กีตาบ มิศบาฮุลมุนีร
ตอนที่2 30/11/58
หลังจากที่กล่าวทั้ง 4 อย่าง(คือบิลมิลละห์ อัลฮัมดุลิลละห์ ซอลาวาต และสาลาม) หลังจากนั้น ได้มีส่วนหนึ่งจากบรรดาพี่น้องของฉัน ขอให้ฉันเขียนหนังสือเล่มเล็กๆเกี่ยวกับศาสนาให้อธิบายให้แก่พวกเขา ซึ่งเป็นการบรรยายเรื่องรุ่งกนอิสลามและรุ่งกนอิหม่าน ( รุ่งกนอิสลามนั้น เป็นรุ่งกนอุรฟียะห์ หลักสำคัญใหญ่ๆในอิสลาม รุ่งกนอิสลามมี 5 ข้อ ไม่ได้หมายความว่าถ้าขาดข้อใดข้อหนึ่งจาก 5 ข้อนี้แล้ว จะไม่ใช่อิสลาม ส่วนรุ่งกนอิหม่าน เป็นรุ่งกนฮากีกีย์ คือต้องมีครบทุกประการ ทั้ง 6 ประการ ถึงจะเป็นคนมุมิน) และเอียะซาน. (คือการมีคุณธรรม ปฏิบัติในสิ่งที่ดีงาม)
. หลังจากนั้นก็ได้มาขอต่อฉันอีกให้ทำการบรรยาย
-ฮุก่มชาเราะอ์(วายิบ,ฮาราม,มักโคระ,ฮารุส,สุนัต)และ
-ฮุก่มอาดัต(ฮุก่มธรรมดาทั่วไป)
-ฮุก่มอากาล คือการตัดสินสิ่งต่างๆ ด้วยสติปัญญาเรายอมรับได้หรือไม่
ฮุก่มอากาลคือ
. วุยุบ(จำต้องจริง)
อิสติฮาละห์(จำต้องไม่จริง)
ยาวาซ(จริงก็ได้ไม่จริงก็ได้)
และสิ่งที่ถูกฮุก่มคือ วายิบ มุสตาฮีล ยาอิซ.
การฮุก่มตัดสินด้วยสติปัญญา การฮุก่มจะไปตัดสินสิ่งที่ถูกฮุก่ม แต่สิ่งที่ถูกตัดสินด้วยสติปัญญา ก็เป็นอีกเรื่องนึง เช่น การมีของอัลลอฮ์
-เป็นสิ่งที่ถูกตัดสินว่า เป็นสิ่งที่วายิบ
-แต่ถ้าเราใช้สติปัญญาคิดว่ามีหรือไม่มี เราตัดสินด้วยสติปัญญาว่า. "วุยุบ"คือ การมีของอัลลอฮ์นั้น "จำต้องจริง"
สรุปก็คือ
-การมีของอัลลอนั้นเป็นสิ่งที่"วายิบ"
-ฮุกุมอากาลตัดสินว่า "วุยุบ" คือ จำต้องจริง
(ทำไมเราต้องเรียนรู้ฮุก่มอากาล ถ้าเราไม่เรียนรู้เราก้อไม่รู้จักฮุกุ่มอากาล . คนที่ไม่รู้จักฮุกุ่มอากาลเท่ากับคนๆนั้นไม่มีอากาล เราจึงต้องเข้าใจฮุก่ม. อากาล ก่อนจะไปเรียนรู้ซีฟัต วายิบ,มุสตาฮีล,ยาอิซ)
และพี่น้องของฉันได้ขอให้ฉันบรรยายเกี่ยวกับ วิชาอูซูลุดดีน ตามแนวทางอะลิซซุนนะห์วัลญามาอะห์ การที่ให้ฉันอธิบายสิ่งที่กล่าวมานั้น โดยอธิบายให้ง่ายที่จะเข้าใจคำอธิบายเหล่านั้น. และมีสำนวนที่ไม่สับสน ไม่ยากจน. เกินไป และได้นำบรรดาหลักฐานต่างๆที่เป็นอัลกุรอ่านและอัลฮาดิษ มาให้ดู พร้อมทั้งหลักฐานทางสติปัญญา ให้เรามองเห็นภาพ. ดังนั้นด้วยกับคำขอ. ต่างๆนั้น ฉันได้เก็บไปคิดเป็นเดือนๆ หลังจากนั้นอัลลอฮ์ตาอาลาได้ดลใจให้ฉัน. แท้จริงแล้วสิ่งพี่น้องที่มาขอให้ฉันได้ช่วยสอนนั้น เป็นสิ่งที่ดี ซึ่งไม่เหมาะที่ฉันจะทำการปฏิเสธ. เพราะว่าบรรดาเพื่อนพี่น้องของฉันเขารักฉัน ดังนั้น. ฉันจึงได้ยอมรับต่อคำขอร้องของพวกเขา ถึงแม้ว่าฉันไม่ได้เปนผู้เชี่ยวชาญ ในเรื่องการเขียนตำราสักทีก็ตาม
หลังจากนั้นได้ก็ได้ดำเนินไป โดยปากกาของฉัน(ได้ลงมือเขียน) ด้วยกับ. ความช่วยเหลือของอัลลอฮ์ตาอาลา โดยเขียนลงไปในกระดาษหลายๆแผ่น ซึ่งได้เขียนออกมาจากความทรงจำของฉันซึ่งฉันได้เอามาจากบรรดาครูๆ. ของฉันที่มีความเชี่ยวชาญฉลาดเฉลียว(เขาจึงสอนด้วยวิธีการที่ฉลาดเฉลียวต่อศิษย์). นอกจากฉันได้เขียนจากความจำที่ครูสอนแล้ว ฉันก็ได้เอามาจาก หนังสือของบรรดาอุลามะอ์อีกด้วย
ดังนั้นมันได้เกิดขึ้นหนังสือเล่มนี้ ฉันได้ตั้งชื่อหนังสือเล่มนี้ว่า "มิศบาฮุลมุนีร" แปลว่า แสงสว่างซึ่งทำให้เรารู้จักต่ออัลลอฮ์ตาอาลา หลังจากนั้นฉันได้วอนขอต่ออัลลอฮ์ตาอาลา ให้หนังสือเล่มนี้มีประโยชน์ต่อฉันและลูกหลาน ของฉันและเพื่อนสนิทมิตรสหายของฉัน และคนที่เขาได้ศึกษามัน และหนัง สือเล่มนี้ได้ตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้
วัลลอฮุอะลัม