วะสาเอล อิลมูกะลาม
بسم الله الرحمن الرحيم
ตอนที่4 8/8/59 หน้า10 บรรทัดที่1
อุลามะอ์ได้กล่าวว่า(ตะรีฟ) ความหมายขอบยาอิซ คือ สิ่งที่ฮารุสนั้นคือสิ่งซึ่งรับได้/ใช้ได้ ด้วยการพินิจพิเคราะห์ด้วยสติปัญญาว่าสิ่งนั้นจะมีก็ได้จะไม่มีก็ได้ คือเป็นไปได้ทั้งสองทาง เราจะเห็นได้ว่าสิ่งที่เป็นสิ่งยาอิซนั้นคือสิ่งที่ไปโดนเข้ากับประการหรือสิ่งนั้นที่ยอมรับว่ามีหรือไม่มีก็ได้ เท่านั้น ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่จริงก็ไม่เข้านิยามนี้ ยกตัวอย่าง ลุกมะพร้าวหรืออื่นๆที่คล้ายๆกัน มันสามารถมีก็ได้หรือไม่มีก็ได้เพราะมันเป็นมุมกิน เมื่อแรกเริ่มต้นมันยังเล็กมันไม่มีลุก พอต้นโตก้อมีลูกมะพร้าว พอลุกมันร่วงก็ไม่มีลุกมะพร้าว ดังนั้นสติปัญญายอมรับทั้งสองฝาก แต่ว่ามันไม่เข้าในนิยามของญาอิซหรอกการหล่นของลุกมะพร้าวนั้น เพราะการหล่นของลูกมะพร้าวนั้นมันไม่มีแต่มันเป็นแค่ความจริงเท่านั้น หรือสิ่งอื่นที่คล้ายๆกันกับการหล่น เช่น การรั่ว การแตก การเดิน ซึ่งเป็นคำกริยาต่างๆ และเช่นกันที่ไม่เข้าในนิยามของอันนี้คือการประทานผลบุญของอัลลอต่อคนมุมิน แต่มันเป็นสิ่งท่ีจริง/ไม่จริง ดังนั้นมันจึงไม่เข้าในนิยามของยาอิซ และการสร้างมุมกิน( กุดรัต:มี แต่การสร้าง:ไม่มี การสร้างเป็นความจริง)หรืออย่างอื่นที่คล้ายๆกันก็เช่นกัน เพราะมันเป็นเพียงความเข้าใจแต่ไม่มี การไม่เข้าในนิยามของยาอิซเพราะอะไร?เพราะมันไม่ใช่สิ่งซึ่งเปลี่ยนแปลงรับได้ทั้งสองทางจากการมีหรือไม่มี แต่มันเป็นสิ่งซึ่งเรามาพิจารณาว่ามันจริงหรือไม่จริง จากสิ่งที่เรากล่าวมาคือ การหล่นของลุกมะพร้าว(หล่น/ไม่หล่น) การประทานผลบุญของอัลลอตาอาลา(ประทาน/ไม่ประทาน) การสร้างมุมกิน(สร้าง/ไม่สร้าง) ทั้งหมดมันไม่เข้าในนิยาม แต่เป็นฮารุสในทางอากาลทั้งนั้น มันจึงเป็นปัญหาและเกิดความเสียหายในการนิยามของยาอิซ
ผุ้เขียนหนังสือขออธิบายความหมายที่แท้จริงคือ คำว่า วุยุดุฮุ้ และอาดามุฮุ้ ในคำตะรีฟนั้น ก็เหมือนกับในคำนิยามของ วายิบ/มุสตาฮีล ที่ผ่านมา นั่นคือ คำว่าวุยุ้ด คือ(คำว่ามี)ด้วยกับความหมายว่าจริง และคำว่าอาดัม(ไม่มี)ด้วยกับความหมายของคำว่าไม่จริง เมื่อเค้าได้ตะเวลความหมายอย่างนี้ทำให้นิยามของมันเปลี่ยนไป สติปัญญาของเรารับได้ทั้งสองทาง จะจริงก็ได้ไม่จริงก็ได้ พอเราเปลี่ยนความหมายแบบนี้มันทำให้สิ่งที่อยุ่สภาพจริงหรือไม่จริงมันก็จะเข้าได้ในนิยามนั้นด้วย (สิ่งต่างๆ เริ่มจากสิ่งที่ไม่มี>>จริง(แต่ไม่มี)>>มี(และจริง)) อุลามะอ์ได้กล่าวอีกว่า .สิ่งซึ่งฮารุสนั้นคือมันยอมรับทั้งสองอย่างทั้งด้านที่จริงและไม่จริง โดยที่ไม่ต้องรอให้สติปัญญาพินิจพิเคราะห์ก่อน(เช่น อัลลอจะสร้างมุมกิน อัลลอจะสร้างหรือไม่สร้างก็ได้เป็นไปได้ทั้งสองทาง ไม่ต้องรอให้มนุษย์เกิดมาเพื่อใช้ปัญญาตัดสิน) นิยามอันนี้จะไม่ต้องรอพินิจพิเคราะห์จากสติปัญา ไปพิจารณายังตัวของสิ่งนั้นได้เลย
คำสอนที่ได้จากนิยามที่กล่าวมา. การมีของอัลลอตาอาลา เป็นสิ่งที่วายิบในทางอากาล แต่การตัดสินชี้ขาดเรียกว่าวุยุบ ทำไมถึงเรียกว่าวายิบในทางอากาล เพราะว่าการมีของอัลลอตาอาลาต้องจริงอย่างเดียวเท่านั้น สติปัญญาของเราจะไม่ยอมรับว่าไม่จริงโดยเด็ดขาด และไม่ยอมรับความคลาดเคลื่อน(มีบ้างไม่มีบ้าง)หรือการเปลี่ยนแปลง(จากมีเป็นไม่มี)โดยเด็ดขาด. และเราสามารถเอาไปเปรียบเทียบกับซีฟัตประเภทจริงทั้งหลาย(ซีฟัตซัลบียะ) เช่น กีดัม บากออ์ มุคอลาฟาตุฮุลิลฮาวาดิษ เป็นต้น สำหรับซีฟัตกุดรัตของอัลลอได้ถุกเรียกวาเป็นสิ่งที่วายิบในทางอากาลเช่นกัน เราได้เรียกว่าเป็นซีฟัตประเภทจริงของอัลลอตาอาลา เพราะถึงแม้ว่ามันจะเป็นซีฟัตประเภทมีก็ตามเพราะสิ่งที่มีนั้นจะต้องเป็นสิ่งที่จริงด้วยเสมอ (แต่ถ้าเป็นสิ่งที่จริงเท่านั้นจะไม่มี) ดังนั้นกุดรัตนอกจากจริงแล้วมันมีด้วย เราจึงสามารถไปเปรียบเทียบกับซีฟัตประเภทมีอื่นๆได้เช่นเดียวกัน เช่น อิรอดัต อิลมู กาลาม เป็นต้น. โปรดจงระวังเถิด เมื่อไหร่ก็ตามที่สิ่งๆหนึ่งที่ตัวมันนั้นมี มันต้องจริงด้วยเสมอ
และการไม่มีของอัลลอนั้นเป็นสิ่งที่มุสตาฮีล นั่นคือการไม่มีของอัลลอ เป็นสิ่งที่ไม่จริง การไม่มีของอัลลอจะไม่ยอมรับโดยเด็ดขาดว่ามันจริง และเราสามารถเปรียบเทียบได้กับซีฟัตที่ตรงข้ามกับซีฟัตซัลบียะ เช่น การใหม่ การมีจุดสิ้นสุด เป็นต้น และการอ่อนแอของอัลลอก็เป็นสิ่งที่มุสตาฮีลเช่นกัน เพราะการอ่อนแอมันก็ต้องเข้าไปอยู่ในสิ่งที่ไม่จริง และเพิ่มเติมคือเมื่อมันไม่จริงแล้วมันก็ย่อมไม่มีด้วย และซีฟัตที่ตรงข้ามกับซีฟัตมาอานีย์ทั้งหลาย เช่น อ่อนแอ โง่เขลา ไม่เจตนา ซีฟัตเหล่านี้ไม่จริง ซึ่งมันก็ต้องไม่มีด้วย
และการสร้างของอัลลอต่อบรรดาฟากฟ้าและแผ่นดิน การให้ผลบุญและการลงโทษ สิ่งที่กล่าวมานี้เป็นสิ่งที่ฮารุสในทางอากาล เพราะสิ่งที่กล่าวมานั้นเป็นสิ่งที่สติปัญญายอมรับได้ทั้งสองทาง การสร้างท้องฟ้าและแผ่นดิน อัลลอจะสร้างก็ได้ไม่สร้างก็ได้. การลงโทษหรือให้ผลบุญสิ่งนั้นอัลลอจะลงโทษหรือไม่ก็ได้ (เราพิจารณาในฮุก่มอากาล แต่ถ้าพิจารณาตามสิ่งที่อัลลอสัญญาไว้ก็เป็นอีกฮุก่มหนึ่ง(อารีดีย์)) และเช่นกันบรรดาสิ่งทั้งหลายที่เปลี่ยนแปลงในทางใดทางหนึ่งเช่นท้องฟ้าและแผ่นดิน
ข้อควรระวังหลายๆประการ
แต่ละสิ่งแต่ละอย่าง /อัฟรอต (เช่น คำว่า รถ มันจะเข้าหมดเลยไม่ว่าจะเป็นยี่ห้ออะไร แต่ถ้าเราระบุแต่ละคัน นั่นคือการพิจารณาไปแต่ละสิ่งไปเลย เรียกว่าอัฟรอต) สิ่งนั้น(สิ่งที่วายิบในทางอากาล) คือสิ่งที่ปรากฏและไม่ถุกปฏิเสธโดยเด็ดขาดในสิ่งที่เป็นวายิบในทางอากาล เช่น การมีของอัลลอ กุดรัตของอัลลอ บางทีสิ่งนั้นมันมี บางทีเป็นสิ่งที่จริงเท่านั้น เช่น ซาตอัลลอมี(มีตรงๆ) แต่บางทีมันก็จริงเท่านั้น เช่น กิดัม บากอ
สำหรับอัฟรอต จากสิ่งที่มุสตาฮีลในทางอากาล แต่ละอย่างตัวมันเองนั้นถุกปฏิเสธ ตัวมันไม่มี และตัวของมันไม่จริงด้วย เธอจงเข้าใจตรงนี้ให้ดีเสียก่อนเพื่อไม่ให้เกิดการปะปนสับสนสิ่งที่มุสตาฮีลไปในสิ่งกอดีม/บารู (มุสตาฮีล=ไม่มี ไม่จริง มันจึงไม่ใช่ของเก่า/ของใหม่) อย่างเช่นสิ่งที่จะเอามาอธิบายต่อไป
วัลลอฮุอะลัม