เรื่องอุฎฮียะห์ ( การเชือดสัตว์ทำกุรบาน ) ตอนที่ 1
بسم الله الرحمن الرحيم الحمدلله رب العالمين
والصلاة السلام على سيدالمرسلين وعلى آله وصحبه أجمعين
อุฎฮียะห์ คือการเชือดสัตว์ทำกุรบาน ซึ่งถือเป็นสุนัตมุอักกัด สำหรับผู้ที่ประกอบพิธีฮัจญ์ และบุคคลอื่นๆจากผู้ที่ทำฮัจญ์ และไม่ถือเป็นวายิบ นอกเสียจากได้ทำการบนบาน ( نذر ) เช่นได้กล่าวว่า วัวตัวนี้ ฉันจะทำกุรบาน หรือ เพื่ออัลลอฮ์ จำเป็นบนฉัน แท้จริงแล้ว ฉันจะทำอุฎฮียะห์ ด้วยกับสัตว์ตัวนี้ หรือการกล่าวถ้อยคำ ซึ่งความจริงเขาไม่ได้บนบาน แต่ฮุกมเหมือนกับการบนบานแล้ว เช่นเขาได้กล่าวว่า ฉันจะทำให้สัตว์ตัวนี้เป็นอุฎฮียะห์ ( โดยที่ไม่ได้พิจารณาว่า การพูดนั้นเป็นการพูดเล่น หรือพูดจริงๆ ) หรือกล่าวว่า สัตว์ตัวนี้อุฎฮียะห์ ถ้าหากพูดออกไปแบบนี้แล้ว ก็วายิบที่จะต้องเชือดสัตว์ตัวนั้น
และฮารามสำหรับคนคนนั้นที่จะกินเนื้อของสัตว์ตัวนั้น แต่ไม่ถือว่าเป็นวายิบ ถ้าหากแม้นว่าได้กล่าวว่าอุฎฮียะห์ ขณะที่กล่าวบิสมิลลาฮ์ เช่นกล่าวว่า بسم الله اللهم هذه اضحيتى فقبل مني ( ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์ โอ้อัลลอฮ์ นี่คือสัตว์กรุบานของฉัน ขอพระองค์ทรงรับจากฉันด้วยเถิด) เพราะจุดมุ่งหมายในการกล่าวนั้นเพื่อเป็นการเอาบารอกัตของพระนามอัลลอฮ์เท่านั้น
เข้าเวลาของการเชือดกุรบานเมื่อไหร่ ?
เวลาของการเชือดกุรบาน จะเข้าเวลาเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นของวัน นะฮัร คือวันที่ 10 เดือนซุลฮิจญะห์ และได้ล่วงเลยเวลาของการละหมาดอิดิลอัฎฮา และเวลาของการอ่านคุตบะห์ทั้งสอง อย่างสั้นๆ แต่ที่ดีแล้วให้ล่าช้าในการเชือดจนกว่าจะล่วงเลยเวลาดังกล่าว (เวลาของการละหมาดอิดิลอัฎฮา และเวลาของการอ่านคุตบะห์ทั้งสอง อย่างสั้นๆ ) จนกระทั่งดวงอาทิตย์ขึ้นสักประมาณความยาวของไม้พายเรือ และสามารถเชือดสัตว์ได้จนกระทั่งดวงอาทิตย์ตกของวันตัชรีก ที่สาม คือวันที่ 13 เดือนซุลฮิจญะห์ ดังนั้นถ้าได้เชือดสัตว์ก่อนที่จะเข้าเวลาดังกล่าว หรือ หลังจากช่วงเวลาดังกล่าว ( หลังจากดวงอาทิตย์ตกของวันตัชรีก ที่สาม) ถือว่าการเชือดสัตว์กุรบานนั้นใช้ไม่ได้ แต่ถ้าหากว่าการเชือดกุรบานนั้น เป็นการเชือดที่ได้บนบานเอาไว้ และได้เชือดสัตว์นั้นหลังจากหมดเวลาไปแล้ว ดังนั้นก็วายิบให้เชือดสัตว์นั้นในขณะที่หมดเวลาไปแล้ว และถือว่า สัตว์กุรบานตัวนั้นเป็นการกอฎอ โดยถือว่าเป็นการฮาราม การเชือดที่วายิบ(กุรบานที่วายิบ) ที่ล่าช้าจากเวลาที่อณุญาตโดยที่ไม่ได้มีอุปสรรคอันใด
สัตว์อุฎฮียะห์ สามารถใช้สัตว์ใดได้บ้าง ?
สัตว์ที่สามารถเชือดกุรบานได้นั้น ได้แก่ อูฐ วัว ควาย แกะ แพะ ดังนั้นเงื่อนไขในการเซาะห์การเชือดสัตวกุรบาน จะต้องเป็นสัตวที่กล่าวมาเท่านั้น และสำหรับทัศนะของท่าน อิบนิอับบาส รฎ ถือว่าใช้ได้ในการทำกุรบาน โดยให้เป็นสัตว์ที่มีเลือดหยดก็เพียงพอ แม้ว่าสัตว์นั้น จะเป็นไก่ หรือ เป็ด ก็ตามที เหมือนดั่งที่ท่านมีดานีย์ได้กล่าวไว้ว่า มัซฮับของท่านอิบนิอับบาส ถือว่าใช้ได้ด้วยกับการที่มีการหลั่งเลือดของสัตว์ และมีคำกล่าวจากครูของเชค อัลบาญูรีย์ ท่านได้ใช้ให้ตักลีด ตามท่าน ท่านอิบนิอับบาส และท่านได้ทำการกิยาสสัตว์อุฎฮียะห์ กับ การทำอะกิเกาะห์ กล่าวคือ สัตวใดที่สามารถทำอะกิเกาะห์ สัตว์นั้นสามารถทำกุรบานได้ และท่านได้ใช้ให้ผู้ที่มีบุตร ให้ทำอะกิกะห์ ด้วยกับไก่ตัวผู้ ซึ่งเป็นการดำเนินตามมัซฮับของท่าน อิบนิอับบาส
สัตว์ที่ดียิ่งสำหรับเป็นอุฎฮียะห์
สัตว์ที่ดีที่สุด คือ อูฐ รองลงมาคือ วัว รองลงมาคือ แกะ แพะ และถือว่าแกะเจ็ดตัว นั้นดีกว่าอูฐตัวเดียว และถือว่าพอเพียงด้วยการเชือด อูฐ หรือ วัว หรือ ควาย หนึ่งตัว สำหรับคนเจ็ดคน( หุ้นส่วนกันในการเชือดอูฐ หรือ วัว หรือ ควาย หนึ่งตัว สำหรับคนเจ็ดคน ) แม้ว่าคนทั้งเจ็ดนั้นจะมีเจตนาในการเชือดสัตว์นั้นแตกต่างกันก็ตาม เช่น คนหนึ่งเจตนาเชือดทำกุรบาน คนหนึ่งเจตนาทำอะกิเกาะห์ คนหนึ่งเจตนาเพื่อจะกินเนื้อเท่านั้น คนหนึ่งเจตนาจะเอาเนื้อไปขาย และถึงแม้ว่าคนหนึ่งจากเจ็ดคนที่เป็นหุ้นส่วนนั้นจะเป็นกาเฟรซิมมีย์ ( กาเฟรที่อยู่ภายใต้การปกครองของกฎหมายอิสลาม แต่กาเฟรประเภทอื่นนั้น ไม่อณุญาต )ก็ตามที ถือว่าไม่มีผลเสียใดๆต่อคนอื่นที่เจตนาทำกุรบานในสัตว์ตัวนั้น(การทำกุรบานนั้นใช้ได้ เช่นเดียวกับกับอะกิเกาะห์ก็ใช้ได้เช่นกัน ) โดยที่หลังจากเชือดแล้วได้มีการแบ่งเนื้อออกเป็นส่วนๆ เจ็ดส่วน เท่าๆกัน ให้แก่คนเจ็ดคนดังกล่าวนั้น
และสำหรับแกะ แพะ นั้น พอเพียงสำหรับคนหนึ่งคน โดยสำหรับแกะ หรือ แพะ หนึ่งตัวนั้น ถือว่าดีกว่าการหุ้นส่วนในอูฐ หนึ่งตัว สำหรับคนเจ็ดคน
เงื่อนไขของสัตว์ที่จะเชือดกุรบาน
อูฐ ต้องมีอายุครบห้าปีบริบูรณ์ ย่างเข้าปีที่หก
วัว ควาย แพะ ต้องมีอายุครบสองปีบริบูรณ์ ย่างเข้าปีที่สาม
แกะ ต้องมีอายุครบหนึ่งปีบริบูรณ์ หรือแกะที่ได้มีการผลัดฟันหน้าทั้งสองแล้วแม้ว่าอายุจะยังไม่ครบหนึ่งปี แต่มีเงื่อนไขคือต้องผลัดฟันหลังจากมีอายุครบหกเดือนแล้ว ( ถ้าหากมีการผลัดฟันก่อนอายุครบหกเดือน ถือว่าใช้ไม่ได้ )
สัตว์ทั้งห้าชนิดที่กล่าวมานั้นสามารถใช้ทำกุรบานได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้ ตัวเมีย หรือมีสองเพศในตัวเดียวกันก็ตาม