بِسْمِ اللهِ الرَّحْمٰنِ الرَّحِيْمِ
ศาสนานั้น คือ ใจความจากประมวล( หู่ก่ม )(1) หลักการของอัลลอฮ์ ( ซ.บ.) ที่พระองค์ได้ทรงส่งท่านร่อซู้ล (2)มายังปวงบ่าว(3) ของพระองค์ อันทําให้เขาเหล่านั้นประสบแต่คุณงามความดีอันถาวรสืบไป(4) เครื่องหมายของศาสนานั้นมี 4 ประการ (5)
1. การเชื่อที่ถูกต้อง(6) กล่าวคือ การเชื่อมั่นอย่างเด็ดขาด(7) ต่อสิ่งที่ชาวอะฮ์ลิซซุนนะฮ์(8) เชื่อมั่น
2. มีเจตนาที่ถูกต้อง กล่าวคือ ทําอิบาดะฮ์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
3. ปฏิบัติตามสัญญาให้สมบูรณ์ (9) กล่าวคือ ทําในสิ่งที่ใช้
4. ไม่ล่วงละเมิดขอบเขต กล่าวคือ ละทิ้งสิ่งที่ห้าม
(ขยายความ เรื่องความบริสุทธ์ใจ) คือการทําอิบาดะฮ์โดยความอิคลาศต่ออัลลอฮ์ ( ซ.บ.)(10) ไม่ทําอิบาดะฮ์ด้วยการมีหุ้นในสิ่งอื่นจากอัลลอฮ์ ( ซ.บ.) อัลกุรอ่านกล่าวว่า
فَمَنْ كَانَ يَرْجُو لِقَاءَ رَبِّهِ فَلْيَعْمَلْ عَمَلًا صَالِحًا وَلَا يُشْرِكْ بِعِبَادَةِ رَبِّهِ أَحَدًا﴾ الكهف : 110)
ความว่า “ ใครก็ตามหวังที่จะพบกับผู้อภิบาลของเขา ก็จงทําอะมั้ลที่ดีโดยไม่หุ้นส่วนสิ่งใด ๆ กับผู้อภิบาลของเขาในการทําอิบาดะฮ์ ”
บรรดาอุละมาอ์มีทัศนะต่างกันเกี่ยวกับผู้ทําอิบาดะฮ์ที่กระทําเพื่ออัลลอฮ์ และดุนยาด้วย (11) อีหม่ามอิบนุอับดิสสลาม และท่านอื่น ๆ มีทัศนะว่า ผู้ทําอิบาดะฮ์ที่มีเจตนาเช่นนี้จะไม่ได้รับกุศลเลย อิหม่ามฆอซาลีมีทัศนะว่า ต้องพิจารณาเหตุที่เป็นสิ่งจูงใจให้ทําอิบาดะฮ์นั้น กล่าวคือ หากแรงจูงใจทางอาคิเราะฮ์มากกว่า ก็จะได้รับผลบุญตามจํานวนที่มี(12) แต่ถ้าหากแรงจูงใจทางดุนยามีมากกว่าก็จะไม่ได้รับผลบุญเลย และหากมีเท่า ๆ กัน(13) ก็จะไม่ได้รับผลบุญอะไรเลยเช่นกัน ทัศนะของอิบนุหะญัร ในซัรห์อีดอฮ์ให้ความเข้าใจว่า จะได้รับผลบุญตามที่จะมีเจตนา เนื่องจากมีโองการจากอัลกุรอ่านว่า
فَمَنْ يَعْمَلْ مِثْقَالَ ذَرَّةٍ خَيْرًا يَرَهُ﴾ الزلزلة : 7)
ความว่า “ ใครที่ทําดีเท่าผงธุลีเดียว เขาก็จะได้เห็นมัน ”
อธิบาย
(1) ศาสนา เป็นคำๆหนึ่ง ซึ่งหมายถึง การรวบรวมบรรดาศาสนบัญญัติต่างๆไว้ ทั้งสิ่งที่ใช้ให้ปฏิบัติ และสิ่งที่ห้ามปฏิบัติ รวมทั้งหมดนั้นเรียกว่าศาสนา ผู้ใดปฏิบัติตาม เรียกว่า ผู้มีศาสนา
(2)บรรดาฮูก่มต่างๆนั้นอัลลอฮ์ได้ส่งผ่านทางคำพูดของนบี
(3)บ่าวที่ฮูกุมได้ตกหนักบนบ่าวผู้นั้น เรียกว่า มุกัลลัฟ เงื่อนไขของการเป็นมุกัลลัฟ มี 4 ประการ
1. ต้องเป็นผู้มีสติ สัมปชัญญะ ที่สมบูรณ์
2. ต้องบรรลุนิติภาวะ คือ อายุครบ 15 ปี หรือ อายุน้อยกว่า 15 ปี แต่มีอสุจิเคลื่อนออกในเพศชาย,หรือมีประจำเดือนในเพศหญิง
3. มีประสาทสัมผัสทั้ง 5 ที่ครบสมบูรณ์ จุดมุ่งหมายที่แท้จริงคือ ตาบอด+หูหนวก = ไม่วายิบ , ถ้าตาหรือหูอย่างใดอย่างหนึ่งยังดีอยู่ วายิบ ตกบนคนๆนั้น เพราะยังสามารถเรียนรู้บทบัญญัติศาสนาได้
4. คำประกาศศาสนาของนบีมูฮัมมัด (ซ.ล.) ได้ไปถึงผู้นั้นแล้ว ถ้าอยู่ในที่ห่างไกลจนไม่สามารถรับรู้คำประกาศศาสนา เช่น บนเกาะห่างไกล ไม่มีการติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอก ก็ไม่ถือว่าเป็น มุกัลลัฟ
(4)หมายถึงผู้ที่ยอมรับกับสิ่งที่นบี(ซ.ล.) นำมาเผยแพร่ และปฏิบติตาม จะนำพาไปสู่ความดี คือได้เข้าสวรรค์ ( อุลามาอ์ ได้เปรียบเทียบว่านบี เปรียบเสมือนเรือข้ามฟาก ที่จะพาเราไปส่งอีกฟากหนึ่ง ซึ่งเปรียบเสมือนสวรรค์ ถ้าเราอยากไปอีกฟากหนึ่งก็ต้องยอมลงเรือ คือการที่เรายอมรับและปฏิบัติตามสิ่งที่นบี(ซ.ล.) นำมาเผยแพร่นั่นเอง )
(5)เครื่องหมายที่บอกว่าคนคนหนึ่งนั้นมีศาสนา
(6)คือยึดมั่นตรงตามที่อัลลอฮ์ ทรงประสงค์
(7)คือการยึดมั่นอย่างเด็ดขาด ไม่มีความสงสัย คลางแคลง ( جزم) การเชื่อโดยยังมีความสงสัย ( 50:50 ) หรือ หนักไปทางไม่แน่ใจ ( คือเชื่อน้อยกว่า 50%) หรือเชื่อและค่อนข้างแน่ใจ ( เชื่อมากกว่า 50% แต่ไม่เชื่อ เต็มร้อย ) ถือว่า การเชื่อนั้นใช้ไม่ได้ เช่น พอมีคนมาถามเราว่าอัลลอฮ์ มีจริงมั้ยพร้อมกับเขาได้ให้เหตผลว่า ทำไมเขาถึงคิดว่าไม่มีอัลลอฮ์ เราก็เกิดความสงสัยในใจเราว่าตกลงอัลลอฮ์ มีจริงมั้ย แบบนั้นถือว่าการเชื่อของเรายังใช้ไม่ได้
(8)คือแนวทางที่ได้รับมาจากท่านนบี(ซ.ล.) ซอฮาบะฮ์ และ ตาบิอีน และสืบทอดมาจนถึงเรา
(9)เราได้สัญญากับอัลลอฮ์ เมื่อครั้งที่เราอยู่ในอาลัมซัร ( โลกแห่งมดตัวเล็กๆ) คือตอนที่อัลลอฮ์ได้สร้างนบี อาดัม ณ สถานที่หนึ่ง ชื่อว่า วาดีนัวะมาล ใกล้ๆ กับอารอฟะฮ์ อัลลอฮ์ได้นำมนุษย์ทั้งหมดที่จะเกิดมาในโลกนี้ ออกมา ณ สถานที่นั้น ในสภาพที่ตัวเล็กๆเหมือนมด และพระองค์ได้ทำให้ ทั้งหมดนั้นมีซีฟัต การได้ยิน การเห็น และ การพูด และพระองค์ได้ทรงตรัสกับทั้งหมดนั้นว่า “ ฉันคือพระเจ้าของพวกเจ้าใช่มั้ย ทั้งหมดนั้นได้ตอบว่า ใช่ “ ความหมายของการตอบรับว่าใช่ คือการยอมรับว่าอัลลอฮ์ เป็นพระเจ้า หมายถึงว่า ทุกๆสิ่งที่พระองค์ทรงใช้ เราจะปฏิบัติ และทุกๆสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม เราจะละทิ้ง แต่เมื่อเราเกิดมาบนโลกนี้ เราได้ลืมคำสัญญานั้นจนหมดสิ้น (ยกเว้นมนุษย์คนเดียว คือท่านซัยยิดินา อาลี ) ด้วยเหตุนี้อัลลอฮ์ จึงส่งรอซู้ลมา เพื่อจะเตือนความทรงจำของเรา
(10)เช่น ทำอามัล ซิเกรเยอะๆ เพราะหวังว่าจะมีวิชาเพื่อรักษาคน จะได้ใช้หาเงิน
(11)อุลามาอ์ ยกตัวอย่างเช่น เราจะไปละหมาดที่มัสยิด แต่ตั้งใจจะไปขายของที่มัสยิดด้วย หรือ จะไปทำฮัจญ์ พร้อมกับตั้งใจจะไปค้าขายด้วย
(12)คือได้รับผลบุญในส่วนที่หนักไปในทางศาสนานั้น
(13)คือมีแรงจูงใจทางอาคิเราะฮ์ และแรงจูงใจทางดุนยา เท่าๆกัน