✅กิตาบมิศบาฮุลมุนีร ตอนที่16 หน้าที11
ความเดิมตอนที่แล้วพุดถึงวายิบในทางอากาล=จำต้องจริง
มุสตาฮีลในทางอากาล คำจำกัดความ/นิยาม คือ สิ่งที่พินิจพิเคราะห์ด้วยสติปัญญาแล้ว พบว่าจำต้องไม่จริง/จำต้องไม่มี ไม่สามารถวิเคราะห์ในสติปัญญาได้ว่ามันมีหรือต้องไม่มีหรือไม่จริงเท่านั้น และจะไม่มีวันเปลี่ยนเป็นจริงหรือมีอีกตลอดการ และอิสติฮาละห์ คือไม่มีหรือไม่จริง ตลอดกาล (มุสตาฮีล อาจหมายถึง ถุกห้าม เช่น การไม่มีของอัลลอ เป็นสิ่งที่มุสตาฮีล)
- สิ่งทีถุกฮุก่ม เราใช้ปัญญาพินิจพิเคราะห์ต่อสิ่งนั้น เมื่อวิเคราะห์ได้แล้วเราตัดสิน การตัดสินนั้นคือฮุ่ก่ม เช่น วายิบ คือสิ่งที่ถุกฮุ่ก่ม และวุยุบ คือการตัดสินหรือฮุ่ก่ม. และฮาเก่ม คือผุ้ตัดสิน(คือสติปัญญาของเรา)
- ต้องแยกแยะสิ่งที่ถุกฮุ่ก่ม(การตัดสิน) กับฮุก่ม(การตัดสิน) ให้ออก
- ตัวอย่าง สิ่งที่ถุกฮุ่ก่ม คือมุสตาฮีล เช่น. การไม่มีของอัลลอ ดังนั้นฮุก่ม(การตัดสินของสติปัญญาคือ อิสติฮาละห์
เมื่อไหร่ที่เราใช้สติปัญญาพินิจพิเคราะห์ต่อสิ่งนั้น แล้วเราก็ทำการตัดสิน เราพบว่า การที่ไม่มีอัลลอนั้นไม่จริง และสิ่งอื่นๆที่เป็นสิ่งมุสตาฮีลในทางอากาล
และนิยามของ ยาอิส ในทางอากาล คือ.การยอมรับของสติปัญญาว่าจริงก็ได้หรือไม่จริงก็ได้ เพราะว่า สิ่งนั้นรับต่อการจริงหรือไม่จริงก็ได้ด้วยตัวของมันเอง เช่น มัคโล้ก ทั้งหลายจะมีหรือไม่มีก็ได้ อาทิเช่น การมีของเรา(ตอนเป็นๆมีชีวิต) การไม่มีของเรา(การตายไปของเรา) ดังนั้นสิ่งเหล่าจึงเป็นสิ่งยาอิสในทางอากาล ยาอิส ยอมรับทั้งสองทาง แต่สำหรับวายิบและมุสตาฮีล ยอมรับแค่ทางใดทางหนึ่งเท่านั้น เมื่อใดที่เราพิจารณาสิ่งที่เป็นมัคโลกที่เราใช้สติปัญญา(ฮ่าเก่ม)ตัดสิน และเราฮุ่ก่ม ว่าเป็นไปได้ที่จะมี เช่น ลุกของนาย ก. เป็นไปได้ที่นาย ก.จะมีลุก เพราะนาย ก.เป็นมัคโลก สามารถมีลุกได้ หรือ นาย ก. ไม่ได้แต่งงาน ลุกนั้นไม่ได้เป็นลุกนาย ก. (นี่คือตัวอย่างของสิ่งที่มี) และตัวอย่างอีกตัวอย่าง คือฟาตีเม้าะ ตั้งท้อง อาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ (นี่เป็นตัวอย่างของสิ่งที่จริง)
- สรรพสิ่งบนโลกแบ่งออกเป็น 2 อย่างคือ สิ่งที่จริง และสิ่งที่มี
- สิ่งที่ มี สัมผัสได้ด้วยสัมผัสทั้ง5 เช่น เขียว หอม วัว
- สิ่งที่ จริง เป็นความเข้าใจ เช่น เดิน แตก กลม
- และสิ่งที่ มี อยู่ใน2 ประเภท นั่นคือ 1.อะร้อด(ต้องเกาะติด/อยุ่บนสิ่งอื่น เรียกว่า ซีฟัต เช่น สีแดง ความหวาน. และ2.ญิเรม (อยู่ได้ด้วยตัวมันเอง เรียกว่า สสาร เช่น. ต้นไม้ สมุด น้ำตาล)
- ซีฟัตมาอานีย์ทั้ง7ของอัลลอ เป็นสิ่งที่มีและจริง
เมื่อไหร่ก็ตามที่เรากล่าวว่าวายิบในทางอากาลมันจะไปโดนสิ่งที่จำต้องจริง/จำต้องมี เท่านั้น และเมื่อกล่าวถึงมุสตาฮีลในทางอากาล คือสิ่งที่จำต้องไม่มี/จำต้องไม่จริง เท่านั้น และสิ่งที่ฮารุสในทางอากาลนั้นมันรับได้ทั้ง2ทาง คือจะมี/จริงก็ได้ หรือจะไม่มี/ไม่จริงก็ได้ และเราได้ทราบจากบทบรรยายที่กล่าวมาเป็นบันไดขั้นหนึ่งที่ทำให้เรารุ้จักเรื่องอากีดะห์เพราะว่า มันเป็นสภาพการในหัวใจของคนคนหนึ่ง และจะไม่มีทางได้มาซึ่งสภาพของหัวใจคนคนนั้นจนกว่าเขาจะมีความเข้าใจในฮุก่มอากาลเสียก่อน. และคนที่เขาไม่เข้าใจฮุก่มอากาล เขาคนนั้นอาจไม่มีอากีดะห์/สิ่งยึดมั่นในหัวใจ คนแบบนั้นเรียกว่าคนยาเฮล ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น แสดงว่าอีหม่านของเขาใช้ไม่ได้ทำให้เขาไม่รุ้จักอัลลอ ศาสนาเขาใช้ไม่ได้ เนื่องจากถ้าต้องใช้ศาสนาของเขาใช้ได้ต้องให้อิหม่านของเขาใช้ได้เสียก่อน. จะเป็นการยอมรับด้วยหัวใจของต่อสิ่งที่ท่านร่อซุลนำศาสนามาประกาศแก่เรา
วัลลอฮุอะลัม