กิตาบมุฮิมเมาะห์ ตอนที่ 2
بسم الله الرحمن الرحيم
หน้าที่ 3 บรรทัดที่ 2
เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ภรรยาได้ทำการทรยศสามี ดังที่ได้กล่าวผ่านพ้นมานั้น แม้การทรยศนั้นจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆเพียงชั่วพริบตาเดียวก็ตาม ก็ไม่วายิบบนสามีที่จะต้องจ่ายนะฟาเกาะห์ให้กับเธอ ในวันนั้น ( วันที่ภรรยานั้นได้ทำการทรยศ )
และไม่วายิบ ให้สามีต้องให้เสื้อผ้า ในฤดูกาลนั้น (ปกติ สามีจะต้องให้เสื้อผ้ากับเธอ ในแต่ละฤดู ซึ่งแบ่งเป็น ฤดูร้อน และฤดูหนาว )
และไม่วายิบเช่นกัน ในการที่สามีจะทำการสับเปลี่ยนเวร ( ในกรณีที่มีภรรยามากกว่า 1 คน ซึ่งต้องมีการเปลี่ยนเวรกัน ) แต่ข้อตัดสินสำหรับภรรยา ที่ทรยศสามีนั้น ก็คือให้สามี งดเว้นจากการร่วมหลับนอนกับเธอ จนกว่าเธอนั้น จะเลิกทำการทรยศสามี และเปลี่ยนแปลงไปสู่ การเชื่อฟัง และปฏิบัติดีกับสามีเสียก่อน แม้ว่า เวลาแห่งการงดร่วมหลับนอนกับเธอนั้น จะยาวนานเป็นเวลาหลายปี ก็ตามที
และมาลาอีกะห์จะทำการสาปแช่งต่อภรรยาที่ทรยศต่อสามี( การสาปแช่งของมาลาอิกัตนั้นเป็นที่ตอบรับ ) บรรดามาลาอิกัตเหล่านั้น เป็นผู้ที่ทำการภักดี และไม่ทรยศต่ออัลลอฮ์ ตะอาลา แม้แต่พริบตาเดียว และแท้จริงอัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจแห่งขุมนรก จะลงโทษต่อหญิงที่ทรยศต่อสามีในนรก
มีรายงานจาก ท่านหญิงอาอีชะห์(ร.ฎ ) ได้กล่าวว่า
"โอ้บรรดาผู้หญิงทั้งหลาย ถ้าพวกเธอทั้งหลายได้รู้สิทธิทั้งหมดของสามีที่มีอยู่บนภรรยา แน่นอนพวกเธอทั้งหมด ก็จะทำการปัดกวาดฝุ่นที่อยู่บนรองเท้าสามีด้วยใบหน้าของเธอ "
และได้มีรายงาน จากท่านฮากิม ว่า
" มีหญิงคนหนึ่งมาถามท่านนาบี(ซล.)ว่ามีลูกพี่ลูกน้องของฉัน ชื่อ ซายานู มาสู่ขอฉัน ดังนั้นท่านโปรดบอกต่อฉันเถิดว่าสิทธิของสามีที่มีต่อภรรยานั้นมีอะไรบ้าง ดังนั้นถ้ามีสิ่งใดจากสิ่งที่ต้องปฏิบัตินั้น
ที่ ฉันสามารถที่จะปฏิบัติได้ ฉันก็จะแต่งงาน
ดังนั้น ท่านนาบี(ซล.) ตอบไปว่า ส่วนหนึ่งจากสิทธิของสามี ที่มีเหนือภรรยา นั้นก็คือ ถ้ามีเลือดหรือหนองออกจากจมูกของสามี ดังนั้น ภรรยานั้นก็ได้เลีย(เลือดหรือหนองที่ออกมาจากจมูกของสามี )ด้วยลิ้นของนาง แท้จริงแล้ว สิ่งที่เธอทำนั้นก็ยังถือว่า ไม่เพียงพอต่อสิทธิของสามีที่มีต่อภรรยา และถ้าหากเป็นสิ่งที่สมควร โดยการที่คนคนหนึ่งสูยูดต่อคนอีกคนหนึ่งได้ แน่นอนฉันจะสั่งให้ภรรยานั้น สูยูดต่อสามีของนางเมื่อไหร่ก็ตามที่สามีของนางได้ไปหานาง เพราะอัลลอฮ์ทรงยกเกียรติของสามีเหนือภรรยาของเขา
ดังนั้นหญิงที่ไปถามนาบีนั้น ก็กล่าวว่า ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ผู้ที่แต่งตั้งท่านให้เป็นนาบีว่า ฉันจะไม่แต่งงานตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้
ได้มีเรื่องเล่าจากฮาดิษท่านนาบี ในขณะที่ท่านนาบีมาถึงมาดีนะห์ ท่านนาบีได้ออกไปดูศพหนึ่ง และท่านนบีได้เห็นผู้หญิงหลายคน ที่ได้ติดตามศพนั้น ท่านนาบี(ซล.) ได้ถามผู้หญิงเหล่านั้นว่า "เธอได้แบกศพนั้น พร้อมกับบรรดาผู้ที่กำลังแบกศพนั้นหรือ" ผู้หญิงเหล่านั้นก็ได้ตอบว่า " เปล่าค่ะ พวกฉันไม่ได้แบก" ท่านนาบีก็ได้ถามต่อไปว่า " เธอทั้งหลายได้ละหมาดต่อศพนั้นพร้อมๆกับผู้ทีี่ละหมาดให้แก่ศพนั้นหรือ" ผู้หญิงเหล่านั้นก็ได้ตอบว่า "เปล่าค่ะ พวกเราไม่ได้ละหมาดต่อศพนั้น" ดังนั้นท่านร่อซู้ลได้กล่าวต่อผู้หญิงเหล่านั้น ว่า " ที่ดีแล้วสำหรับเธอทั้งหลาย คือไม่ต้องไปเยี่ยมศพนั้น และมันไม่มีผลบุญ " ดังนั้นท่านนาบี(ซ.ล.) ก็ได้ใช้ให้พวกเธอทั้งหมดนั้น ให้เธอเหล่านั้นอยู่กับบ้านของพวกเธอ เพราะการที่นางอยู่ปรนนิบัติต่อสามีของนางนั้น แน่นอนนั่นจะทำให้นางได้รับผลบุญ จากการที่นางได้ปรนนิบัติสามี เท่าๆกับ การปฏิบัติตออัต และอิบาดัตของบรรดาผู้ชาย (นางจะได้รับผลบุญเท่ากับสามี ที่เขาได้ทำการตออัต และอิบาดัตนั่นเอง )