อธิบายกีตาบ ฟะรีดะตุ้ล ฟะรอเอ็ด ตอนที่ 5
ศาสนานั้นมีองค์ประกอบอยู่ 3 ประการคือ
1.) อิสลาม
2.) อีหม่าน และ
3.) เอี๊ยะซาน
อิสลาม นั้น คือการตามและยอมรับโดยภายนอก (1) ของบุคคลต่อสิ่งที่ร่อซู้ล ( ศ้อล ฯ) นํามา (2)
ได้แก่สิ่งที่พึงรับรู้จากศาสนา(3) ในทางฎ่อรูเราะฮ์ (4) กล่าวคือ โดยไม่ต้องพินิจพิจารณา(5) เช่น สองกะลีมะฮ์ซะฮาดะฮ์(6) ละหมาด เป็นต้น(7) จุดมุ่งหมายของคําว่า ตามและยอมรับนั้น คือยอมรับโดยวาจา(8) โดยไม่ปฏิสธ(9) แม้จะไม่ได้กระทําก็ตาม(10) เช่น ไม่ละหมาด(11) และอื่น ๆ เป็นเนืองนิตย์(12)
รู่ก่น(13) อิสลามนั้นมี 5 ประการ
1. ปฏิญานว่า(14) “ ไม่มีพระเจ้าอื่นใด(15) นอกจากอัลเลาะห์ และมุฮัมมัดเป็นร่อซู้ลของพระองค์ (16) สําหรับรู่ก่นนี้บังคับเฉพาะกาเฟรที่ต้องการเข้ารับนับถืออิสลาม(17)
2. ละหมาดห้าเวลา(18)
3. บริจาคซะกาต
4. ถือบวชเดือนรอมฎอน
5. บําเพ็ญฮัจญ์ ณ. บัยตุลลอฮ์ สําหรับผู้ที่สามารถจะเดินทางไปได้(19)
อธิบาย
(1)เช่นภายนอกเราเห็นเขาละหมาด กล่าว 2 กะลีเมาะฮ์ชะฮะดะฮ์ แต่ภายในจิตใจเราไม่รู้ว่าเขาศรัทธาหรือไม่ ถ้าหากเขาตายเราก็ต้องปฏิบัติกับเขาเหมือนมุสลิมคนหนึ่ง คือ ละหมาดญานาซะฮ์ และฝังในกูบูรอิสลาม ทั้งนี้เพื่อเป็นการง่าย ในการปฏิบัติต่อเขาเมื่อเขาตายนั่นเอง หมายความว่าอิสลามทุกคนไม่ได้เป็นมุอ์มิน แต่มุอ์มินทุกคนต้องเป็นอิสลาม
(2) สิ่งที่นบีนำมา อูลามะอ์ อธิบายว่า หมายถึง นำมาถึง และทำให้บุคคลนั้นได้รู้
(3) สิ่งที่พึงรับรู้จากศาสนา อูลามะอ์ อธิบายว่า สิ่งซึ่งเป็นที่รับรู้ว่าสิ่งนั้นมีอยู่ในศาสนาอิสลาม
(4) การรู้ในทางฎ่อรูเราะฮ์ อูลามะอ์ อธิบายว่า คือเป็นที่รู้โดยทั่วไป เป็นสิ่งที่เปิดเผย แจ้งชัด(เป็นสิ่งที่ร่ำลือ) เช่น การละหมาด ใครๆ ก็รู้ว่ามุสลิม วายิบต้องละหมาด ไม่ต้องคิด ไม่ต้องถามกันแล้ว
(5) คือไม่ต้องตรึกตอง หาหลักฐานแล้ว เพราะเป็นที่รู้กันอยู่แทบทุกคน แม้กาฟิรก็ยังรู้
(6) มุสลิมทุกคนรู้ว่า ทุกคนที่เข้ารับอิสลามต้องกล่าวสองกะลีมะฮ์ ซะฮาดะฮ์
(7) สรุปคือ ใครก็ตามที่ปฏิบัติตาม ต่อสิ่งที่เป็นที่รู้กันว่า สิ่งนั้น เป็นสิ่งที่มีในศาสนา เช่น กล่าวสองกะลีมะฮ์ซะฮาดะฮ์ ละหมาด โดยเขาปฏิบัติโดยภายนอก ก็จะตัดสินว่าคนนั้นเป็นมุสลิม
(8) คือกล่าวสองกะลีมะฮ์ซะฮาดะฮ์ ในกรณีที่เขามีความสามารถที่จะกล่าวได้ คือไม่ได้เป็นใบ้
(9) คือสิ่งที่วายิบก็ยอมรับว่าวายิบ สิ่งที่ฮารามก็ยอมรับว่าฮาราม
(10) คือเขายอมรับต่อฮูก่ม เช่น ยอมรับว่าละหมาดนั้นวายิบต้องปฏิบัติ แต่เขาไม่ได้ปฏิบัติ แบบนี้ก็ยังถือว่าเขาเป็นอิสลาม เพราะเขาไม่ได้ปฏิเสธว่าละหมาดนั้นวายิบ
(11) ไม่ละหมาดโดยเจตนา เช่นสาเหตุเพราะขี้เกียจ
(12) เช่น ไม่เคยละหมาด ไม่เคยถือศีลอด ไม่เคยออกซะกาต เลย ตลอดชีวิต นอกจากกล่าวแต่เพียงสอง กะลีมะฮ์ซะฮาดะฮ์ ถึงกระนั้นก็ตามก็ยังถือว่าเขาเป็นมุสลิม
(13) รูก่นคือ โครงสร้างสร้างหลักของสิ่งหนึ่ง ถ้าหากไม่มี(รูก่น) สิ่งนั้นก็ถือว่าเสียไป เช่น รูกัวะเป็นรูก่นละหมาด ถ้าไม่มีรูกัวะการละหมาดนั้นก็ใช้ไม่ได้ ถ้ามีคนถามว่า ละหมาดเป็นรูก่นอิสลาม ดังนั้นถ้าไม่ละหมาดก็ถือว่าไม่เซาะห์ในการเป็นอิสลามสิ ? รูก่นในที่นี้หมายถึงสิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญๆในศาสนาเปรียบประดุจดังรูกุน หมายถึงละหมาดนั้นสำคัญเปรียบเสมือนโครงสร้างหลัก(รูก่น)ของศาสนา
(14) ต้องกล่าวด้วยคำพูด
(15) พระเจ้าที่ถูกกราบไหว้โดยเที่ยงแท้
(16) คือผู้ที่อัลลอฮ์ใช้ให้นำศาสนบัญญัติของพระองค์ มาสู่มนุษย์
(17) เป็นเรื่องที่วายิบต้องกล่าว สำหรับกาฟิรที่จะเข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม สำหรับผู้ที่เป็นอิสลามโดยกำเนิด นั้นถือว่าเขาเป็นอิสลามแล้ว ตั้งแต่กำเนิด ถึงแม้เขาจะไม่ได้กล่าว 2 กะลิมะฮ์ชะฮาดะห์ก็ตาม ( มีคนถามว่า ถ้าอย่างนั้นรูก่นสำหรับคนอิสลามแต่กำเนิดก็มี 4 ข้อสิ? อูลามะอ์ ตอบว่า รูก่นอิสลามหรับคนที่จะเป็นอิสลามโดยกำเนิด นั้นก็มี 5 ประการเช่นกัน ถ้าเปรียบคนอิสลามกับคนกาเฟรก็เหมือนชานม 2 แก้ว คนอิสลามโดยกำเนิดเปรียบเหมือนชาที่ใส่ชา ใส่นมเรียบร้อยแล้ว
พร้อมดื่มได้เลย ( คือมีส่วนประกอบครบอยู่แล้ว ) สำหรับคนกาฟิรเสมือนกับชาที่ยังไม่ใส่นม พอเขากล่าว สองกาลิมะห์ ก็เหมือนกับใส่นมลงไป ก็กลายเป็นชานมเหมือนกัน )
(18) ดำรงละหมาด 5 เวลา คือการปฏิบัติสิ่งที่เป็นฟัรฎูของการละหมาดโดยสมบูรณ์ นั่นคือต้องรักษาสิ่งที่เป็นรูก่น และ ชารัต (เงื่อนไข) และต้องปฏิบัติครบถ้วนทุกเวลา ( คำอธิบายของปะดอแอ มักกะห์ )
(19) ไม่วายิบสำหรับผู้ที่ไม่สามารถเดินทางไปได้