กีตาบมิศบาฮุลมุนีร
✅ตอนที่10 11/1/59 หน้าที่7
(ความเดิมตอนที่แล้ว เรื่องความหมายของเอียะซาน...)
ตอนนี้ฮาดิษที่เกี่ยวเอียะซาน รุ่งก่นอิหม่าน และรุ่งกนอิสลาม
"บัยนามานะนู..."(หมอไปพิมพ์อาหรับเองนะ^^) ความว่า (คำพูดของซัยยิดินาอุมัร) ในขณะที่ฉันนั่งอยู่ข้างๆท่านร่อซู้ล(ซล.)ในวันหนึ่ง ในขณะนั้น ได้เห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งได้เดินมาหาซึ่งมีลักษณะที่นุ่งห่มด้วยเสื้อผ้าสีขาว มีผมของเขามีสีดำสนิท ไม่พบร่อยรอง(ความเหนื่อยหล้าหรืออื่นๆ)ของการเดินทางมาเลย และไม่มีใครรู้จักเขาเลย เมื่อผู้ชายคนนั้นได้มานั่งข้างๆกับท่านร่อซู้ลในนลักษณะที่นั่งชนเข่ากับเข่ากับท่านร่อซู้ล และผู้ชายคนนั้นได้วางมือของเขาบนต้นขาของท่านร่อซุ้ล(ซล.) ชายคนนั้นได้พูดว่า โอ้มูฮัมหมัดจงบอกต่อฉันเถิดเกี่ยวกับอิสลาม เมื่อท่านนาบีได้ยินดังนั้น ท่านได้กล่าว่า การกล่าวปฏิญาณตนด้วยลิ้น(การเชื่อ) ว่าแท้จริงแล้วไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอและมูฮัมหมัดนั้สเป็นร่อซุ้ลของอัลลอ (การกล่าวกาลีเมาะห์ คือมี นาฟี และอิสบาต แม้เราจะกล่าวนาฟีก่อน แต่เราต้องอิสบาตในหัวใจเราก่อนว่าอัลลอคือพระเจ้า รวมเป็น ไม่มีพระเจ้า(นาฟี) นอกจากอัลลอตาอาลา(อิสบาต)) และท่านต้องดำรงละหมาด และท่านต้องบริจารซากาต และท่านต้องถือศีลอดในเดือนรอมาฎอน และเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ยังบัยตุลลอ(หากท่านมีสามารถ) (นี่คือที่มาของรุ่งก่นอิสลามมี5ประการ) ผู้ชายคนนั้นได้พูดว่า ถูกแล้วที่ท่านนั้น(นบี)กล่าวมา และชายคนนั้นยังกล่าวต่อไปอีกว่า โอ้มูฮัมหมัด ท่านจงบอกฉันให้รู้ถึงเรื่องอิหม่านเถิด ท่านนาบีก็ได้ตอบว่า แท้จริงแล้วท่านต้องเชื่อ/ยอมรับด้วยหัวใจว่าอัลลอนั้นเป็นพระเจ้า และท่านต้องศรัทธา/เชื่อด้วยหัวใจต่อบรรดามาลาอีกะห์ของอัลลอ และศรัทธาต่อบรรดาคัมภีร์ และศรัทธาต่อบรรดาร่อซุ้ลของอัลลอ และต่อวันกิยามัต และศรัทธาต่อบรรดาการกำหนดสภาวการณ์มาจากอัลลอทั้งสิ้น. (เรื่องกอฎอ และกอดัร เรายึดมั่นว่า ทั้งความดีและความชั่วมาจากอัลลอทั้งสิ้น มีคีลาฟ จากพวกกอดารียะห์(สมัยซอฮาบะห์) จะไม่เชื่อเรื่องกอฎอกอดัร(ไม่ได้มาจากอัลลอ ไม่มีเรื่องนี้) พวกนี้ถุกตัดสินว่าเป็นพวกฎอลาละห์(ตัดสินโดยท่านอับดุลลอ บิน อุมัร) คือพวกหลงทาง และยังมีกลุ่มกอดารียะห์อีกพวกคือ อีกกลุ่มหนึ่งจากมัวะตาซีละห์ พวกนี้เชื่อว่า ของใหม่ให้ผลสำเร็จได้(เช่น แขนเรามีแรงที่จะทำอะไร คือเป็นกุตรัตของของใหม่ให้ผลสำเร็จได้ แต่ความเชื่อของเรา เชื่อว่า อิคติยาร อุสฮอ นั่นคือ เราลงมือทำแต่ผลสำเร็จมาจากอัลลอ) หลังจากนั้นชายผู้นั้นก็ได้กล่าวว่า "ถูกแล้วที่ท่านกล่าวมา โอ้มูฮัมหมัด" ต่อมาชายผู้นั้นก็ได้กล่าวว่า โอ้มูฮัมหมัด ท่านจงบอกแก่ฉันเถิดเกี่ยวกับเอียะซาน ท่านนาบีกล่าวว่า แท้จริงแล้วท่านนั้นได้ทำอิบาดัตต่ออัลลอเสมือนท่านได้เห็นอัลลอตาอาลา(มองเห็นด้วยตาใจ เป็นความรุ้สึกลึกซึ้งในหัวใจเรียกว่าบาซีเราะห์ การมองเห็นด้วยตาใจต่ออัลลอ นั่นคือเราตัดความรู้สึกทั้งหมดต่อโลกทั้งหมด แล้วเรารำลึกว่าแท้จริงทุกอย่างมาจากอัลลอ) แม้ว่าท่านนั้นไม่ได้เห็นพระองค์อัลลอก็ตาม แท้จริงแล้วอัลลอนั้นทรงมองเห็นท่านอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าแท้จริงว่าส่วนประกอบของอิสลามนั้นมาจาก3ส่วน คือ. อิสลาม อิหม่าน และเอียะซาน ไม่ใช่เพียงแค่การกล่าวปฏิญาณตน แต่ไม่ได้ปฏิบัติละหมาด และไม่ได้มีความศรัทธาอย่างแท้จริง ถ้าเป็นเช่นนี้หมายความว่ายังไม่รุ้จักศาสนาอย่างแท้จริง นั่นคือเขานั้นรู้แต่เขานั้นไม่ได้ยอมรับในหัวใจของเขา ดังที่เราจะเห็นในยุคสมัยนี้ คือเขารู้ว่าเขานั้นวายิบจะต้องละหมาดต้องถือศีลอดแต่เขาไม่ได้ปฏิบัติ (ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ในหนังสือเรื่อง ฮับลิลมาตีนี/สายเชือกที่แข็งแกร่งในการรู้จักศาสนา)
วัลลอฮุอะลัม