เรื่อง บรรดานายิสและการทำความสะอาด ตอนที่1
นายิสแบ่งเป็น 3 ประเภท
1.มุคอฟฟาฟะห์
2.มุตะวัสสิเฏาะห์
3.มุฆอลละเซาะห์
1. นายิสมุคอฟฟาฟะห์
คือปัสสาวะของเด็กชาย อายุน้อยกว่า 2 ขวบ ที่ไม่รับประทานสิ่งอื่นนอกจากนมมารดา
2.นายิสมุตะวัสสิเฏาะห์
คือ นายิส อื่นนอกจาก ประเภทที่ 1 และ 3 เช่น อุจจาระ ปัสสาวะ เลือด หนอง 9ล9
3.นายิสมุฆอลละเซาะห์
สุนัข สุกร
- ทุกๆสิ่งที่ออกจากทวารหนัก หรือทวารเบา นั้นเป็นนายิส เช่น อุจจาระ ปัสสาวะ เลือด หนอง น้ำหล่อลื่น مذي และน้ำ วาดีย์ ودي
- แต่น้ำอสุจิ مني นั้น ตามมัซฮับอิมามชาฟิอีย์ ถือว่าสะอาด แต่สุนัตให้ล้าง เพื่อจากออกจากคิลาฟของอุลามะอ์ ที่มีทัศนะว่าเป็นนายิส
- อุจจาระและปัสสาวะของสัตว์ ไม่ว่าสัตว์นั้นจะฮาลาลกินเนื้อของมันนหรือไม่ฮาลาล ถือว่าเป็นนายิส วายิบต้องล้าง
- สัตว์ทั้งหลายนั้น ตัวมันถือว่าสะอาด ยกเว้น สุนัข สุกร และสัตวที่เกิดจากการผสมของสุนัข และ สุกร กับสัตว์อื่นที่สะอาด นั้นถือว่าเป็นนายิสเช่นกัน
- น้ำนมของสัตว์ ที่ไม่อนุญาติให้กินเนื้อของมันนั้นถือเป็นนายิส เช่น นมแมว เสือ ลา เป็นต้น
- ซากสัตว์ ถือว่าเป็นนายิสทั้งหมด ในทุกๆอวัยวะของมัน ไม่ว่าสัตว์นั้นจะมีเลือดไหลหรือไม่ก็ตาม ( สัตว์ที่ไม่มีเลือดไหลเช่น ตะขาบ มด )
- ถือว่าเป็นซากสัตว์เช่นกัน สัตว์เชือดโดยคนกาเฟร และคนที่กำลังครองเอียะห์รอม ที่เชือดสัตว์ที่ห้ามล่า
- ศพของมนุษย์นั้นถือว่าสะอาด
- ซากศพ ของปลา และตั๊กแตน นั้นถือว่าสะอาด อนุญาตให้กินได้ ไม่ว่ามันจะตายเอง หรือตายโดยการเชือดก็ตาม หรือ แม้ว่ามันจะขาดออกจากกันเป็นหลายๆชิ้นก็ตาม
- สิ่งที่หลุดออกมาจาก มนุษย์ ปลา และตั๊กแตน นั้นถือว่าสะอาด แต่ถ้าหลุดออกมาจากสัตว์อื่นนอกจากนี้ ถือว่าเป็นนายิส เช่น ปีกของเป็ดที่หลุดออกมาจากตัวของมัน ถือว่าเป็นนายิส เป็นต้น
- ขนของสัตว์ ที่ฮาลาลในการกินเนื้อของมัน ซึ่งหลุดออกมาขณะที่มันยังมีชีวิตนั้น ถือว่าสะอาด แต่ถ้าเป็นอย่างอื่น เช่น เขา เล็บ เนื้อ ของมันนั้นถือว่าเป็นนายิส
ว่าด้วยเรื่องของนายิสที่ได้รับการมาอัฟโดยชาเราะอ์
ได้แก่ เลือดหรือ หนอง จากมนุษย์ หรือจากสิ่งอื่น เข่นเลือดสัตว์ ถ้าหากมีปริมาณที่น้อย ซึ่งติดตามร่างกายหรือเสื้อผ้าในขณะที่ละหมาด ไม่วายิบต้องล้าง เนื่องจากชาเราะอ์มาอัฟให้
- ปริมาณที่ว่าน้อยนั้น ต้องพิจารณา จากความเห็นของคนส่วนใหญ่
- ปริมาณที่ถือว่าน้อยของเลือดหรือหนองนั้น พิจาณาจากความเห็นของคนส่วนใหญ่ ส่วนหนึ่งจากความเห็นที่ว่าน้อยได้แก่ มีขนาดไม่เกินขนาดของเล็บ ถ้าเกินขนาดของเล็บวายิบต้องล้าง และส่วนหนึ่งกล่าวว่า ปริมาณที่มากได้แก่ปริมาณที่มองเห็นโดยที่ไม่ต้องเพ่งมอง และไม่ต้องพิจารณา
ถ้าหากมีความสงสัย( شك ) ว่านายิสนั้นน้อยหรือมาก ก็ให้ถือว่านายิสนั้นมีปริมาณน้อย
- ถ้าหากนายิสจากเลือดหรือหนองที่เล็กๆนั้น มีหลายจุด ถ้าเอาทั้งหมดมารวมกันแล้วถือว่ามาก กรณีนี้มีคิลาฟ โดย เชครอมลีย์และอิมามฮารอมัยน์ ถือว่ายังเป็นนายิสที่น้อยอยู่ ส่วน ท่านมุตะวัลลีย์ และอิมามฆอซาลีย์นั้นถือว่านายิสนั้นมาก
- ถือว่ามาอัฟให้สำหรับเลือดจากเห็บสุนัข หรือเหา หรือตัวเรือด หรือขี้แมลงวัน หรือขี้และปัสสาวะค้างคาว และขี้สัตว์อื่นๆ ถ้าหากมีความยากลำบากในการระวังรักษาจากมัน เช่น ขี้จิ้งจก หรือขี้มอด หรือขี้หนอน ซึ่งทั้งหมดนั้นแห้ง เราจะเดินไปละหมาด แต่มีขี้เหล่านั้นเยอะเหลือเกิน ถ้าเราเดินเหยียบมันโดยไม่เจตนา แล้วไปละหมาด ก็ถทอว่าไม่เป็นไร แต่ถ้าเจตนาไปเหยียบมัน แบบนั้นการละหมาดก็ใช้ไม่ได้
- มาอัฟให้เช่นกัน จากบรรดาขี้นก ที่แห้ง ซึ่งอยู่ในสถานที่ละหมาดซึ่งยากต่อการระวังรักษา
- เลือดของเห็บ ที่ติดร่างกาย หรือเสื้อผ้านั้น ถือว่ามาอัฟให้ ถ้าหากว่ามันเกิดจากความสุดวิสัย หรือยากในการระวังรักษา แต่มีเงื่อนไขว่า เลือดนั้นต้องไม่เกิดจากการไปทำมัน เช่น ไปบี้ตัวหมัด หรือ ยุง แล้วมีเลือดมาเปรอะเปื้อน
- ถ้าหากเสื้อผ้าที่มีเลือดติดในปริมาณน้อยๆดังกล่าวนั้น เราสวมใส่ในขณะที่ร่างกายของเราเปียก ถือว่าฮารุส( ละหมาดได้) ถ้าการเปียกนั้นเกิดจากการอาบน้ำละหมาด แต่ถ้าร่างกายเราเปียกด้วยสาเหตอื่นนั้นไม่ฮารุส เช่น มีเหงื่อออก
- ถ้าเลือดจากเห็บหมาที่เปื้อนเสื้อผ้านั้นมีปริมาณมากจนกระทั่งเป็นสีแดง แบบนี้ถือว่าไม่มาอัฟให้ จำเป็นต้องล้างเสียก่อน
- บรรดาลูกศิษย์ของอิมามชาฟิอีย์ได้มีทัศนะว่า นายิสที่มาเปื้อนเสื้อผ้านั้นมีปริมาณน้อย (ปริมาณน้อย ในความเห็นของคนส่วนใหญ่) มาอัฟให้ในทุกกรณี แต่ท่านเชคมุตะวัลลีย์ ได้ให้ข้อแม้ว่านายิสอันนั้นต้องไม่ใช่นายิสจาก สุนัข และ สุกร
- ถ้าหากว่านายิสนั้นมีปริมาณน้อยๆ มีขนาดเล็กจนสายตาคนปานกลาง ( ตาไม่สั้น ไม่ยาว ) มองไม่เห็น แบบนี้ถือว่ามาอัฟให้ ทุกกรณีแม้จะเป็นนายิสจากสุนัข สุกร ก็ตาม
- และถ้าแม้ว่า นายิสที่เป็นจุดเล็กๆที่มองไม่เห็นนั้นมีหลายๆจุด ประมาณการว่าถ้าเอาจุดเหล่านั้นมารวมกันก็จะสามารถมองเห็นได้ ก็ยังถือว่ามาอัฟให้ เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นนายิสจากสุนัข และ สุกร นั้นไม่มาอัฟให้
- มาอัฟให้สำหรับเลือดที่ออกมาจากจมูก ตา หู ถ้าหากว่าเลือดนั้นมีปริมาณน้อยในความเห็นของคนส่วนใหญ่ ทัศนะนี้ถือว่าเป็นทัศนะที่แข็งแรง
- ถ้าหากมีเลือดออกจากจมูก ในขณะที่กำลังละหมาด ถือว่าไม่เสียละหมาด แม้ว่าเลือดที่ออกมานั้นจะไปเปื้อนร่างกายก็ตาม แต่มีข้อแม้ว่าเลือดนั้นต้องมีปริมาณน้อย ในความเห็นของคนส่วนใหญ่
- ถ้าหากมีเลือดออกจากจมูก ก่อนที่จะละหมาด ต้องพิจารณาว่า
1. มีความหวังว่าเลือดนั้น จะหยุดก่อนที่จะหมดเวลาละหมาด ก็วายิบให้รอจนเลือดนั้นหยุดไหล แล้วก็ค่อยละหมาด
2. ไม่มีความหวังว่าเลือดนั้นจะหยุดไหล ก่อนหมดเวลาละหมาด ก็ให้ทำการห้ามเลือด แล้วทำความสะอาด( เช่น ใช้สำลีอุดจมูกไว้ ) หลังจากนั้นก็ไปละหมาด ทัศนะนี้ถือว่าเป็นทัศนะที่แข็งแรง
- คนที่มีเลือดออกตามไรฟัน โดยที่ไม่ได้บ้วนปากทำความสะอาด การละหมาดของเขาถือว่าใช้ได้ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องไม่กลืนเลือดนั้นในขณะละหมาด
- น้ำที่ออกจากปาก ในขณะที่นอนหลับ ถือเป็นนายิส ถ้าน้ำนั้นมีกลิ่นเหม็น หรือมีสีเหลือง แต่มาอัฟให้ถ้าออกมาปริมาณน้อย ( ตามความเห็นของคนส่วนใหญ่ ) ถึงแม้จะโดนเสื้อผ้า หรือส่วนอื่นก็ตามที
- ถ้าแน่ใจว่าน้ำนั้นออกมาจากปากจริงๆ ( น้ำจากกระเพาะ จะมีสีเหลือง และกลิ่นเหม็น )น้ำนั้นก็ถือว่าสะอาด
- ถ้าไม่แน่ใจว่าน้ำที่ออกมานั้นเป็นน้ำที่ออกมาจากปาก หรือ ออกจากกระเพาะ (شك=50:50) ก็ถือว่าน้ำนั้นสะอาด ไม่จำเป็นต้องล้าง
- ท่านอิบนิอัมมาด กล่าวว่า มีทัศนะเกี่ยวกับน้ำที่ออกมาจากปากในขณะหลับนั้นมี 3 ทัศนะ
1. ถือว่าสะอาดหมดทุกกรณี ไม่ว่าน้ำนั้นจะมาจากปาก หรือ จากกระเพาะก็ตาม
2. ถือว่าเป็นนายิสทุกรณี
3. ต้องแยกแยะว่าน้ำนั้นมาจากกระเพาะหรือมาจากปาก ถ้ามาจากกระเพาะก็ถือว่าเป็นนายิส ถ้ามาจากปากก็ถือว่าสะอาด ทัศนะที่ 3 นี้เป็น ทัศนะที่แข็งแรง