นายิสที่ได้รับการผ่อนปรน( มาอัฟ ) มี 3 ประเภท
1. ผ่อนปรนให้เครื่องนุ่งห่ม และน้ำ ได้แก่ นายิสที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ด้วยสายตาของคนปานกลาง
2.ผ่อนปรนให้เครื่องนุ่งห่ม และร่างกาย แต่ไม่ผ่อนปรนให้เม่ือตกลงไปในน้ำ ได้แก่ เลือด และหนองที่เล็กน้อย
3.ผ่อนปรนให้เมื่อตกลงไปในน้ำ และของเหลว แต่ไม่ผ่อนปรนให้อยู่ที่เสื้อผ้าและร่างกาย ได้แก่ซากสัตว์ที่ไม่มีเลือดไหล เช่นจิ้งจก หรือซากสัตว์ที่ไม่มีเลือด ได้แก่ กบ แมงป่อง มด เป็นต้น
กล่าวโดย ฟากอล และผู้ที่ถือตามท่านว่า บรรดาซากของ สัตว์ที่ไม่มีเลือด ( คือสัตว์นั้น ไม่มีเลือดไหลจากร่างกายของมัน ) นั้นสะอาด เพราะการไม่มีเลือดของมันนั้น ทำให้มันไม่มีกลิ่นเหม็น ซึ่งสอดคล้องกับมัซฮับอิมามมาลิกีย์ และอิมามฮานาฟี ซึ่งมีทัศนะว่า การละหมาดโดยที่มี ซากของ สัตว์ที่ไม่มีเลือดอยู่ที่ร่างกาย ถือว่าใช้ได(ซึ่งทัศนะถือว่านี้ฎออีฟ)
บรรดาเงื่อนไขที่จะได้รับการผ่อนปรน ของนายิสขณะที่ละหมาดมี 3 ประการ
1 อย่าให้นายิสนั้นไปปนกับนายิสอื่น โดยที่ไม่มีเหตสุดวิสัยใดๆ
2. นายิสนั้นต้องไม่เป็นนายิสที่เกิดจากการกระทำของเรา เช่น เลือดจากฝี ถ้ามันออกมาเอง ปริมาณน้อยๆ ไม่เป็นไร แต่ถ้าเราไปแกะมันเองแล้วเลือดออก แบบนั้นไม่มาอัฟให้ (ต้องล้างออก )
3 นายิสนั้นต้องอยู่บนเสื้อผ้า หรือร่างกาย
ดังนั้น ถ้าหากนายิสนั้นปนกับสิ่งอื่น ถือว่าไม่มาอัฟ ถึงแม้นายิสนั้นจะน้อยก็ตาม ( ทัศนะนี้แข็งแรง)
แต่อุลามะอ์ส่วนหนึ่งบอกว่ามาอัฟให้ ถ้านายิสนั้นมีปริมาณน้อยๆ และเนื่องจากสุดวิสัย และถ้าแม้ว่ามีเลือดหรือหนองออกมา ด้วยการกระทำของเราเอง เช่น ตบยุง หรือฆ่าตัวทาก หรือบีบฝี แบบนี้ถือว่าไม่มาอัฟ แต่ทัศนะที่แข็งแรงนั้น ถือว่ามาอัฟถ้าหากว่าเลือดหรือหนองนั้นปริมาณน้อยๆ แต่ถ้ามาก ก็ไม่มาอัฟ
มัจญมัวะซาลาซา หน้า 31
ปริมาณที่ถือว่าน้อยของเลือดหรือหนองนั้น พิจาณาจากความเห็นของคนส่วนใหญ่ ส่วนหนึ่งจากความเห็นที่ว่าน้อยได้แก่ มีขนาดไม่เกินขนาดของเล็บ ถ้าเกินขนาดของเล็บวายิบต้องล้าง และส่วนหนึ่งกล่าวว่า ปริมาณที่มากได้แก่ปริมาณที่มองเห็นโดยที่ไม่ต้องเพ่งมอง และไม่ต้องพิจารณาถ้าหากมีความสงสัย( شك ) ว่านายิสนั้นน้อยหรือมาก ก็ให้ถือว่านายิสนั้นมีปริมาณน้อย
มัจญมัวะซะลาซา หน้าที่ 26