📚กีตาบมินฮาจุลอาบีดีน
ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์ผู้ทรงยิ่งในความเมตตาผู้ทรงยิ่งในความกรุณา[1]
ครู[2]ผู้ซึ่งเชี่ยวชาญในวิชาฟิกห์[3]อีกทั้งท่านเป็นคนสอและห์[4]อีกทั้งท่านนั้นเป็นผู้ที่ซาเฮด [5]ได้กล่าว
อับดุลมาลิก บิน อับดิลละห์ หมายถึง ลูกศิษย์ของท่านอิหม่ามฆอซาลี(ท่านอิหม่ามฆอซาลีเป็นลูกศิษย์ของท่านอิหม่ามฮารอมัย.ซึ่งอิหม่ามฮารอมัยชื่อจริงของท่านคืออับดุลมาลิกด้วย) ขอพระองค์ทรงอภัยให้พวกเขาด้วยเถิด นี่เป็นการขออุดาร์ของผู้เขียนซึ่งเป็นประโยคบอกเล่า แต่เสมือนการกล่าวว่าขอต่ออัลลอฮ์ตาอาลา ให้ทรงอภัยโทษจากบาปของเขา
ครูของฉัน(ท่านอิหม่ามฆอซาลีย์)ซึ่งเป็นผู้ที่มีเกียรติ ผู้ซึ่งเป็นผู้นำ[6]และพอเพียงต่อโลกดุนยา[7]อีกทั้งเป็นผู้ที่ประเสริฐ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการเตาฟิก ได้ใช้ให้ฉัน(ลูกศิษย์ของท่านอิหม่ามฆอซาลี)เขียน
ฮุจยะตุลอิสลาม[8]ซัยนุดดีน[9]ชารอฟุลอุมมาตี[10] อาบูฮามิด[11]ชื่อของท่านคือ มุฮัมหมัด พ่อชื่อ มุฮัมหมัด และปู่ก็ชื่อมุฮัมหมัด ,อัลฆอซาลียู มาจาก ช่างทอผ้า หรือ คำว่าฆอซาลี อาจจะมาจากคำว่า ฆอซาละห์ ก็ได้ ซึ่งหมายถึงสถานที่ที่ท่านอยู่
ขอจากอัลลอฮ์ตาอาลานั้นทำให้ดวงวิญญาณของท่านสะอาดจากบาป.(ขออภัยโทษให้แก่ท่าน) และยกดารอยัตของท่าน ในสรวงสวรรค์ให้สูงส่งด้วยเถิด
[1] ผู้เขียนเริ่มต้นด้วย. บิสมิลละห์ ,อัรเราะมาน คืออัลลอฮ์ผู้ทรงประทานเนียะมัตให้ทั้งหมดในดุนยานี้ทั้งคนกาเฟรคนมุสลิม เพราะดุนยานี้ไม่มีคุณค่าอะไร เพราะถ้าหากดุนยานี้มีคุณค่าแม้เท่าปีกยุง แน่นอนว่าคนกาเฟรจะไม่ได้กินแม้กระทั่งน้ำสักอึกเดียว แต่นี่ที่คนกาเฟรมีโน่นมีนี่ทั้งหมดในดุนยานี้เพราะดุนยานี้ไม่มีคุณค่าอะไรเมื่อเทียบกับอาคีรัต พวกเขาจึงมีสิ่งต่างๆมากมายมีเงินมีทอง แต่ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงชีวิตชั่วคราว เสมือนคนทีอยู่บนศาลา เปรียบเทียบโลกดุนยานี้ เสมือนเป็นศาลาที่เราใช้ชีวิตอยู่ชั่วคราวที่ผ่านมาแล้วก็ต้องผ่านไป ถือครองทรัพย์สมบัติสักเท่าไหร่ เมื่อตายไปแล้วก็ต้องยกให้คนอื่น ทั้งหมดเป็นเนียะมัตที่อัลลอฮ์บนดุนยานี้ มีน้ำมีอากาศ มีเงินมีทอง มีทุกๆอย่าง ดุนยานั้นไม่มีค่าอะไร อีกทั้งยังเปรียบดุนยานี้เสมือนซากสัตว์อันเหม็นเน่าไม่มีค่า และอัรรอฮีม นั้นหมายถึงอัลลอฮ์ ผู้ที่ทรงประทานเนียะมัตให้กับผู้ซึ่งมีอิหม่านในวันอาคีรัตเท่านั้น นั่นคือสรวงสวรรค์นั่นเอง
[2] หมายถึงอิมามฆอซาลีย์ ได้กล่าว( นี่คือคำพูดของลูกศิษย์ท่านอิหม่ามฆอซาลีซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือให้ท่าน)
[3] ท่านอิหม่ามฆอซาลี ท่านอาเล็มวิชาฟิกฮ์ ระดับมุจตาฮิตมัสฮับ หมายถึงบรรดากออีเดาะห์ทั้งหลายของมัสฮับชาฟีอีย์ท่านรู้และเข้าใจทั้งหมด และวินิจฉัย ท่านรู้ต่อฮุก่มชาเราะอ์เป็นอย่างดี
คำว่า الشيخ อัลชัยคุ (เชค,ครู) ในทางภาษาหมายถึงผู้ที่อายุของเขาได้ล่วงเลยไปถึง40ปี แม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นคนกาเฟรก็ตาม แต่ถ้าในทางศาสนา หมายถึง ผู้ซึ่งเขานั้นได้ไปถึงระดับมุรตะบัต ในด้านความรู้ เช่น เป็นโต้ะกอฎีย์ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเด็กก็ตาม(อายุไม่ถึง40ปีแต่ความรู้ของเขาถึงแล้ว) ก็นับว่าเป็นชัยค์เหมือนกัน
[4] คนสอและห์ หมายถึง คนที่เขานั้นได้ปฏิบัติ ต่อบรรดาสิทธิของอัลลอฮ์ที่อัลลอฮ์ทรงใช้ทั้งหลายและเขาได้ปฏิบัติให้ลุล่วงไปทั้งหมดต่อบรรดาสิทธิ์ของมนุษย์ที่มีบนเขา(หน้าที่ต่ออัลลอฮ์ เช่น ละหมาด ถือศีลอด สิ่งวายิบทั้งหลาย และมนุษย์ทำครบถ้วน เช่น การตอบรับคำสลาม เราละหมาดมายัต ช่วยเหลือคนลำบาก การจ่ายหนี้สิน) เขาระวังสิทธิ์ทั้งต่ออัลลอฮ์และต่อมนุษย์
[5] คนซาเฮด หมายถึง ท่านนั้นเป็นผู้หัวใจว่างเปล่าต่อดุนยา คือเขาไม่ปรารถนาต่อดุนยานั้นเอง , นั่นก็คือเขานั้นเอาใจออกห่างจากสิ่งที่ต่ำต้อย(นั่นคือดุนยา) นี่ความหมายในทางภาษา แต่ในทางชาเราะอ์ หมายถึง เขานั้นแสวงหาจากดุนยาเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ เขาจะเลือกเฟ้นสิ่งที่มั่นใจว่าฮาลาลจริงๆไม่เอาของชุบฮัต(คลุมเครือ)
[6] อิหม่าม คือผู้ที่นำ ตามความหมายศัพท์เทคนิค ส่วนความหมายทางชาเราะอ์ หมายถึง ผู้ที่เสาะห์ในการที่จะละหมาดตามเขา
[7] الزاهد อัซซาฮิดู หมายถึง ผู้ที่ประกอบไปด้วยคุณลักษณะของการเป็นผู้ที่ซาเฮด คือพอเพียงต่อโลกดุนยานี้นั่นเอง
[8] ผู้เขียน ท่านได้บอกว่าชื่อของครูของฉันหมายถึงใคร
คำว่า ฮุจยะตุลอิสลาม เป็นฉายา/สมญานาม ของท่านอิหม่ามฆอซาลี หมายถึง ผู้ที่ทำให้อิสลามมีความมั่นคงแน่นแฟ้น หมายถึง ท่านนั้นสามารถจะชี้แจงข้อสงสัยต่างๆของศาสนาได้อย่างกระจ่างแจ้งในทุกๆเรื่อง
[9] ซัยนุดดีน หมายความว่า เป็นสิ่งประดับประดาของศาสนาทำให้ศาสนานั้นสวยงาม ผู้ซึ่งทำให้ศาสนานั้นสวยงาม
[10] หมายถึง เป็นอุมมะห์ที่มีเกียรติ/ได้รับเกียรติ
[11] (11) ชื่อเรียก ซึ่งเป็น กุนยะห์ คือคำที่ขึ้นต้น ด้วย อุมมุล หรืออาบุล เช่น อุมมุลกันโสม เป็นต้น คำว่า อาบูฮามิด หมายถึง พ่อของฮามิด
.......................................................................................................................................................