านกุนูต ทั้ง 2 กรณีนี้ไม่อณุญาติให้มะมูมทำตามอิมาม ( ถ้ามะมูมทำตามอิมามถือว่าเสียละหมาด ) วายิบให้มะมูมนั้นยืนรออิมามขึ้นจากอ่านตะชะฮุด ไม่ว่ามะมูมจะยืนตรงพร้อมอิมามเรียบร้อยแล้ว หรือว่ายังไม่ถึงเขตยืนตรงของมะมูม แต่อิมามลงไปอ่านตะชะฮุดหลังจากที่อิมามได้ยืนตรงเรียบร้อยแล้ว ก็วายิบให้มะมูมนั้นยืนตรงและรออิมาม อย่าลงไปนั่งอ่านตะชะฮุดพร้อมอิมาม( เพราะถ้าลงไปจะถือว่ามะมูมนั้นเสียละหมาด )
- และเช่นเดียวกัน คือไม่อณุญาติให้ทำตามอิมาม ในกรณีที่อิมามได้ลงไปสุหยูดแล้ว ในขณะที่มะมูมยังไม่ได้ลงไปสุหยูด แต่อิมามได้ขึ้นจากสุหยูดมาอ่านกุนูต ไม่อนุญาติให้มะมูมยืนอ่านกุนูตพร้อมอิมาม แต่วายิบให้ลงไปสุหยูดเลย
2 กรณีดังได้กล่าวมานี้ ไม่อนุญาติให้มะมูมทำตามอิมาม เพราะการที่อิมามกลับไปทำใหม่ ( ตะชะฮุดเอาวาลและกุนูต )นั้น ถ้าหากเขา(อิมาม)ทำไปเพราะลืมถือว่าไม่เสียละหมาด( สำหรับคนที่ลืมนั้น ไม่อนุญาติให้เราทำตามเขาแม้ว่าเขาจะไม่เสียละหมาดก็ตาม) แต่ถ้าเขา(อิมาม)ทำโดยเจตนา ( เจตนากลับไปทำใหม่) อิมามนั้นก็เสียละหมาด ก็ไม่อนุญาติให้เราทำตามคนที่เสียละหมาดเช่นกัน
- สุหยูดซะห์วีย จะทำการสุหยูด 2 ครั้งเท่านั้น แม้ว่าจะลืมทำสุนัตอับอาฎหลายอย่างก็ตาม
- วายิบให้เนียตสุหยูดซะห์วีย และทำการสุหยูด ก่อนสลาม สุนัตให้อ่านขณะสุยูดคือ
سُبحانَ مَنْ لا يَنامُ وَلا يََسْهُ
(ซุบฮานา มัน ลา ยะนามุ วะลายัสฮุ)
-ถ้าหากว่า ได้ให้สลามด้วยความตั้งใจ ที่จะไม่สุหยูดซะห์วีย์ ก็ไม่อนุญาติให้กลับไปสุหยูดซะห์วียแล้ว ไม่ว่าช่วงเวลาระหว่างสลามกับสุหยูดจะเป็นเวลาสั้นๆหรือนานก็ตาม
- หรือว่าลืมทำสุหยูดซะห์วีย หลังจากให้สลามไปแล้ว แล้วนึกขึ้นได้
ถ้าช่วงเวลาระหว่างการให้สลามกับตอนที่นึกขึ้นได้นั้นนาน( ในความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ ) ก็ไม่อณุญาติให้สุหยูดซะห์วียอีก
- แต่ถ้าหากช่วงเวลาระหว่างการสลามและการนึกขึ้นได้นั้น เป็นช่วงเวลาสั้นๆ สุนัตให้เขาสุหยูดซะห์วีย
โดยให้เขาตั้งใจเข้าสู่การละหมาดใหม่ แล้วทำการสุหยูดซะห์วีย
และเมือได้ทำการสุหยูด ก็ถือว่าได้เข้าสู่การละหมาดอีกครั้ง วายิบต้องให้สลามใหม่อีกครั้ง หลังได้สุหยูดซะห์วียแล้ว และถ้าหากว่าในขณะที่ได้กลับไปสุหยูดซะห์วียนั้น ได้เสียน้ำละหมาด ก็ถือว่าเสียละหมาดเช่นกัน
วัลลอฮุอะลัม