ทำไมเราต้องรู้ซีฟัตมุสตะฮีล และอิสติฮาละตุลมุสตะฮีล

ทำไมเราต้องรู้ซีฟัตมุสตะฮีล

และอิสติฮาละตุลมุสตะฮีล

ตัวอย่างเปรียบเทียบ

เราปอกทุเรียน เราจะกินเนื้อทุเรียน เราเอาเนื้อทุเรียนไว้กิน แล้วเอาเปลือกทิ้ง

เนื้อทุเรียนเปรียบได้กับซีฟัตวายิบ

เปลือกทุเรียนเปรียบได้กับซีฟัตมุสตะฮีล

เปลือกทุเรียนนั้นถ้าเราปอกแล้วตั้งเปลือกเอาไว้ วันดีคืนดี เราอาจจะเดินเหยียบ ตำเท้าเราได้ เราต้องป้องกันโดยใส่ในถังขยะ

เปรียบการเก็บเปลือกไว้ให้มิดชิด ป้องกันการเหยีบนี้ กับ

อิสติฮาละตุลมุสตะฮีล

หรือ อิสติฮาละตุลมุสตะฮีล เปรียบได้กับรั้วที่กันไม่ให้สัตวเข้ามาในนาของเรา หลังจากที่เราไล่สัตวออกไปแล้ว เพราะถ้าไม่ทำรั้วกั้นไว้ วันดีคืนดีสัตวนั้นก็กลับเข้ามาในนาอีก

เช่น กุดรัต อัลลอฮ์ทรงสามารถ

มุสตะฮีล อัลลอฮ์ทรงอ่อนแอ

อิสติฮาละตุลมุสตะฮีล

คือ อัลลอฮ์ต้อง ไม่ทรงอ่อนแอ

เรารู้สามอย่างนี้เพื่อการเข้าใจที่ชัดเจน แยกแยะกันได้อย่างเด็ดขาด

เรายังต้องรู้อีกประการหนึ่งคือ หลักฐาน ของการมีซีฟัตกุดรัต ของอัลลอฮ์ โดยรู้หลักฐานอิจมาลีย ก็เพียงพอ

ดังนั้นสำหรับคนเอาวาม จำต้องรู้ 4. อย่าง

1.ซีฟัตวายิบ

2.ซีฟัตมุสตาฮีล

3.อิสติฮาละตุลมุสตะฮีล

4.หลักฐาน

การไม่รู้จักอิสติฮาละตุลมุสตะฮีล บางทีจะทำให้เราอาจเข้าใจว่า มุสตะฮีลนั้นกอดีม

หรืออาจเข้าใจว่าที่อัลลอฮ์นั้นมีซีฟัตมุสตะฮีล

ตัวอย่างของอาเยาะห์เด สะกัม