✅กีตาบมิศบาฮุลมุนีร ตอนที่20 หน้าที่13 ย่อหน้าสุดท้าย
อนึ่งสำหรับบรรดาประการต่างๆของซีฟัตวายิบ(วายิบ(วายิบบาฆีอัลลอ/ปาดออัลลอ)ในทางอากาล นั่นคือซีฟัตวายิบสำหรับอัลลอ) คือบรรรดาประการต่างๆที่จำต้องจริงเท่านั้น จะไม่มีวันยอมรับการไม่จริงอีกเด็ดขาด เช่น การมีโดยไม่มีจุดเริ่มต้นของอัลลอ สิ่งนั้นคือสิ่งที่สติปัญญาตัดสินว่า "จำต้องจริง" (สติปัญญาเราตัดสินว่า วุยุบ แสดงว่า สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่วายิบ /ฮุก่มคือ วุยุบ อิสติฮาละห์ ยาวาซ และสิ่งที่ถุกฮุก่มคือ วายิบ มุสตาฮีล ยาอิซ) ดังนั้นเมื่อสติปัญญาตัดสินการมีโดยไม่มีจุดเริ่มต้นของอัลลอว่า วุยุบ แสดงว่าการมีโดยไม่มีจุดเริ่มต้นของอัลลอนั้นเป็น "สิ่งที่วายิบ"(วุยุบ-วายิบ/อิสติฮาละห์-มุสตาฮีล/ยาวาซ-ยาอิซ ,เราต้องแยกแยะให้ได้ถึงความต่างของคำเหล่านี้) บรรดาประการที่เป็นสิ่งที่วายิบสำหรับอัลลอคือ สิ่งที่จำต้องจริงสำหรับอัลลอ เช่น การมีโดยไม่มีจุดเริ่มต้นของอัลลอ การมีความสามารถของอัลลอตาอาลา ซึ่งวายิบในทางชาเราะอ์ตกหนักบนคนมุกัลลัฟทุกคนที่จะต้องรู้และมีความเชื่อมั่นยอมรับในหัวใจ(ของคนมุกัลลัฟ)
ประการที่จำเป็นจะต้องรู้นั้นมีเยอะแยะมากมายจากบรรดาซีฟัตวายิบสำหรับอัลลอ ซึ่งไม่มีใครรู้จำนวนนอกจากอัลลอตาอาลาเท่านั้น ดังนั้นวายิบที่จะต้องเชื่อด้วยหัวใจของเขา(คนมุกัลลัฟ) ว่าบรรดาซีฟัตวายิบสำหรับอัลลอนั้นเป็นสิ่งที่จำต้องจริง. (ซีฟัตเกอซึมเปิรนออัน/ซีฟัตกามาลาต) (วายิบเราต้องยอมรับแบบรวมๆ(อิจญมาล) ว่าทุกๆซีฟัตที่ชี้ไปถึงลักษณะความสมบูรณ์นั้น ซีฟัตเหล่านั้นเป็นซีฟัตวายิบสำหรับอัลลอ เช่น ซีฟัตความเมตตา ซึ่งซีฟัตความมีเมตตานี้แสดงถึงความสูงส่ง ไม่ใช่การแสดงออกถึงความต่ำต้อย(ซีฟัตที่ตรงกันข้าม) นั่นคือซีฟัตวายิบสำหรับอัลลอ ในขณะเดียวกันซีฟัตที่ตรงกันข้าม(ความต่ำต้อย เช่น หนวก บอด) ดังนั้นเราเรียกว่า ซีฟัตมุสตาฮีล (เกอกุรังวัน) สำหรับอัลลอเสมอ และบรรดาสิ่งที่ตรวกันข้ามกับสิ่งที่วายิบนั้น คือสิ่งที่มุสตาผฮีลสำหรับอัลลอตาอาลา ซึ่งหมายถึง สิ่งที่จำต้องไม่จริงสำหรับอัลลอตาอาลา เช่น การมีลุกของอัลลอ การตายของอัลลอตาอาลา ซึ่งชาเราะอ์ได้ตกหนักลงบนคนมุกัลลัฟทุกคน ให้เชื่อและยอมรับด้วยหัวใจว่าทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่จำต้องไม่จริงต่ออัลลอตาอาลา , มุสตรฮีลนั้นมีจำนวนมากเช่นกัน เช่นเดียวกันกับวายิบ(สิ่งตรงกันข้าม) ที่มีจำนวมาก(ทุกๆซีฟัตที่บ่งชี้ไปยังความสมบูรณ์ของอัลลอ คือซีฟัตวายิบ และทุกๆซีฟัตที่บ่งชี้ไปยังความบกพร่องของพระองค์อัลลอ ซีฟัตนั้นคือคือซีฟัตมุสตาฮีล) วายิบบนทุกคนต้องยึดมั่ยแบบรวมๆหรืออิจญมาลนั่นเอง ทั้งวายิบและมุสตาฮีล มีมากมายไม่มีใครรู้จำนวนที่แท้จริง แต่ว่าที่วายิบทางชาเราะอ์ ที่คนมุกัลลัฟทุกคนต้องรุ้และยอมรับว่าซีฟัตวายิบนั้นเป็นสิ่งที่จำต้องจริงสำหรับอัลลอ ในหัวใจของเขา โดยรุ้เป็นรายบะเอียดแต่ละซีฟัตๆไปมีทั้งหมด20ซีฟัต ทีวายิบต้องรู้แค่20 ซึ่งมีมากมายไม่มีใครรุ้จำนวนและเช่นเดียวกัน ซีฟัตมุสตาฮีลก็มี20ซีฟัตเช่นกัน (ที่จริงมีมากมายไม่มีใครทราบจำนวนที่แท้จริง) ซึ่งเราต้องรู้หลักฐานของแต่ละซีฟัตด้วย
ดังนั้นซีฟัตที่เราต้องรู้ คือซีฟัตวายิบ20พร้อมหลักฐาน, ซีฟัตมุสตาฮีล20พร้อมหลักฐาน และซีฟัตฮารุสอีก1 และซีฟัตของท่านนาบีซีฟัตวายิบ 4พร้อมหลักฐาน และซีฟัตมุสตาฮีลอีก4 พร้อมหลักฐาน และซีฟัตฮารุสอีก1 พร้อมด้วยหลักฐาน รวมทั้งสิ้น 50 ซีฟัต ซึฟัตทั้งหมดนี้จะเข้าไปอยู่ภายใต้ความหมายของกาลีเมาะห์ "ลาอิลาฮาอิลลัลอฮ์ มุฮัมมาดุรรอซุลุลลอ" บรรดาซีฟัตทั้งหลายนั้นเราจำเป็นจะต้องรู้แบบตัฟซีลีย์ คือแจกแจงรายละเอียดตามหลักฐานต่างๆ และบรรดาซีฟัต20ประการที่จำเป็นบนคนมุกัลลัฟต้องรู้ เป็นอิจญมะอ์ของบรรดาอุลามะอ์ซึ่งเราต้องตาม (ปฏิเสธไม่ได้) ดังนั้นหากมีใครปฏิเสธว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปรู้ซีฟัต20 ดังนั้นคนนั้นเป็นกาเฟร เนื่องจากว่าคนคนนั้น(คนที่ปฏิเสธ) เพราะว่าเขาเป็นคนที่ปฏิเสธอิจญมะอ์ ที่เป็นมติเอกฉันท์ของวงปราชญ์ ว่า วายิบสำหรับคนมุกัลลัฟที่จะต้องรู้ ดังนั้นวายิบเขาต้องเรียนให้รู้สำหรับซีฟัต20 และใครที่บอกว่าไม่วายิบต้องรู้ซีฟัต20 (ไม่วายิบต้องเรียน) ดังนั้นคนนั้นเป็นการเฟร เนื่องจากเขาปฏิเสธมติของปวงปราชญ์ อีกทั้งเขาได้ปฏิเสธการมีของอัลลอเพราะว่าการมีของอัลลอนั้นเป็นหนึ่งในซีฟัตวายิบสำหรับอัลลอ20ประการ ดังนั้นคนที่กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้การที่อัลลอจะมี ดังนั้นเขาเป็นกาเฟร และคนที่ปฏิเสธนั้นเป็นการเฟรและอิหม่านไม่เสาะห์ ณ ที่อัลลอตาอาลา สำหรับคนที่เพิกเฉยต่อการมีหรือไม่มีของอัลลอ(ไม่มีความคิดเห็นใดต่อการมีและไม่มีขอบอัลลอเมื่อมีคนมาถามเขา) คนแบบนี้ถ้าพ่อแม่เป็นอิสลามก็เป็นอิสลามภายนอก แต่ ณ พระองค์อัลลอนั้สเขาคือกาเฟร และเมื่อเขาตายไปก็วายิบที่คนอื่นๆจะจัดการมายัตของเขาตามแบบแผนของอิสลาม